ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 4 บทที่ 97 คนไร้ยางอาย ใต้หล้านี้ไม่มีใครเทียม
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 4 บทที่ 97 คนไร้ยางอาย ใต้หล้านี้ไม่มีใครเทียม
ช่างเป็นสตรีที่งดงามยิ่งนัก ชั่วชีวิตนี้หากได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหญิงงามเช่นนี้ ก็ถือว่าคุ้มแล้ว
เซี่ยยวี่หลัวเห็นแล้วรู้สึกขยะแขยงจนแทบอาเจียน
เซียวจื่อเซวียนใช้ร่างกายเล็กของตนขวางอยู่ตรงหน้าเซี่ยยวี่หลัว จ้องหลัวไห่ตี้เขม็ง
หลัวไห่ตี้ไม่เห็นเขาแม้แต่น้อย ดวงตาที่ฉายประกายมักมากในกามแทบจะแนบติดบนตัวเซี่ยยวี่หลัว
เดิมที หลัวซื่อก็เป็นคนไร้เหตุผลไม่ยอมรามือง่ายๆ อยู่แล้ว คนที่ไร้เหตุผล หากมีคนกล่าวว่าสาเหตุที่ขาของนางหักเป็นเพราะเซี่ยยวี่หลัว นางจะปล่อยโอกาสดีเช่นนี้หลุดมือไปได้อย่างไร
อย่างไรเสีย อยู่ที่บ้านก็ไม่มีคนดูแล แม้แต่น้ำอุ่นก็ไม่ได้ดื่มสักคำ มิสู้มาอยู่ที่นี่ คนใจทรามอย่างเซี่ยยวี่หลัวจะไม่ดูแลนางได้หรือ
ขอเพียงได้เข้าประตูบานนี้ คิดจะให้นางออกไป ก็ไม่ได้ง่ายถึงเพียงนั้น!
“เซี่ยยวี่หลัว หากวันนี้เจ้าไม่ชดใช้เงินให้ข้า ข้าก็จะนอนอยู่ในบ้านเจ้า ถึงอย่างไรข้าก็ต้องนอนพักรักษาตัวสามเดือน อย่างมาก สามเดือนนี้ก็ให้เจ้าปรนนิบัติดูแลการกินการอยู่ของข้า! ”
หลัวซื่อส่งสายตาเป็นสัญญาณ หลัวไห่เทียนรีบเดินขึ้นหน้าไปยกบานประตู ยกขึ้นด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งไม่มีคนยก!
อีกคนไปไหนแล้ว?
หลัวไห่ตี้ยังจับจ้องไปที่เซี่ยยวี่หลัว น้ำลายแทบจะไหลออกมา!
“หลัวไห่ตี้ เจ้ามองอะไรของเจ้า ไม่เคยเห็นสตรีหรืออย่างไร! ” หลัวไห่เทียนดุน้องชายของเขาทีหนึ่ง
หลัวไห่ตี้เพิ่งตอบสนอง เช็ดคราบน้ำลายที่ไหลออกมา วิ่งเหยาะๆ ไปยกหลัวซื่อ
ทั้งสองคนยกหลัวซื่อเข้าประตู หลัวซื่อกล่าวอย่างถือดี “เซี่ยยวี่หลัว เจ้าไม่ชดใช้เงินก็ได้ แต่สามเดือนนี้ข้าจะกินจะอยู่ที่บ้านเจ้า”
เซี่ยยวี่หลัวกลัวจนรีบเบี่ยงหลบ แสร้งทำทีเป็นหวาดกลัวเสียยิ่งกว่ากระไร
ข้างเท้านางมีหินเล็กก้อนหนึ่ง เตะไปด้านหน้าเบาๆ หินถูกเตะไปอยู่บริเวณใต้เท้าหลัวไห่ตี้ที่ตามอยู่ด้านหลังพอดี
หลัวไห่ตี้ไม่ทันระวังหินที่อยู่ใต้เท้าตนเอง เหยียบลงไปทั้งอย่างนั้น หินอันแหลมคมทิ่มแทงเท้าของเขาจนเจ็บ เขาล้มออกด้านข้างจนเท้าพลิก มือลื่นจนบานประตูที่ยกอยู่หล่นลงพื้น
