ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 6 บทที่ 179 พี่สะใภ้ใหญ่ร้องไห้หลายครั้งแล้ว
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 6 บทที่ 179 พี่สะใภ้ใหญ่ร้องไห้หลายครั้งแล้ว
เรื่องที่เซียวหมิงจูมีใจให้เขา ตั้งแต่ตอนที่นางมอบผ้าเช็ดหน้าปักลายยวนยางให้เขา เซียวยวี่ก็พอจะรู้บ้างแล้ว
เขาไม่ได้ชอบพอเซียวหมิงจู เพียงเห็นนางเป็นน้องสาว ย่อมไม่ปล่อยให้นางมีความหวังใดๆ ตอนนั้นจึงกล่าวปฏิเสธทันที เรื่องนี้มีเพียงพวกเขาสองคนที่รู้ เขาไม่ปล่อยให้บุคคลที่สามรู้แน่นอน เพื่อไม่ให้ชื่อเสียงของเซียวหมิงจูต้องเสื่อมเสีย
ตั้งแต่มาถึงหมู่บ้านสกุลเซียว เซียวหมิงจูเคยยื่นมือเข้าช่วยเหลือพวกเขาอยู่หลายครั้ง บุญคุณนี้ อย่างไรเซียวยวี่ก็ต้องตอบแทน
เซียวจื่อเซวียนส่ายหน้า “เปล่าขอรับ พี่สะใภ้ใหญ่ไม่ได้ทำอะไร และไม่ได้กล่าวอะไรเลย”
เซียวยวี่ขานตอบทีหนึ่ง อย่างไรเซียวหมิงจูก็เป็นสตรี ต่อไปยังต้องออกเรือน หากเกิดเรื่องเสื่อมเสียอะไร ต้องมีผลต่อการเลือกคู่ในอนาคตแน่นอน
“พี่ใหญ่ อีกเดี๋ยวท่านยังจะไปกินข้าวหรือไม่ขอรับ? ” เซียวจื่อเซวียนเอ่ยถามด้วยความกังวล
เซียวหมิงจูมาเชิญเองถึงบ้าน นอกจากนั้น ท่าทางเหนียมอายของนาง ถึงแม้เซียวจื่อเซวียนจะยังไม่เป็นผู้ใหญ่ ก็ยังดูออกว่าเซียวหมิงจูมีใจให้พี่ใหญ่ของตน
“ย่อมต้องไป” เซียวยวี่กล่าวอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา “เรื่องของหมิงจูข้าจะคุยกับนางให้ชัดเจนเอง”
ที่ผ่านมาเขามีเพียงความรักแบบพี่น้องต่อเซียวหมิงจู เห็นเซียวหมิงจูเป็นน้องสาว ไม่มีความรู้สึกเกินเลยพี่น้องกับนาง
เซียวจื่อเซวียนเชื่อพี่ใหญ่ของตัวเอง พยักหน้า “เช่นนั้นพี่ใหญ่ ทางที่ดีท่านควรอธิบายกับพี่สะใภ้ใหญ่ด้วยขอรับ พี่สะใภ้ใหญ่รู้เรื่องผ้าเช็ดหน้า ถึงแม้จะไม่ได้กล่าวอะไร แต่ข้ารู้สึกว่าพี่สะใภ้ใหญ่ไม่สบายใจ! ”
เขามักจะเห็นว่าเวลาพี่สะใภ้ใหญ่อยู่คนเดียว สีหน้านิ่งและเหม่อลอย ท่าทางเช่นนั้น เขาเห็นแล้วอึดอัดใจนัก
“ไม่สบายใจ? ” เซียวยวี่ขมวดคิ้วมุ่น
เมื่อครู่นี้ท่าทางที่นางหันตัวเดินไปอย่างไม่แยแสนั่น ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย เหมือนคนไม่สบายใจตรงไหนกัน
เซียวจื่อเซวียนกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ขอรับ ข้าเห็นพี่สะใภ้ใหญ่นั่งนิ่งเงียบอยู่คนเดียวหลายครั้ง ไม่พูดไม่จา บางครั้งข้าเห็นพี่สะใภ้ใหญ่ซับน้ำตาด้วยขอรับ! ”
ร้องไห้?
เซียวยวี่ “…”
ที่ผ่านมามีแต่นางทำคนอื่นร้องไห้ สตรีที่ยโสโอหังเช่นนั้น มียามที่ร้องไห้ด้วยงั้นหรือ?
