ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 4 บทที่ 102 ด้านการปรุงอาหารนางก็เป็นยอดฝีมือ
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 4 บทที่ 102 ด้านการปรุงอาหารนางก็เป็นยอดฝีมือ
“ยาและอาหารมีแหล่งกำเนิดเดียวกัน อาหารหลายชนิดก็เป็นยา ระหว่างสองสิ่งนี้ไม่มีเส้นแบ่งที่แน่นอน ‘ฤทธิ์ทั้งสี่’ และ ‘รสทั้งห้า’ ของยาก็สามารถใช้กับอาหารได้เช่นกัน อาหารแต่ละชนิดก็มี ‘ฤทธิ์ทั้งสี่’ และ ‘รสทั้งห้า’ ยกตัวอย่างเช่น เจ้าสิ่งนี้…”
เซี่ยยวี่หลัวหยิบกระเทียมที่เมื่อครู่นี้ตัวเองใช้ขึ้นมา
“กระเทียม มีรสเผ็ดฤทธิ์อุ่น มีคุณสมบัติขับลม ช่วยย่อยอาหาร สลายลมในกระเพาะ ต้านทานความหนาวเย็น แก้พิษ สลายฝีหนอง สามารถใช้เพื่อรักษาอาการท้องเสีย อาเจียนเป็นเลือด และบวมน้ำ ถึงแม้มันจะรักษาอาการป่วยได้หลากหลาย ทว่า สำหรับคนที่ตัวร้อน กลางคืนหลับไม่สนิท โดยเฉพาะสตรีวัยกลางคนอายุสี่สิบกว่าหรือคนที่เสียเลือดปริมาณมาก ล้วนต้องงดเว้น”
เซี่ยยวี่หลัวกล่าวอย่างฉะฉาน ไม่ใช่แค่ซ่งฉางชิง แม้แต่เซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งต่างก็มองนางด้วยท่าทางตกตะลึง
“เนื้อเป็ดก็เช่นกัน เนื้อเป็ดบำรุงธาตุหยินเสริมส่วนพร่อง ช่วยขับปัสสาวะลดอาการบวม มีประโยชน์ต่อคนที่มีอาการไข้ต่ำ อ่อนเพลียทานอาหารได้น้อย อุจจาระแข็งแห้ง และบวมน้ำ แต่เพราะเนื้อเป็ดมีฤทธิ์เย็น ผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้อง ท้องเสีย ปวดเอว ปวดประจำเดือน พร่องธาตุหยาง ม้ามอ่อนแอ จึงไม่เหมาะกับการทานเนื้อเป็ด”
เซี่ยยวี่หลัวในยามนี้อธิบายแจกแจงอย่างฉะฉาน เมื่อพูดถึงด้านที่นางถนัด แววตาก็เปล่งประกายแสงระยิบระยับ
เดิมทีนางเรียนเกษตรศาสตร์ จึงมีความเข้าใจในคุณสมบัติของพืชชนิดต่างๆ อยู่แล้ว อีกทั้งนางชอบอาหารรสเลิศ จึงศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับอาหารและยาด้วย
ทุกครั้งที่แบ่งปันอาหารรสเลิศกับแฟนคลับบนอินเตอร์เน็ต ก็จะย้ำกำชับกลุ่มคนที่ไม่เหมาะจะทานอาหารชนิดนั้นๆ ถือว่าศึกษามามากจนช่ำชอง เซี่ยยวี่หลัวมีความเข้าใจต่อคุณสมบัติของอาหารและยาส่วนใหญ่ในชีวิตประจำวันเป็นอย่างดี
ซ่งฉางชิงมองเซี่ยยวี่หลัวด้วยท่าทางตะลึงงัน ระหว่างที่นางเอื้อนเอ่ยวาจาออกมา บนกายคล้ายจะมีประกายแสงสาดส่อง
ดวงหน้าของนางงดงาม ถึงไม่ได้แต่งแต้มด้วยเครื่องประทินโฉมก็ยังคงงดงามไร้ที่ติ ริมฝีปากบางสีแดงชุ่มฉ่ำเปิดปิด ความเร็วในการพูดไม่เร็วหรือช้าเกินไป น้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยน เหมือนมือเล็กที่อ่อนนุ่มของเด็กเล็ก กุมหัวใจเขาไว้แน่นขึ้นทีละนิด
เซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งต่างมองเซี่ยยวี่หลัวด้วยความตกตะลึงเช่นกัน
แววตาเต็มไปด้วยประกายเคารพเลื่อมใส
ทำไมพวกเขาถึงไม่รู้เลย ว่าพี่สะใภ้ใหญ่ของพวกเขามีความรู้มากถึงเพียงนี้
เซี่ยยวี่หลัวกล่าวจบ จึงแย้มรอยยิ้ม “ท่านซ่งพอใจหรือไม่? ”
ไม่ง่ายเลยกว่าซ่งฉางชิงจะเก็บคืนสายตาของตนเองที่จ้องมองตัวเซี่ยยวี่หลัว เขาเป็นคนเรียบสงบและเข้มงวดเสมอมา แม้ยามเผยรอยยิ้ม ก็แฝงเร้นด้วยความเหินห่าง แล้วจึงกล่าว “พอใจ”
เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าว “ในเมื่อเซียนจวีโหลวเป็นภัตตาคารที่ใหญ่ที่สุด ย่อมมีลูกค้าจำนวนมาก ผักตี้เอ่อนี้เพิ่งปรากฏสู่สายตาผู้คน จะมีเพียงหนึ่งเดียวในเมืองโยวหลัน ทุกคนจะได้ทานของแปลกใหม่ รวมกับที่ข้ากล่าวไว้เมื่อครู่ว่า ผักชนิดนี้มีคุณสมบัติล้างตับกรองปอด บำรุงสายตาและหัวใจ เชื่อว่าอาหารชนิดนี้ต้องได้รับความนิยมที่เซียนจวีโหลวแน่นอน”
ซ่งฉางชิงย่อมเข้าใจความหมายของเซี่ยยวี่หลัว
ที่นางกล่าวมานั้นไม่ผิด ผักตี้เอ่อต้องได้รับความนิยมแน่นอน เซียนจวีโหลวก็จะได้ผลกำไรดีขึ้นในช่วงระยะเวลาหนึ่งด้วย
ซ่งฉางชิงก็รู้สึกตื่นเต้นอยากลองแล้วเหมือนกัน
เขาตวัดริมฝีปากแย้มรอยยิ้ม ครั้งนี้ในที่สุดก็ได้เห็นรอยยิ้มของเขาแล้ว
เดิมทีซ่งฉางชิงก็มีหน้าตาหล่อเหลา
ยามไม่ยิ้มดูเคร่งขรึมเข้มงวด ยามยิ้มดวงหน้าหล่อเหลาดูอบอุ่นและอ่อนโยน เป็นลักษณะของคุณชายผู้ดี “ฮูหยินอยากร่วมงานกันอย่างไร? ขอเพียงเป็นสิ่งที่เซียนจวีโหลวสามารถให้ได้ วันนี้ก็สามารถทำข้อตกลงการร่วมงานกันได้เลย”
เซี่ยยวี่หลัว “ท่านซ่งสามารถตัดสินใจได้หรือไม่? ”
ซ่งฉางชิงพยักหน้า “ได้”
ทั้งสองคนเข้าไปคุยธุระกันในห้องพิเศษห้องหนึ่ง เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้พาเด็กสองคนเข้าไปด้วย เซียวจื่อเซวียนพาน้องสาวไปกินผลไม้และของว่างในห้องข้างๆ
เซี่ยยวี่หลัวนั่งตัวตรงอยู่บนเก้าอี้ บุคลิกสง่างาม มุมปากเผยรอยยิ้มอย่างมีมารยาท รูปโฉมงดงามอย่างมิอาจหาใดเทียม
เหมือนว่านางจะอารมณ์ดีตลอดเวลา ยามไม่กล่าวอะไร คิ้วงามโก่งโค้งราวกับกำลังยิ้มอยู่ จ้องมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าจริงจัง ไม่มีความรู้สึกว่าวางตัวไม่เหมาะแม้แต่น้อย ซ่งฉางชิงที่กำลังพูดอยู่ตลอด จู่ๆ เสียงของเขาก็หยุดชะงัก
ดวงตางดงามสว่างพร่างพรายประหนึ่งดวงดารานับพันนับหมื่น มองแวบเดียวก็ประทับติดตรึงในใจ
ซ่งฉางชิงก้มหน้าตวัดริมฝีปากยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวต่อ
เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้พูดขัดเขา ฟังเขากล่าวอยู่ตลอด เมื่อมีความคิดเห็นที่แตกต่างเป็นครั้งคราว เซี่ยยวี่หลัวก็จะเอ่ยปากด้วยถ้อยคำนุ่มนวลน้ำเสียงอ่อนโยน แสดงความคิดเห็นของตัวเองด้วยวาจารื่นหู หลังจากสนทนากันเสร็จ ทั้งสองคนก็บรรลุเป้าหมายวัตถุประสงค์ของตนเอง
“ข้าจะให้วิธีปรุงผักตี้เอ่อสองรูปแบบกับภัตตาคาร และรับประกันว่า สูตรปรุงผักตี้เอ่อนี้จะมอบให้เซียนจวีโหลวเท่านั้น จะไม่มอบให้ภัตตาคารแห่งอื่นอีก” เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าว
ผักตี้เอ่อนั้นมีวิธีการปรุงหลากหลายรูปแบบ เซี่ยยวี่หลัวมอบสูตรการปรุงสองรูปแบบที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในภพก่อน สูตรหนึ่งเป็นสูตรที่ได้ทานในห้องครัวเมื่อครู่ อีกสูตรหนึ่งเป็นผักตี้เอ่อผัดพริกขี้หนู
แม้จะมีเพียงแค่ผักตี้เอ่อธรรมดา ผัดกับพริกขี้หนู แต่เซี่ยยวี่หลัวมั่นใจว่า คนที่ชอบกินเผ็ดต้องชอบแน่นอน
สูตรอาหารต้องใช้พู่กันจดไว้ ซ่งฉางชิงหยิบพู่กันขึ้น เซี่ยยวี่หลัวกำลังจะรับมา ซ่งฉางชิงกลับกล่าว “เชิญฮูหยินกล่าว ข้าจะจดเอง”
เซี่ยยวี่หลัวชักมือกลับ
หรือซ่งฉางชิงผู้นี้จะคิดว่านางเขียนหนังสือไม่เป็น?
