ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 9 บทที่ 243 เซียวยวี่ช่วยผัดอาหาร
เซี่ยยวี่หลัวเก็บผักเสร็จ จึงหิ้วตะกร้าเดินไป
เพื่อป้องกันไม่ให้เซี่ยยวี่หลัวเห็นเข้า เมื่อเซียวยวี่เห็นเซี่ยยวี่หลัวหันตัวกลับมา จึงรีบเบี่ยงตัวหลบ
มีเสียง “แกร๊ก” ดังมาจากประตูห้องอีกครั้ง เซี่ยยวี่หลัวไปแล้ว
เซียวยวี่กดตำราในมือไว้ตรงอกแน่น ในที่สุดหัวใจที่เต้นอย่างรุนแรงก็ค่อยๆ สงบลงช้าๆ เมื่อครู่เกือบโดนเซี่ยยวี่หลัวจับได้ว่าเขาแอบมองนาง
แอบมอง?
เซียวยวี่ผงะไป เขาจะแอบมองเซี่ยยวี่หลัวทำไม?
เซี่ยยวี่หลัวล้างแตงกวาจนสะอาด หั่นกึ่งกลาง จากนั้นจึงหั่นเป็นแผ่น ใช้ไฟแรงอุ่นกระทะจนร้อน จากนั้นเทน้ำมันลงไป หลังจากน้ำมันอุ่นแล้ว จึงเทแตงกวาที่หั่นไว้ลงไป ผัดครู่หนึ่งก่อนเติมเกลือเพื่อปรุงรสชาติก็เสร็จแล้ว
เดิมทีแตงกวานั้นกินแบบดิบก็ได้ ผัดเพียงครู่เดียว กรุบกรอบน่ากิน
ล้างพริกจนสะอาด สับจนละเอียด สับกระเทียมและขิงจนละเอียด อุ่นกระทะรอน้ำมันเดือด เทพริกสับละเอียดลงไป ผัดครู่หนึ่ง กลิ่นฉุนของพริกจึงฟุ้งกระจาย
กลิ่นหอมของพริกลอยมาจากห้องครัวเป็นระลอก เซียวยวี่กลืนน้ำลายอึกหนึ่งอย่างอดไม่ได้ แต่ไม่นานก็ได้ยินเสียงจามของเซี่ยยวี่หลัวดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เซียวยวี่นั่งไม่ติดอีก เขาวางตำราลง เดินไปทางห้องครัวด้วยฝีเท้าเร่งรีบ
เมื่อครู่อยู่ค่อนข้างไกล จึงได้กลิ่นหอมของพริกเพียงอย่างเดียว เมื่อเดินเข้าใกล้…
กลิ่นฉุนของพริกที่แสบจมูกลอยมา เซียวยวี่ปิดปากและจมูกไว้อย่างอดไม่ได้
ช่างฉุนเสียจริง
เซี่ยยวี่หลัวในยามนี้กำลังปิดจมูกและปากไว้ ไออยู่หลายที ถึงกับน้ำตาไหลออกมา
ไม่รู้ว่าพริกนี่เป็นชนิดใด พริกที่แก่หน่อยก็เผ็ดฉุนจนแสบจมูก แต่ก็อร่อยมาก โดยเฉพาะคนที่ชอบกินรสเผ็ด ตอนกินโจ๊ก ตักพริกสับละเอียดมาสักหนึ่งช้อน แล้วจึงตักน้ำพริกอีกหนึ่งถึงสองช้อน แม้แต่โจ๊กเปล่ายังกินเพิ่มได้อีกหนึ่งชาม
เซี่ยยวี่หลัวจามอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง น้ำตาและน้ำมูกไหลออกมาปริมาณมาก
ฉุนเสียจริง!