เวลานี้เซี่ยยวี่หลัวกำลังซักผ้าอยู่ริมแม่น้ำ เซียวจื่อเมิ่งย่อตัวอยู่ตรงข้ามช่วยนางซักเสื้อผ้าตัวเล็ก ทั้งสองคนพูดคุยกันเป็นครั้งคราว มีความสุขยิ่งนัก
ริมแม่น้ำมีหญิงชาวบ้านจำนวนไม่น้อยกำลังซักเสื้อผ้า พูดคุยหยอกล้อกันเป็นระยะ เถียนเอ๋อก็มาซักเสื้อผ้า เห็นว่าเซี่ยยวี่หลัวอยู่ริมแม่น้ำ เถียนเอ๋อก็หยุดฝีเท้าตามสัญชาตญาณ จ้องมองเซี่ยยวี่หลัวอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเชิดหน้ายืดอกถือถังไม้เดินไปริมแม่น้ำ
นางเข้าไปอยู่ในกลุ่มหญิงชาวบ้าน กล่าวทักทายกับทุกคน มีคนเห็นเถียนเอ๋อ ก็ยิ้มพร้อมกล่าว “เถียนเอ๋อ เหตุใดวันนี้เจ้ามาช้าถึงเพียงนี้? ข้าซักเสื้อผ้าจะเสร็จแล้ว”
เถียนเอ๋อหาตำแหน่งที่ยืนได้สะดวก จากนั้นจึงหยิบหินที่ขัดจนเงามาวางทับบนเท้า มั่นใจว่ายืนอย่างมั่นคงแล้ว จึงหยิบเสื้อออกจากถังไม้ทีละตัว แช่ในแม่น้ำจนเปียก กองไว้ข้างๆ จากนั้นจึงซักทีละตัว
“ก็เซียวจินบ้านข้าน่ะสิ บอกว่ามีเรื่องสำคัญอะไรจะปรึกษากับข้า จึงมาช้าอย่างไรเล่า! ” เถียนเอ๋อกล่าวพลางหันมองไปทางเซี่ยยวี่หลัว เห็นคนผู้นั้นก้มหน้า เห็นเพียงใบหน้าด้านข้างที่งดงามจนน่าตกตะลึง
“ไอหยา สองสามีภรรยานอกจากเรื่องอย่างว่า ยังจะมีเรื่องสำคัญอะไรอีก” หญิงชาวบ้านที่ซักเสื้อผ้าอยู่ข้างๆ หัวเราะพร้อมกล่าว นางกล่าวเรื่องสัปดนอย่างตลกขบขัน หญิงชาวบ้านคนอื่นๆ ต่างก็พากันหัวเราะ “ผู้ชายก็เป็นเช่นนี้ มีความชอบอยู่แค่นี้ ชอบทำเรื่องอย่างว่าแต่เช้า! ”
เซียวจื่อเมิ่งได้ยินพวกนางพูดคุยหัวเราะกันอยู่ข้างๆ จึงเอ่ยถามเซี่ยยวี่หลัวด้วยท่าทีสงสัย “เรื่องอะไรหรือเจ้าคะ? พี่ใหญ่ก็จะทำแต่เช้าหรือไม่เจ้าคะ? ”
เซี่ยยวี่หลัว “…”
คุยบ้าอะไรกัน พูดเรื่องพรรค์นี้ต่อหน้าเด็กที่ยังไม่โต
เซี่ยยวี่หลัวรีบวางเสื้อผ้าที่ซักเสร็จแล้วไว้ในอ่าง ยื่นส่งให้เซียวจื่อเมิ่ง “จื่อเมิ่ง เจ้านำเสื้อผ้าที่ซักเสร็จแล้วกลับไปก่อน ให้พี่รองตากไว้”
เซียวจื่อเมิ่งกล่าวด้วยความสงสัย “พี่สะใภ้ใหญ่ ใกล้ซักเสร็จแล้ว พวกเรากลับไปพร้อมกันเจ้าค่ะ! ”
เหลือเสื้อผ้าเพียงแค่ไม่กี่ตัว เพียงแต่เซี่ยยวี่หลัวเกรงว่าพวกนางจะกล่าวถ้อยคำไม่น่าฟังอีก นางฟังก็ไม่เป็นอะไร แต่นางไม่อยากให้เซียวจื่อเมิ่งได้ยินถ้อยคำหยาบโลนเหล่านั้น
“เหลือเสื้อผ้าไม่กี่ตัวแล้ว เจ้ากลับไปก่อน พี่สะใภ้ใหญ่ซักเสร็จแล้วจะตามเจ้าไป พี่สะใภ้ใหญ่เดินเร็ว ไม่แน่ว่าพวกเราอาจถึงบ้านพร้อมกันก็เป็นได้! ” เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าว
เซียวจื่อเมิ่งว่าง่าย ย่อมยกอ่างไม้กลับไปแต่โดยดี
