ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 4 บทที่ 109 เถ้าแก่ของเซียนจวีโหลวยิ้มเป็นด้วยหรือนี่
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 4 บทที่ 109 เถ้าแก่ของเซียนจวีโหลวยิ้มเป็นด้วยหรือนี่
“วันนี้เซียวฮูหยินรับซื้อผักตี้เอ่อได้สามร้อยสิบสองจินขอรับ นางเกรงว่าจะมีข้อผิดพลาด จึงหักเศษสิบสองจินออก ทั้งหมดสามร้อยจิน ข้าน้อยให้เงินนางไปหนึ่งตำลึงครึ่ง ขณะนางรับเงิน ยิ้มจนดวงตาโค้งเลยทีเดียว ช่างเป็นคนที่ชื่นชอบในทรัพย์สินเงินทองยิ่งนัก”
ประหลาดเสียจริง คุณชายย้ำกำชับกับเขา ให้มองดูลักษณะท่าทางขณะเซี่ยยวี่หลัวรับเงินโดยละเอียด เวลานั้นนางยิ้มจนเห็นแต่ฟันไม่เห็นตา ไม่มีความสำรวมและหนักแน่นเหมือนสตรีนางหนึ่งแม้แต่น้อย
ซ่งฉางชิงนั่งอยู่บนเก้าอี้เท้าแขนโค้งตัวกว้าง มือข้างหนึ่งค้ำใบหน้าไว้ มืออีกข้างหนึ่งวางไว้บนโต๊ะ นิ้วมือเรียวยาวเคาะบนโต๊ะเป็นครั้งคราว
นิ้วมือของขาวเรียวยาวกว่าปกติ ข้อกระดูกสม่ำเสมอ ดูดีจนไม่อาจละสายตา เริ่มแรกมุมปากไม่มีรอยยิ้มแต่น้อย ดูเข้มงวดและจริงจัง
ทว่า เมื่อได้ยินว่าขณะที่เซี่ยยวี่หลัวรับเงินก็ยิ้มจนแทบไม่เห็นตา มุมปากของซ่งฉางชิงตวัดขึ้นเล็กน้อย ซ่งฝูเห็นคุณชายแย้มรอยยิ้มอ่อนโยน เหมือนสายลมฤดูใบไม้ผลิในเดือนสาม อบอุ่นจนทำให้รู้สึกอุ่นไปทั้งตัว!
“การคิดเลขของเจ้าถือว่าดีขึ้นเรื่อยๆ ” ซ่งฉางชิงยิ้มพร้อมกล่าว การติดตามอยู่ข้างกายเขา มีความก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ
ซ่งฝูยิ้มด้วยความอาย “ข้าน้อยไม่ได้คำนวณ ฮูหยินเซียวเป็นคนคำนวณขอรับ! ”
“นางเป็นคนคำนวณ? ” มือของซ่งฉางชิงที่กำลังเคาะโต๊ะพลันหยุดชะงัก นิ้วมือเรียวยาวหุบเข้าในฝ่ามือ “นางคำนวณอย่างไร? ”
ซ่งฝูหวนคิดดู เหมือนว่าเขาเองก็ไม่รู้ว่าฮูหยินเซียวคำนวณอย่างไร
“ข้าน้อย… ไม่ทราบเช่นกันขอรับ นางเพียงคำนวณปริมาณ จากนั้นจึงบอกจำนวนเงิน” ซ่งฝูกล่าว “เวลานั้นมีโต๊ะวางอยู่หนึ่งตัว มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งนั่งบันทึกตัวเลขอยู่ บนนั้นบันทึกชื่อคนไว้ ทั้งยังบันทึกปริมาณและจำนวนเงินด้วย บางทีอาจคำนวณไว้ก่อนแล้วก็เป็นได้ขอรับ”
ไม่อย่างนั้น ใครจะสามารถคำนวณเงินหนึ่งตำลึงครึ่งออกมาได้ โดยใช้เวลาไม่ถึงพริบตากัน!