เซียวยวี่ปิดปากและจมูกเร่งฝีเท้ามายังห้องครัว ได้ยินเซี่ยยวี่หลัวจามติดต่อกันอีกสองครั้ง เซียวยวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่คิดลังเล เข้าไปทันที
“เจ้ารีบออกไป ข้าทำเอง! ” พริกนี่ฉุนเสียจริง เซียวยวี่แย่งตะหลิวไปจากมือเซี่ยยวี่หลัว พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อไม่ให้จาม ก่อนกล่าวอย่างเร่งรีบ
เซี่ยยวี่หลัวใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากและจมูก ดวงตาคู่โตเป็นสีแดงก่ำนานแล้ว ตะหลิวเพิ่งโดนเซียวยวี่แย่งไป นางยังไม่เข้าใจ “เจ้ามาทำไม? ที่นี่กลิ่นแรงมาก เจ้ารีบออกไปเถอะ… ฮัดชิ้ว…”
เซี่ยยวี่หลัวจามอย่างแรงอีกครั้ง “แม่เจ้า พริกนี่ฉุนเกินไปแล้ว! ” นางกล่าวออกมาประโยคหนึ่งโดยไม่ได้คิดอะไรมาก กลับทำให้เซียวยวี่หันขวับไปมองนางแวบหนึ่ง ดวงตาประหนึ่งมีแสงดาราทอประกาย
เขากล่าวอีกครั้ง “เจ้ารีบออกไป”
“ออกไป? พริกนี่เจ้าผัดไม่เป็นเสียหน่อย เจ้ารีบออกไปเถอะ” เซี่ยยวี่หลัวจะยื้อแย่งตะหลิวจากมือเซียวยวี่ เซียวยวี่เบี่ยงหลบได้
“ฮัดชิ้ว…” เซี่ยยวี่หลัวจามอีกครั้ง ก่อนกล่าวด้วยเสียงอู้อี้ฟังไม่ชัดเจน “เจ้ารีบออกไปเถอะ เดี๋ยวเจ้าจะเป็นเหมือนข้า! ฮัดชิ้ว…” จามอีกครั้ง น้ำตาน้ำมูกออกมาทั้งหมด
รู้สึกเก้อเขินยิ่งนัก
เซียวยวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เห็นว่าเกลี้ยกล่อมนางไม่สำเร็จ ได้แต่ใช้กำลัง
เขาวางตะหลิวลง โอบไหล่คู่ของเซี่ยยวี่หลัวไว้เพื่อดันนางออกไป
“เฮ้ นี่เจ้าทำอะไร? พริกของข้า ยังไม่สุกเลย! ” เซี่ยยวี่หลัวเดินไปพลางตะโกนไปพลาง นางแรงน้อย ไม่อาจขัดขืนเซียวยวี่ได้ จึงถูกดันออกจากห้องครัวทั้งอย่างนี้
เซียวยวี่ไม่สนใจนาง ดันนางออกไปข้างนอกอย่างดื้อรั้น
เพิ่งได้สูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกเฮือกหนึ่ง เซี่ยยวี่หลัวก็ดีขึ้นมากทีเดียว ทั้งยังไม่จามและไม่มีน้ำตาไหลแล้ว
เพียงแต่ดวงตาที่เมื่อครู่แสบเคืองจนแดง ไม่อาจดีขึ้นเร็วนัก ยังแดงก่ำอยู่ เซี่ยยวี่หลัวน้ำเสียงแหบแห้งเล็กน้อย “ข้าดีขึ้นมากแล้ว อาหารยังอยู่ในกระทะอยู่เลย! ”
กล่าวจบก็จะเข้าไปอีก เซียวยวี่เอื้อมมือไปขวางนางไว้ กล่าวอย่างรวดเร็ว “เจ้ารออยู่ข้างนอก ไม่ต้องเข้าไปแล้ว! ” ไม่รอให้เซี่ยยวี่หลัวกล่าวอะไร เขาพุ่งพรวดเข้าไปในห้องครัว
“เฮ้…” เซี่ยยวี่หลัวตะโกนเรียกอยู่ด้านหลัง แต่ไม่ทันแล้ว เขาเข้าไปในห้องครัวแล้ว
เซี่ยยวี่หลัวยืนอยู่ข้างนอก เช็ดคราบน้ำตาน้ำมูกพลางมองไปที่ห้องครัว จากจุดที่นางยืน สามารถมองเห็นเซียวยวี่พุ่งพรวดไปข้างเตาปรุงอาหาร หยิบตะหลิวขึ้นมาผัดอาหารในกระทะอย่างคล่องแคล่ว
กลิ่นฉุนของพริกที่เคืองจมูกลอยเข้าจมูก เซียวยวี่ปิดปากและจมูกตัวเองไว้แน่น พยายามฝืนกลั้นอาการจามสุดแรง ดวงตาแสบเคืองจนแค่กะพริบตาน้ำตาก็ร่วงแล้ว แต่เขายังคงฝืนสะกดไว้อย่างสุดกำลัง
เซี่ยยวี่หลัวยืนอยู่ข้างนอกครู่หนึ่ง คนด้านในไม่จามแม้แต่ครั้งเดียว จึงแอบคิด คนที่ชอบกินอาหารรสเผ็ดทนกลิ่นฉุนเผ็ดได้นี่นา!
เดี๋ยวก่อน เซียวยวี่ไม่รู้ว่านางจะทำอาหารอะไร!