ร่างกายท่อนบนของหลัวซื่อที่นอนอยู่บนบานประตูไถลลงพื้น ก่อนจะส่งเสียงร้องโอดโอยออกมา
“หลัวไห่ตี้ เจ้ายกอย่างไรของเจ้า? ”
ศีรษะของหลัวซื่อพุ่งลงมา ไม่ทันระวังจึงทำให้คอเคล็ด ปวดจนนางจับคอของตัวเองพร้อมขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “โอ๊ย คอของข้า คอของข้า…”
หลัวไห่ตี้ก็ล้มก้นกระแทกพื้นจนก้นลาย นั่งอยู่บนพื้นฟึดฟัดอยู่นานก็ยังลุกไม่ขึ้น
แผลเก่าของหลัวซื่อยังไม่ทันหายก็ได้แผลใหม่ มีคนเห็นเช่นนั้นจึงกล่าว “แม่เสี่ยวฮวา เจ้าดูสิ หากเจ้าพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านดีๆ คอของเจ้าจะบาดเจ็บได้อย่างไร! ”
“จริงด้วย การกระทำของเจ้า แม้แต่สวรรค์ยังทนดูไม่ได้ นี่ถือเป็นการลงโทษเจ้า! ”
หลัวซื่อจะเชื่อเรื่องสวรรค์ได้อย่างไร จับคอพลางร่ำไห้โวยวาย
เซี่ยยวี่หลัวแสดงสีหน้ากังวลใจ “แม่เสี่ยวฮวา คอของท่านบาดเจ็บ คงไม่คิดโทษข้าอีกใช่หรือไม่? ทุกคนต่างก็เห็นกับตา ว่าพี่น้องของท่านไม่ทันระวังจึงหกล้ม ไม่เกี่ยวข้องกับข้าแม้แต่น้อย! ”
นางแสดงสีหน้ากังวลใจ วาจาที่เอื้อนเอ่ยออกมา ทำให้ทุกคนขำขันจนน้ำตาแทบไหล
“นั่นสิ หลัวซื่อ นี่เจ้าร่วงลงมาเอง เคยเห็นคนหน้าไม่อาย แต่ไม่เคยเห็นคนที่ไร้ยางอายเช่นเจ้า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับภรรยาเซียวยวี่แม้แต่น้อย! ”
“ใครบอกว่าไม่เกี่ยว ข้าล้มอยู่หน้าบ้านนาง หากหน้าบ้านนางไม่มีก้อนหิน พี่น้องของข้าจะหกล้มได้หรือ? ” หลัวซื่อตะคอกเสียงดัง
สมกับเป็นคนไร้ยางอาย ใต้หล้านี้ไม่มีผู้ใดเทียม
เซี่ยยวี่หลัวได้รู้แล้วว่าคนไร้ยางอายเป็นเช่นไร นางทั้งเหนียมอายทั้งโมโห สีหน้าแดงก่ำ โมโหจนทนไม่ไหว “แม่เสี่ยวฮวา ท่านจะไร้เหตุผลเช่นนี้ไม่ได้! ”
แสร้งเป็นคนดีทำตัวน่าสงสาร ใครก็ทำเป็น!
นางเองก็ร้องไห้เก่งมากเหมือนกัน!
เดิมทีฟ่านซื่อกำลังพาบุตรเล่นอยู่ข้างนอก ได้ยินว่าหลัวซื่อพาพี่น้องไปคิดบัญชีกับเซี่ยยวี่หลัว จึงรีบวิ่งกลับไปหาเซียวยิง เมื่อเซียวยิงได้ฟังดังนั้น ก็วางตำรารีบตามมาทันที
เพิ่งมาถึง ก็เห็นสองพี่น้องสกุลหลัวรังแกเซี่ยยวี่หลัวที่เป็นสตรี ส่วนเซียวจื่อเซวียนก็กางแขนทั้งคู่ ขวางอยู่ตรงหน้าเซี่ยยวี่หลัวเหมือนลูกผู้ชาย
เขากำลังปกป้องเซี่ยยวี่หลัว!
เซียวยิงรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย ความสัมพันธ์ระหว่างจื่อเซวียนและเซี่ยยวี่หลัวดีถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน!
