ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 7 บทที่ 197 สองร้านร่วมงาน
เซียวเหลียงไม่รู้ว่าซ่งฉางชิงต้องการพบตนเองด้วยธุระอะไร พอกลับถึงในตัวเมือง จัดการธุระเล็กน้อย ก็แต่งตัวอย่างเป็นทางการ ช่วงบ่ายเดินทางไปยังเซียนจวีโหลว
เขาจงใจเลือกเวลาที่เซียนจวีโหลวไม่มีลูกค้า ซ่งฉางชิงเป็นเถ้าแก่ ทั้งยังเป็นนายบัญชี หากเซียนจวีโหลวมีลูกค้า เขาคงยุ่งจนแทบไม่ได้พัก
ซ่งฉางชิงเพิ่งล้างหน้าบ้วนปากหลังตื่นจากการพักผ่อนช่วงเที่ยง ซ่งฝูก็มารายงานว่าเซียวเหลียงมาแล้ว
“ให้เขาเข้ามา! ” ซ่งฉางชิงมายังห้องด้านนอก นั่งอยู่บนเก้าอี้เท้าแขนโค้งตัวกว้าง ดื่มชาหนึ่งอึก รวบรวมสมาธิสงบจิตใจ หลับตาพักผ่อน
เขายังรู้สึกเหนื่อยอ่อนเพราะเพิ่งลุกขึ้น มีอาการวิงเวียนศีรษะ อาจเพราะทำงานมากจึงหลับฝันไปมาก นอนหลับพักผ่อนเป็นเวลาสั้นๆ เพียงสองเค่อในช่วงเที่ยง เขากลับมีความฝันสับสนวุ่นวาย
เหนื่อยกว่าตอนไม่นอนเสียอีก
เขานั่งเอนตัวพิงบนพนักเก้าอี้เท้าแขนโค้งตัวกว้าง สีหน้าเหนื่อยอ่อน หว่างคิ้วขมวดจนเป็นปม
พอได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงพูดคุยที่ดังจากภายนอก ซ่งฉางชิงรีบนั่งตัวตรง จัดเสื้อผ้าที่ไม่ยับแม้แต่น้อย ดื่มชาเข้มข้นหนึ่งอึก ความเหนื่อยอ่อนบนใบหน้าหายไป สีหน้าดูเคร่งขรึม
ในชั่วพริบตาที่ประตูถูกผลักเปิดออก ซ่งฉางชิงที่เมื่อครู่ยังเต็มไปด้วยความเหนื่อยอ่อน ราวกับเป็นเพียงภาพลวงตาอย่างไรอย่างนั้น ผู้ที่เซียวเหลียงเห็น ยังคงเป็นเถ้าแก่ร้านเซียนจวีโหลวที่ไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าหรือลับหลังผู้คนก็ยังมีความหยิ่งทะนงสูงส่งและเข้มงวดถึงขีดสุด — ซ่งฉางชิง!
ทั้งสองคนกล่าวทักทายอย่างเรียบง่ายเสร็จ ซ่งฉางชิงก็พูดเข้าประเด็นทันที
ถึงแม้เขาจะเป็นคนทำการค้า พ่อค้ามักเห็นแก่ผลประโยชน์ ทว่า เนื้อในเขายังเป็นบัณฑิต บัณฑิตไม่ชอบพูดจาอ้อมค้อม และไม่ชอบการเสแสร้ง
“ช่วงหลายปีมานี้ร้านน้ำมันอาหารแห้งฟ่างซินกิจการรุ่งเรือง ได้ยินมาว่าอาหารแห้งและน้ำมันนานาชนิดในร้าน เถ้าแก่เซียวเป็นผู้คัดเลือกด้วยตัวเองทั้งหมด? ”
เซียวเหลียงยิ้มพร้อมกล่าว “เถ้าแก่ซ่งกล่าวไม่ผิด ทั้งน้ำมันปรุงอาหารและอาหารแห้งจำพวกแป้ง ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้คนต้องกินลงท้อง จะปล่อยให้มีข้อผิดพลาดไม่ได้แม้แต่น้อย! ”