เซี่ยยวี่หลัวไม่กล้าเข้าไป จึงยืนตะโกนอยู่ด้านนอก “เจ้าเติมซีอิ๊วเล็กน้อย ผัดครู่หนึ่งก็เติมน้ำ น้ำเดือดแล้วเติมเกลือ แค่นี้ก็เสร็จแล้ว”
เซี่ยวยวี่อยู่ด้านในได้ยินแล้ว จึงหันกลับมาพยักหน้าให้เซี่ยยวี่หลัว
เซี่ยยวี่หลัวตาไวจึงพบว่าดวงตาของเซียวยวี่ก็แดงแล้วเช่นกัน ขณะที่เขากะพริบตา มีน้ำตาสองหยดไหลลู่ลงข้างแก้มของเขา เซี่ยยวี่หลัวเห็นแล้ว
เซียวยวี่ทนกลิ่นฉุนไม่ได้!
เขาแสบตาจนน้ำตาไหลออกมาเหมือนกัน
จู่ๆ เซี่ยยวี่หลัวก็เข้าใจเรื่องหนึ่ง ใช่ว่าเซียวยวี่จะทนกลิ่นฉุนได้เพราะชอบกินอาหารเผ็ด เขาเองก็ทนกลิ่นฉุนไม่ได้ แต่เพราะได้ยินนางจามไม่หยุด ดังนั้นเขาจึง…
สลับตัวให้นางออกมา แล้วเขาเองก็วิ่งเข้าไป เวลานี้เขากำลังเผชิญกับความยากลำบากที่นางเผชิญเมื่อครู่!
เซียวยวี่ทำเพราะสงสารนาง
เหตุใดเขาต้องให้นางออกมา?
เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกคิดไม่ตก นางมองแผ่นหลังของเซียวยวี่ด้วยอาการเหม่อลอย
เซียวยวี่ผัดด้วยท่าทางคล่องแคล่ว ทำตามวิธีที่นางบอก เติมซีอิ๊วแล้วผัดต่อครู่หนึ่ง เติมน้ำ ต้มด้วยไฟแรงจนเดือด หลังจากเติมเกลือเพื่อปรุงรส ก็เสร็จแล้ว
หลังจากตักใส่จาน อากาศภายในห้องก็ไม่ได้ฉุนเหมือนเดิมแล้ว เซียวยวี่รีบเทน้ำเย็นหนึ่งอ่างลงไปในกระทะ กลิ่นฉุนกระจายหายไปไม่น้อย
เซียวยวี่ยกอาหารเดินออกมา
แววตาของเซี่ยยวี่หลัวจ้องมองเขาด้วยอาการเหม่อลอยเล็กน้อย
เซียวยวี่ใช้มือหนึ่งปิดปากและจมูกไว้ อีกมือหนึ่งยกอาหาร คราบน้ำตาบนใบหน้าถูกเช็ดจนแห้งแล้ว เขารู้ว่าดวงตาของตัวเองต้องแดงมากแน่นอน เวลานี้ก็มีสภาพดูไม่ได้เช่นกัน
เซียวยวี่มองเซี่ยยวี่หลัวแวบหนึ่ง ก่อนรีบยกอาหารไปยังห้องโถง หลังวางอาหารลงจึงรีบกลับไปยังห้องของตัวเอง หยิบผ้าเช็ดหน้าสะอาดผืนหนึ่งไปชุบน้ำแล้วอังไว้บนตาของตัวเองอย่างรวดเร็ว หลังจากผ้าเช็ดหน้าเย็นสัมผัสกับตา ก็รู้สึกสบายขึ้นมาก
เซี่ยยวี่หลัวยืนอยู่หน้าประตูครู่หนึ่ง รอจนกลิ่นในห้องครัวกระจายหายไป จึงเข้าไปในห้องครัว
กระทะเหล็กด้านนอกถูกขัดจนสะอาดมากแล้ว บนเตาปรุงอาหารก็ถูกเช็ดจนสะอาดหมดจด หากไม่ใช่เพราะภายในห้องยังมีกลิ่นฉุนลอยตลบอบอวล ก็ดูสะอาดจนนึกว่าเมื่อครู่ไม่ได้ทำอาหารเสียอีก!
เซียวยวี่เก็บกวาดห้องครัวจนสะอาดหมดจด!
เซี่ยยวี่หลัวกัดริมฝีปากทีหนึ่ง รู้สึกไม่ค่อยเข้าใจความคิดของเซียวยวี่
เขารังเกียจนางมากไม่ใช่หรือ?
เหตุใดถึงช่วยเหลือนาง?