ลักษณะท่าทางคล้ายเวลาเซียนจวีโหลวรับซื้อผัก
ซ่งฉางชิงตวัดริมฝีปากแย้มรอยยิ้ม เลียนแบบได้เหมือนทีเดียว
เริ่มจากการอุ่นเครื่องเมื่อวาน วันนี้พอลูกค้ามา ก็สั่งผักตี้เอ่อผัดไข่ เดิมทีซ่งฉางชิงอยากเก็บไว้หนึ่งร้อยจินให้ถึงช่วงเย็น แต่ทุกโต๊ะสั่งประมาณสองที่ เมื่อถึงช่วงเย็น ก็เหลือเพียงแค่ห้าสิบจินเท่านั้น
ประการแรกเพราะผักตี้เอ่อมีรสสัมผัสพิเศษ ผัดกับพริก เมื่อคลุกข้าวกินเรียกได้ว่าเป็นอาหารรสเลิศ ประการที่สอง เพราะผักตี้เอ่อมีคุณสมบัติล้างตับกรองปอด บำรุงสายตาและหัวใจ ด้วยเหตุนี้เอง คนมีฐานะจำนวนไม่น้อยต่างก็อยากชิมเพิ่มอีกหลายจาน
ซ่งฉางชิงเอนตัวพิงตรงโต๊ะคิดเงิน มองดูกิจการที่รุ่งเรืองถึงเพียงนี้ ใบหน้าที่เคร่งขรึมเสมอมาดูอ่อนโยนขึ้นไม่น้อย กลับยังคงนิ่งสงบและเย็นชา ไม่มีรอยยิ้มแม้แต่น้อย
เขาไม่ได้เห็นกิจการของเซียนจวีโหลวรุ่งเรืองเช่นนี้มานานเพียงไหนแล้ว
ถือว่าได้สมบัติล้ำค่ามาจริงๆ
เมื่อคิดถึงสมบัติล้ำค่าที่ตนเองได้มา มุมปากของซ่งฉางชิงตวัดขึ้นเล็กน้อย เมื่อลูกค้าประจำที่กินข้าวเสร็จแล้วมาชำระเงินเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของซ่งฉางชิง ก็รู้สึกประหลาดใจ
เถ้าแก่ร้านเซียนจวีโหลว ยิ้มเป็นด้วยงั้นหรือ!
เพียงแต่เขากำลังจะหยอกเย้าเสียหน่อย ก็เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าซ่งฉางชิงหายไปอย่างไร้ร่องรอย กลับสู่ท่าทางเคร่งขรึมจริงจังเหมือนเคย ราวกับว่ารอยยิ้มที่เห็นเมื่อครู่ไม่มีอยู่จริง
ณ หมู่บ้านสกุลเซียว
วันนี้เซี่ยยวี่หลัวงานยุ่งจนสายตัวแทบขาด หลังจากรับซื้อผักตี้เอ่อเสร็จตั้งแต่เช้า นางก็พาเด็กสองคนไปเก็บผักตี้เอ่อต่อ
ครั้งนี้ผู้คนแทบทั้งหมู่บ้านต่างก็ออกมาเก็บผัก
เมื่อวานทุกคนยังไม่ได้เห็นตัวเงินที่แท้จริง ขณะเก็บผักยังมีการกระซิบกระซาบกันอยู่บ้าง ภาพเหตุการณ์เช้าวันนี้ ถือว่าได้เห็นตัวเงินอย่างแท้จริงแล้ว
โดยเฉพาะครอบครัวที่มีสมาชิกจำนวนมาก ก็ออกมากันทั้งครอบครัว เก็บทีเดียวได้สามสิบถึงสี่สิบจิน ท่านปู่เซียวให้เงินเหรียญอิแปะร้อยกว่าเหรียญโดยไม่กะพริบตาด้วยซ้ำ
แม่เจ้า แค่วันเดียวก็หาเงินได้ร้อยกว่าอิแปะ ทั้งยังซื้อสดจ่ายสด เรื่องดีขนาดนี้ก็มีแค่ช่วงนี้เท่านั้น
ดังนั้น ขอเพียงเป็นคนที่เดินได้และทำงานได้ แม้แต่เด็กที่อายุน้อยกว่าเซียวจื่อเมิ่งยังออกมาช่วยเก็บผัก เมื่อมีคนจำนวนมาก ผักตี้เอ่อในละแวกนี้จึงหมด ต้องเดินออกไปไกลขึ้น
เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้ไป เก็บมาได้หนึ่งตะกร้าก็พาเด็กๆ กลับบ้าน
ใกล้ถึงช่วงเที่ยงแล้ว นางต้องกลับไปทำอาหารให้เด็กๆ กิน และส่งไปให้ท่านปู่เซียวชุดหนึ่งด้วย
เซี่ยยวี่หลัวไปจับปลาที่สวนหลังบ้านมาสามตัว ปลาอยู่ในบ่อน้ำ เซียวจื่อเซวียนโยนดินโคลนที่มีไส้เดือนเข้าไปในบ่อน้ำเป็นประจำ เลี้ยงเช่นนี้มากว่าครึ่งเดือน ปลาตัวใหญ่ขึ้นไม่น้อย เซี่ยยวี่หลัวไม่กล้าจับมากเกินไป ปลาเหล่านี้ ต้องค่อยๆ เลี้ยงให้โต รอให้ราชบัณฑิตน้อยกลับมากิน!