“ได้ยินมาว่าที่ท่านยังมีของหลายอย่างที่ร้านน้ำมันอาหารแห้งแห่งอื่นไม่มี? ”
“ก็ไม่ได้ถือว่าไม่มี ล้วนแต่เป็นของทั่วไป เพียงแค่ข้าเป็นผู้ค้าขายสินค้าเหล่านี้ จึงชอบศึกษาเจาะลึกในตัวสินค้า ได้ยินมาว่าข้าวสารจากทางทิศใต้และทิศเหนือมีความแตกต่างเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่นข้าวสารจากทางทิศเหนือจะมีรูปทรงอ้วนกลม ส่วนข้าวสารจากทางใต้ของเราจะเรียวยาว ถึงแม้เมืองโยวหลันของเราจะอยู่ห่างจากทางทิศเหนือ แต่ก็มีคนจากทางเหนือจำนวนหนึ่ง คนจากทางเหนือจากบ้านมา พอคิดถึงบ้านเกิดของตัวเอง ก็จะซื้อข้าวสารจากทางเหนือกลับไปกิน ให้หายคิดถึงบ้านเกิดของตัวเองได้บ้าง! ”
เซียวเหลียงศึกษาเรื่องเหล่านี้อย่างเจาะลึก จากคนล่าสัตว์ในหมู่บ้านชนบทคนหนึ่ง ไม่แปลกเลยที่ใช้เวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่ปี จะกลายเป็นร้านน้ำมันอาหารแห้งอันดับต้นๆ ของเมืองโยวหลันได้
นิ้วมือเรียวยาวของซ่งฉางชิงโค้งงอเล็กน้อย เคาะบนโต๊ะเบาๆ และช้าๆ
ครั้งแล้วครั้งเล่า เคาะจนเซียวเหลียงรู้สึกกระวนกระวายใจ
แม้เซียวเหลียงจะอายุมาก แต่ถึงอย่างไรก็เป็นคนหยาบโลน ยิ่งไปกว่านั้น ซ่งฉางชิงผู้นี้เป็นบุตรจากตระกูลสูงศักดิ์ บุคลิกท่าทางสูงสง่าทำให้ผู้อื่นเห็นแล้วไม่กล้าเข้าใกล้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงประสบการณ์ดูแลกิจการมาสามถึงสี่ปี คนวัยหนุ่มคนหนึ่งเปิดภัตตาคารใหญ่ถึงเพียงนี้ ยังสามารถยืนหยัดได้ไม่ล้มลง เคยพบเจอผู้คนทุกรูปแบบทุกประเภท จึงก่อให้เกิดบุคลิกท่าทางที่ผู้อื่นไม่อาจอ่านใจได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
ทำให้คาดเดาความคิดไม่ได้
มนุษย์ก็เป็นเช่นนี้ อยู่กับคนหรือสิ่งของที่ตัวเองไม่คุ้นเคย เมื่อจู่ๆ บรรยากาศพลันเงียบลง ก็จะเกิดความหวาดกลัวอย่างง่ายดาย
“ท่านซ่ง ครั้งนี้ท่านให้ข้ามาพบ มีธุระอันใดกันแน่? ” เซียวเหลียงทนไม่ไหวแล้ว จึงเอ่ยปากก่อน
ซ่งฉางชิงชักมือกลับมา กล่าวด้วยท่าทางเรียบสงบจนดูออกจะเย็นชา ราวกับกำลังพูดว่าตอนเที่ยงจะกินข้าวอย่างไรอย่างนั้น “สัญญาผู้จัดหาน้ำมันอาหารแห้งให้เซียนจวีโหลวใกล้สิ้นสุดแล้ว สามปีต่อจากนี้ เถ้าแก่เซียวยินยอมจะร่วมงานกับเซียนจวีโหลว เป็นผู้จัดหาวัตถุดิบให้เซียนจวีโหลวหรือไม่? ”
เซียวเหลียงผงะไป จ้องมองซ่งฉางชิงโดยกล่าวอะไรไม่ออกครู่ใหญ่
กำลังถามความคิดเห็นของเขาอย่างนั้นหรือ?