ถึงแม้เซียวยิงจะไม่ชอบเซี่ยยวี่หลัว แต่ก็ไม่อาจทนดูภรรยาของเซียวยวี่ถูกผู้อื่นรังแกได้ ดังนั้นเขาจึงเดินขึ้นหน้าพร้อมกล่าว “สองพี่น้องสกุลหลัว เซียวยวี่ไม่อยู่ที่บ้าน หากมีเรื่องอะไร ก็คุยกันดีๆ อย่าทำให้เด็กสองคนตกใจกลัว! ”
ก็จริงไม่ใช่หรือ เด็กสองคนตกใจกลัวจนใบหน้าขาวซีดแล้ว
หลัวไห่เทียนรูปร่างสูงใหญ่ แบมือไปตรงหน้าเซียวยิง กล่าวอย่างไร้ยางอาย “ทำไม? เจ้าบอกให้คุยกันดีๆ หรือว่าเจ้าจะมาชดใช้เงิน? ถ้าไม่ให้เงินห้าตำลึง ก็ไสหัวไปเสีย เจ้าเป็นตัวอะไร มีสิทธิอะไรมายุ่งเรื่องนี้! ”
เซียวยิงโมโหจนหน้าแดง เขายังไม่ทันเอ่ยปาก เซี่ยยวี่หลัวก็กล่าวด้วยสีหน้าจริงจังอย่างไม่เกรงกลัวต่อหลัวไห่เทียน “เขาเป็นสหายที่ดีของสามีข้า วันนี้แค่เห็นว่าพวกเราโดนรังแก จึงกล่าววาจาทวงความเป็นธรรมแทนพวกเราเท่านั้น! ท่านจะว่าอะไรก็ว่าข้า ดึงคนบริสุทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ถือเป็นเหตุผลอะไรกัน! ”
นางไม่อาจทนดูการกระทำของเขาที่รังแกคนสัตย์ซื่อ และไม่อาจยอมให้คนที่ช่วยพูดแทนนางต้องถูกกระทำ จึงตอบโต้กลับไปโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
เซี่ยยวี่หลัวช่วยพูดแทนเซียวยิง กลับทำให้เซียวยิงรู้สึกประหลาดใจ
หลัวไห่เทียนยืดคอเหวี่ยงหมัด “ทำไม ข้าจะพูดอะไรเจ้ามีสิทธิอะไรมายุ่ง! มาจากไหนก็ไสหัวกลับไป วันนี้ใครมาก็ไม่มีประโยชน์ เรื่องของน้องสาวข้า วันนี้ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ต้องมีคำชี้แจง”
ยังไม่ทันสิ้นเสียง ก็มีเสียงน่าเกรงขามดังขึ้นจากด้านหลัง “เจ้าเป็นนักเลงหัวไม้จากแห่งใดกัน กล้ามากระทำการอย่างอุกอาจที่หมู่บ้านสกุลเซียวของข้า ทั้งยังเอ่ยวาจาล่วงเกินซิ่วไฉหมู่บ้านสกุลเซียวของเรา นายอำเภอพบเซียวยิงยังต้องมีมารยาท พวกเจ้าจะใหญ่กว่านายอำเภอเชียวหรือ? ”
เซียวจิ้งยี่มาแล้ว
ในมือเขากุมไม้เท้าไว้ เดินมาด้วยความร้อนอกร้อนใจ เห็นหลัวซื่อนอนอยู่บนพื้น สภาพผมเผ้ายุ่งเหยิงนั่น เซียวจิ้งยี่โมโหจนเพลิงโทสะลุกโชน ระหว่างทางมาได้ยินว่า หลัวซื่อยืนกรานว่าขาของนางถูกเซี่ยยวี่หลัวตีจนหัก จึงเรียกพี่น้องจากครอบครัวตัวเองมาเพื่อหาเรื่องเซี่ยยวี่หลัว!
เซี่ยยวี่หลัวผ่อนลมหายใจด้วยความโล่งอก หัวหน้าหมู่บ้านมาแล้วก็ดี ในที่สุดนางก็ไม่ต้องแสร้งทำเป็นอ่อนแอแล้ว
แสร้งทำเป็นอ่อนแอก็ลำบากมากเหมือนกัน!
เซียวยิงยืนอยู่ด้านหลังเซี่ยยวี่หลัว เมื่อเห็นว่าร่างกายนางที่เดิมทีแข็งเกร็งผ่อนคลายลง เพียงคิดว่านางไม่กลัวแล้ว ส่วนเซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งที่ขวางอยู่ตรงประตู เมื่อเห็นหัวหน้าหมู่บ้านมาแล้ว ก็รีบกอดเอวเซี่ยยวี่หลัวไว้
พวกเขาไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย นอกจากนั้น ท่าทางของพวกเขาดูเป็นธรรมชาติ พิงอยู่บนตัวเซี่ยยวี่หลัวดูสนิทสนมยิ่งนัก ราวกับว่าทำเรื่องเช่นนี้จนเคยชินแล้วอย่างไรอย่างนั้น
เซียวยิงรู้ว่าเมื่อก่อนเด็กสองคนนี้กลัวเซี่ยยวี่หลัวแทบตาย ทว่าขณะนี้เห็นเด็กสองคนสนิทสนมกับเซี่ยยวี่หลัวถึงเพียงนี้ ก็ตกใจเป็นอย่างมาก
หลัวซื่อเห็นหัวหน้าหมู่บ้านมาแล้ว ยังคงร่ำไห้โวยวาย “หัวหน้าหมู่บ้าน ข้าสบายดีมาตลอด หากไม่ใช่เพราะวันนั้นเซี่ยยวี่หลัวเตะข้า ไม่เช่นนั้นข้าจะหกล้มจนขาหักได้อย่างไร หัวหน้าหมู่บ้าน ท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับข้าด้วยนะเจ้าคะ! ”
ความเป็นธรรม?
ช่างเป็นคนที่เอาแต่ได้ไม่รู้จักพอ แสร้งเป็นผู้ดีทั้งที่ทำเรื่องชั่วช้า