นางท่องสูตร ซ่งฉางชิงจดไว้
สูตรอาหารง่ายมาก พ่อครัวทั่วไปอ่านรอบเดียวก็สามารถทำตามได้
แต่ซ่งฉางชิงเป็นคนระมัดระวัง ระหว่างที่เขียนอยู่ก็เชิญพ่อครัวมา หลังจากจดเสร็จ พ่อครัวถามคำถามจำนวนหนึ่ง เซี่ยยวี่หลัวตอบอย่างละเอียด จากนั้นพ่อครัวจึงนำผักตี้เอ่อสองตะกร้าที่เซี่ยยวี่หลัวหิ้วมาและสูตรอาหารที่ซ่งฉางชิงเขียนออกไป
เขาต้องทดสอบดูก่อน ว่าอาหารที่ทำออกมาจะได้รสชาติเหมือนที่เซี่ยยวี่หลัวทำหรือไม่
ซ่งฉางชิงพูดคุยเรื่องสูตรอาหารกับเซี่ยยวี่หลัวต่อ
เขาให้ราคาค่าสูตรอาหารสูตรละห้าตำลึง ถือเป็นราคาสูงมากแล้ว
สูตรละห้าตำลึง สองสูตรก็สิบตำลึง
อาหารสองสูตรสิบตำลึง เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก คัดตำราหนึ่งเล่มเพิ่งได้สี่สิบอิแปะ เงินห้าตำลึงต้องคัดตำราร้อยกว่าเล่ม คัดจนแขนแทบหัก
เวลานี้ทางฮวาหม่านยียังต้องรอให้ถึงสิ้นเดือนสี่ถึงจะได้เงิน เงินห้าตำลึงที่เบิกล่วงหน้ามาจากฮวาเหนียงก็ใช้ไปเกือบหมดแล้ว โชคดีที่ขณะนี้ได้มาอีกสิบตำลึง
เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกดีใจมาก ถือว่ามาไม่เสียเที่ยว
ซ่งฉางชิงเห็นนางได้รับเงินก็ยิ้มทันที คิ้วงามโก่งโค้ง ไม่รู้เพราะเหตุใด ซ่งฉางชิงไม่รู้สึกว่านางเหมือนคนที่เห็นแต่ผลประโยชน์ตรงหน้า ตรงกันข้าม เขารู้สึกว่านางช่างน่ารักยิ่งนัก
แววตาเขาฉายประกายยิ้มแย้มที่เขาเองก็ไม่ทันรู้ตัว เมื่อเขารู้ตัว ก็รีบก้มหน้าหยิบถ้วยชาตรงหน้าขึ้นมา แสร้งทำเป็นดื่มชา กลบเกลื่อนประกายยิ้มแย้มในแววตา
เมื่อวางถ้วยชาลงอีกครั้ง ก็กลับสู่สภาพนิ่งสงบเข้มงวดดังเดิม
“เช่นนั้นการจัดหาผักตี้เอ่อล่ะ? ” ซ่งฉางชิงเอ่ยถาม
คนทั่วไปไม่รู้ว่าผักตี้เอ่อคืออะไร จะหาคนที่จะจัดหาผักตี้เอ่อมาในทันทีทันใด เกรงว่าต้องเสียเวลาไม่น้อย หากให้คนที่รู้จักผักชนิดนี้เป็นคนจัดหา ทั้งสามารถประหยัดเวลา และจัดหาได้ง่ายขึ้น
นอกจากนั้น ยังสามารถ…
เซี่ยยวี่หลัวเพิ่งเปิดปากบอกว่าภัตตาคารของพวกท่านมีคนจัดหาวัตถุดิบจำนวนมาก น่าจะหาคนจัดหาได้เร็วมาก แต่ซ่งฉางชิงกลับพูดตัดบท “ในเมื่อฮูหยินเป็นคนเดียวที่รู้จักผักตี้เอ่อ ถ้าอย่างไรให้ฮูหยินเป็นคนจัดหาผักชนิดนี้ได้หรือไม่? ”
เซี่ยยวี่หลัวตกตะลึง “ข้า…”
นางได้เงินมาสิบตำลึงก็พึงพอใจแล้ว ถือว่าเกินความคาดหมายของนางแล้ว เป็นคนจัดหา เหมือนว่าจะทั้งยุ่งยากและเหนื่อยมาก!