“เดินระวังหน่อย เจ้าเดินช้าๆ อีกเดี๋ยวพี่สะใภ้ใหญ่ก็มาแล้ว! ” เซี่ยยวี่หลัวกล่าวกำชับด้วยความระวัง เซียวจื่อเมิ่งพยักหน้าอย่างว่าง่าย
เถียนเอ๋อเห็นเซียวจื่อเมิ่งไปก่อนแล้ว จึงรีบตะโกน “จื่อเมิ่ง ทำไมถึงรีบไปเล่า? ”
เซียวจื่อเมิ่งหันกลับมากล่าวเสียงใส “ซักผ้าเสร็จแล้วเจ้าค่ะ”
เถียนเอ๋อมองเซี่ยยวี่หลัวที่ยังย่อตัวซักผ้าอยู่ริมแม่น้ำ กล่าวด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย “ทำไมถึงไม่รอพี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้าก่อน พี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้ากำลังซักอยู่ไม่ใช่หรือ? ”
เซี่ยยวี่หลัวกล่าวอย่างเรียบสงบ “ข้าใกล้ซักเสร็จแล้ว! จื่อเมิ่ง กลับไปก่อน! ”
เซียวจื่อเมิ่งเพียงกล่าวว่าพี่สะใภ้ใหญ่ท่านเร็วหน่อย ก็ยกอ่างไม้กลับบ้านไปอย่างมีความสุขแล้ว
เซี่ยยวี่หลัวไม่มองเถียนเอ๋อ โยนเสื้อลงไปในแม่น้ำที่ใสสะอาดอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นยกขึ้นมา ขัดเสื้อบนหินใหญ่ครู่หนึ่ง ใช้ไม้ตีอีกหลายที จึงโยนลงแม่น้ำขัดอีกครู่หนึ่ง บิดน้ำออกแล้วจึงใส่ในถังไม้ข้างๆ
เถียนเอ๋อมองเซี่ยยวี่หลัวพร้อมยิ้มอย่างเย็นเยียบ ซักผ้าพลางกล่าวกับหญิงชาวบ้านในหมู่บ้านเดียวกัน “เจ้าก็รู้ว่าเซียวจินบ้านข้าจะมีเรื่องสำคัญอะไรได้ ทีแรกข้าก็พูดเช่นนี้ แต่หลังจากข้าฟังเขาพูดจบ ข้าถึงได้รู้สึกว่า เรื่องนี้ไม่ธรรมดาเลย! นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก เรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับทุกคนในหมู่บ้านสกุลเซียว! ”
เถียนเอ๋อจงใจพูดให้ทุกคนสนใจใคร่รู้ พูดอย่างลึกล้ำยากจะคาดเดาได้ ดึงดูดความสนใจจากทุกคนได้ทันที
“อะไร เจ้าว่าอะไรนะ? เรื่องสำคัญอะไรกัน? ” หญิงชาวบ้านที่เมื่อครู่พูดจาหยอกล้อเอ่ยถาม ถึงแม้คนอื่นๆ จะไม่ได้ถาม แต่ต่างก็มองเถียนเอ๋ออย่างตั้งใจ รอให้เถียนเอ๋อเปิดเผยความจริง
เถียนเอ๋อส่ายหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง “เรื่องนี้สามีของข้าย้ำกำชับหนักหนา ว่าจะพูดออกมาไม่ได้! ”
“เรื่องอะไรกัน เจ้ารีบพูดมา เจ้าพูดครึ่งเดียว ไม่ยอมพูดให้จบ เช่นนี้จงใจทำให้พวกเราอึดอัดใจไม่ใช่หรือ? ”
เถียนเอ๋อแสดงสีหน้าจนใจ “ใช่ว่าข้าไม่ยอมพูด แต่เรื่องนี้ใหญ่เกินไป ข้าพูดไม่ได้ สามีข้าบอกไว้ ว่าถึงเวลาจะคุยกับหัวหน้าหมู่บ้าน รอให้หัวหน้าหมู่บ้านตัดสิน! ”
มีคนเอ่ยถาม “แล้วเหตุใดเจ้าถึงบอกว่าเกี่ยวข้องกับคนทั้งหมู่บ้านสกุลเซียว? เรื่องอะไรกัน ที่สำคัญถึงเพียงนี้? ”
เรื่องที่สองสามีภรรยาปรึกษากัน กลับกลายเป็นเรื่องที่ต้องให้หัวหน้าหมู่บ้านมาตัดสิน นั่นถือเป็นเรื่องใหญ่เสียยิ่งกว่ากระไร!