ช่วงบ่ายขึ้นเขาไปจับปลามาจำนวนหนึ่งเพื่อนำมาเติมในบ่อน้ำ
ปลาสามตัว เซี่ยยวี่หลัวตุ๋นเป็นน้ำแกง เคี่ยวจนได้น้ำแกงปลาจี้สีขาวดุจหิมะ แค่ได้กลิ่นก็แทบกัดลิ้น ยังมีผักตี้เอ่อผัดไข่ที่กินช่วงเช้า เซี่ยยวี่หลัวเห็นว่าท่านปู่เซียวชอบกินมาก ช่วงเที่ยงนางผัดไว้จำนวนมาก และมีข้าวหุงด้วย หลังจากทำอาหารเสร็จ เซี่ยยวี่หลัวแบ่งส่วนของท่านปู่เซียวออกมาก่อน ให้เซียวจื่อเซวียนนำไปส่ง
ส่วนนางและเซียวจื่อเมิ่งก็ทำความสะอาดผักตี้เอ่อ รอเซียวจื่อเซวียนกลับมา ผักตี้เอ่ออร่อยเพียงนี้ คาดว่าราชบัณฑิตน้อยก็น่าจะชอบรสชาตินี้ เพื่อเป็นการเอาอกเอาใจท่านราชบัณฑิตน้อยในอนาคต เซี่ยยวี่หลัวตัดสินใจว่าต่อไปผักตี้เอ่อที่นางเก็บมาได้จะไม่ขายแล้ว
นางจะตากแห้ง รอให้เซี่ยยวี่กลับมาค่อยผัดให้เขากิน
พอคิดว่าเซียวยวี่น่าจะชอบ เซี่ยยวี่หลัวก็ยิ้มออกมา
ท่านราชบัณฑิตน้อยในอนาคต…
เพราะเหตุไรนางถึงได้กำไรมากขนาดนี้!
ข้ามมิติมาก็ได้แต่งกับผู้มีความสามารถแฝงเร้นสูงถึงเพียงนี้!
หากในภายภาคหน้านางไม่ต้องเผชิญกับจุดจบที่น่าเวทนาเช่นนั้น สภาพการณ์ของตนเองในตอนนี้ก็ถือว่าดีมากทีเดียว!
พอคิดถึงเซียวยวี่…
เซี่ยยวี่หลัวมีความรู้สึกตั้งตารอคอย ไม่รู้ว่าบุรุษผู้นั้นจะเป็นคนเช่นไร!
จะตัวสูงหรือเตี้ย รูปงามหรืออัปลักษณ์?
ในห้วงภวังค์ของเซี่ยยวี่หลัวไม่มีความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมแม้แต่น้อย
และเป็นเพราะไม่มีความทรงจำ ดังนั้น เมื่อคิดถึงคนผู้นั้น ภายในใจเซี่ยยวี่หลัวจึงมีความรู้สึกสงสัยใคร่รู้เสียมากกว่า
หลังจากยิ้มแล้วก็รู้สึกดูแคลนตนเอง คิดแต่จะเอาอกเอาใจบุรุษคนหนึ่งอย่างไร้ยางอาย
แต่ยางอายจะสำคัญแค่ไหน เมื่ออยู่ต่อหน้าชีวิต ยางอายก็เปรียบเสมือนเมฆหมอกลอยล่อง
ชีวิตถึงจะสำคัญที่สุด!
ประจบก็ประจบเถอะ อย่างน้อยก็ดีกว่าต้องจบสิ้นชีวิต! ถึงเวลาตัวเองจากไปอย่างปลอดภัย ค่อยออกค้นหาชีวิตที่มีความสุขของตนเอง!
เซี่ยยวี่หลัวตัดสินใจแล้ว หลังจากล้างผักตี้เอ่อเสร็จก็วางไว้ในกระด้งเพื่อตากแดด