ซ่งฉางชิงขมวดคิ้ว “ทำไม เถ้าแก่เซียวไม่ยินยอม? ”
เซียวเหลียงลุกพรวดขึ้นด้วยความตื่นเต้นจนเกิดเสียงดัง “ตึง” ก่อนกล่าวเสียงสูง “จะไม่ยินยอมได้อย่างไร ข้าต้องยินยอมอยู่แล้ว ยินยอมแน่นอน! ”
เซียวเหลียงทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจ ระหว่างเอื้อนเอ่ยวาจา ริมฝีปากยังสั่นเทิ้มอยู่ ราวกับเกรงว่าหากตัวเองกล่าวช้าเกินไป เสี้ยววินาทีต่อไปซ่งฉางชิงก็อาจกลับคำอย่างไรอย่างนั้น
ซ่งฉางชิงยังคงมีท่าทีเรียบสงบ “ในฐานะผู้จัดหาวัตถุดิบน้ำมันอาหารแห้งเพียงหนึ่งเดียวของเซียนจวีโหลว ต่อไปหากน้ำมันอาหารแห้งเกิดปัญหา เถ้าแก่เซียวต้องรับผิดชอบทั้งหมด”
“ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น! ”
เซียวเหลียงได้ยินมานานแล้วว่าซ่งฉางชิงเป็นคนทำงานอย่างหนักแน่นและทุ่มสุดกำลัง เขาคัดเลือกผู้จัดหาวัตถุดิบน้ำมันอาหารแห้งเพียงร้านเดียว ก็สามารถรับประกันความปลอดภัยและแหล่งที่มาของวัตถุดิบประกอบอาหารได้ ขอเพียงเกิดปัญหาขึ้น ก็ไม่ต้องตามสืบ เซียวเหลียงต้องรับผิดชอบจนถึงที่สุด
“ในเมื่อเถ้าแก่เซียวไม่มีความคิดเห็นเป็นอื่น หลังจากร่างสัญญาเสร็จแล้ว ต้องรบกวนเถ้าแก่เซียวมาอีกหนหนึ่ง พวกเราจะได้ลงนามในสัญญาร่วมกัน”
“ไม่รบกวน ไม่รบกวน ขอเพียงท่านเรียกข้า ข้าก็จะมาทันที! ” เซียวเหลียงกล่าวเพื่อแสดงเจตจำนง
จู่ๆ เรื่องดีอย่างใหญ่หลวงเช่นนี้ก็เกิดขึ้นกับตัวเอง เซียวเหลียงจะไม่ยินดีและไม่ตกใจได้อย่างไร?
เมื่อเห็นท่าทางของเซียวเหลียงที่พยายามสะกดความยินดีในใจพร้อมแสดงท่าทางจริงจัง ซ่งฉางชิงเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนกล่าวอย่างเรียบสงบ “หวังว่าช่วงหลายปีต่อจากนี้พวกเราจะร่วมงานกันอย่างมีความสุข! ”
“แน่นอน แน่นอน ร่วมงานกันอย่างมีความสุขแน่ ร่วมงานกันอย่างมีความสุขแน่นอน! ” เซียวเหลียงตื่นเต้นจนแทบกล่าวไม่เป็นประโยคแล้ว
เพียงแต่ จู่ๆ ก็ได้โอกาสร่วมงานมาอย่างงุนงง เหมือนเดินอยู่ข้างนอกดีๆ จู่ๆ ก็เกิดเสียงดังโครม มีขนมเปี๊ยะสอดไส้ขนาดใหญ่หล่นมาใส่ตนเอง แล้วตนเองก็เก็บได้โดยบังเอิญ
เซียวเหลียงรู้สึกสงสัยเต็มประดา กำลังครุ่นคิดว่าจะเอ่ยถามซ่งฉางชิงอย่างไร
ซ่งฉางชิงที่อยู่ตรงข้ามก็ปริปากพูดแล้ว แสร้งทำทีเป็นเอ่ยถามอย่างไม่ใส่ใจนัก “เถ้าแก่เซียวเป็นคนหมู่บ้านสกุลเซียว ได้ยินมาตลอดว่าผู้คนในหมู่บ้านสกุลเซียวมีวิถีชีวิตเรียบง่าย ทิวทัศน์งดงาม ถึงแม้ข้าจะใช้ชีวิตในเมืองโยวหลันมานานถึงเพียงนี้ กลับไม่เคยไปหมู่บ้านสกุลเซียว ไม่ทราบว่าที่ข้าได้ยินมา เป็นความจริงหรือไม่? ”
พอเซียวเหลียงได้ฟังซ่งฉางชิงเอ่ยชมหมู่บ้านของตนเอง ก็กล่าวอย่างได้ใจ “เถ้าแก่เซียวเป็นคนมีงานรัดตัว ไม่เคยไปสถานที่เล็กๆ อย่างหมู่บ้านสกุลเซียวก็ถือเป็นเรื่องปกติ ทว่า ถึงแม้หมู่บ้านสกุลเซียวจะเป็นเพียงสถานที่เล็กๆ แต่ก็มีทิวทัศน์งดงาม วิถีชีวิตผู้คนก็ค่อนข้างเรียบง่าย”
“ผู้คนก็มีความสามารถมากเช่นกัน เหมือนอย่างเถ้าแก่เซียว ช่วงหลายปีมานี้กิจการดีขึ้นเรื่อยๆ ” ซ่งฉางชิงหันมองเซียวเหลียงแวบหนึ่ง เม้มริมฝีปากเล็กน้อย แววตาใสสะอาด ไม่ได้ดูเคร่งขรึมเหมือนปกติ พูดคุยเรื่อยเปื่อยกับเซียวเหลียงเหมือนสหายคนหนึ่งก็มิปาน
บรรยากาศในห้องดูเป็นกันเองยิ่งนัก