ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 9 บทที่ 248 หรดาลแดงขับไล่งูได้
หุบเขาถูกรายล้อมด้วยภูเขามากมาย มีหญ้าคาและหญ้ารกขึ้นอย่างหนาแน่นอยู่เต็มพื้นที่ หญ้าคาบางแห่งมีความสูงเท่าตัวคนแล้ว ทั้งหุบเขาเป็นสีเขียวชอุ่ม ดอกจินหยินกระจายอยู่ตามหญ้ารกเหล่านี้ ผลิบานอย่างไม่ยอมน้อยหน้า
หญ้าขึ้นอย่างอุดมสมบูรณ์ ย่อมต้องมีงู
เซียวยวี่หันกลับมามองเซี่ยยวี่หลัว คิดถึงครั้งก่อนตอนอยู่ในที่นาบ้านตัวเอง ท่าทางตกใจกลัวของเซี่ยยวี่หลัวตอนสัมผัสโดนงูโดยไม่ทันระวัง
นางน่าจะกลัวงูเป็นอย่างมาก แต่เพื่อที่บ้านแล้ว ก็ยังคงมา เซี่ยยวี่หลัวที่เป็นเช่นนี้ ทำให้ภายในใจเซียวยวี่เต็มไปด้วยความตื้นตันใจ
เซี่ยยวี่หลัวกำลังมุดหาของบางอย่างในตะกร้า
นางรู้แต่แรกแล้วว่าบนเขามีงู ดังนั้นก่อนจะมา นางจึงนำของไล่งูติดตัวมาด้วยไม่น้อย
แค่ถุงหอมก็พกมาถึงสี่ถุง ถุงหอมไม่เพียงแต่เคยแช่ในสุรา บนถุงหอมมีกลิ่นสุราฉุน ภายในยังมีหรดาลแดง
นางยื่นให้เซียวยวี่สองถุง “ให้เจ้า พกสิ่งนี้ติดตัว งูไม่ชอบกลิ่นนี้ ได้กลิ่นแล้วจะเลื้อยหนีไป”
กลิ่นสุรา?
เซียวยวี่จับถุงหอมมาดมดู ไม่ค่อยเข้าใจนัก “เจ้านี่ไล่งูได้? ”
เซี่ยยวี่หลัว “ได้แน่นอน บนถุงหอมไม่เพียงแต่มีกลิ่นสุรา ยังมีหรดาลแดงด้วย เจ้าไม่รู้อย่างนั้นหรือว่าสุราหรดาลสามารถขับไล่งูได้? ”
เซียวยวี่ส่ายหน้า กล่าวด้วยสีหน้าเรียบสงบ “ไม่รู้”
เซี่ยยวี่หลัวผูกถุงหอมไว้ตรงเอว ก่อนกระชับเชือกผูกแขนเสื้อและขากางเกงที่ผูกไว้แล้วให้แน่นขึ้น
ตั้งแต่เจองูในที่นาครั้งก่อน เซี่ยยวี่หลัวก็ยังมีความหวาดผวาอยู่ จึงทำถุงหอมไว้จำนวนหนึ่ง แช่ถุงหอมไว้ในสุรา แช่เสร็จแล้วจึงเติมหรดาลแดงเข้าไป เวลานี้ขอเพียงเด็กสองคนไปในสถานที่ที่มีหญ้าขึ้นรก เซี่ยยวี่หลัวก็จะให้พวกเขาผูกถุงหอมหรดาลติดตัว
ในตำรายาสมุนไพรเปิ๋นเฉ่ากังมู่กล่าวไว้ “หรดาลแดงสามารถขจัดร้อยพิษ หลีกหนีร้อยความชั่วร้าย สังหารสัตว์มีพิษ… พกสุราหรดาลขึ้นเขา ก็ไม่ต้องกลัวงู”
ช่วงนี้อากาศอบอุ่น เป็นฤดูผสมพันธุ์ของงูเงี้ยวเขี้ยวขอและแมลงต่างๆ พกถุงหอมหรดาลแดงติดตัว จะสามารถหลีกเลี่ยงได้ไม่มากก็น้อย
เมื่อเห็นว่าเซียวยวี่ไม่รู้ เซี่ยยวี่หลัวย่อมไม่บอกว่าเป็นสิ่งที่ถูกบันทึกไว้ในตำรายาสมุนไพรเปิ๋นเฉ่ากังมู่ ได้แต่กล่าว “ตอนท่านตายังมีชีวิตอยู่มักจะขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพร เขาจะพกหรดาลแดงไปด้วยทุกครั้งที่ขึ้นเขา บอกว่าพกหรดาลแดงไว้ งูก็จะไม่เข้าใกล้! ”
เซียวยวี่ไม่คิดสงสัย หยิบถุงหอมขึ้นมาผูกไว้กับตัว
เมื่อเห็นเซียวยวี่ไม่ถามต่อแล้ว เซี่ยยวี่หลัวจึงผ่อนลมหายใจยาวด้วยความโล่งอก ต่อไปเรื่องทุกอย่างที่เซียวยวี่ไม่รู้ก็กล่าวอ้างท่านตาทั้งหมด เซียวยวี่ย่อมไม่สงสัยแน่นอน
ถุงหอมงดงามเกินคำบรรยาย ถุงหอมสีขาวผ่องดุจหิมะ บนถุงหอมปักลายใบไผ่สีเขียว ส่วนของเซี่ยยวี่หลัวปักลายดอกกุหลาบเลื้อยสีแดงเข้ม
ถุงหอมนี่เหมือนว่าเซี่ยยวี่หลัวจะตั้งใจเตรียมไว้ให้เขาโดยเฉพาะ
ภายในใจเซียวยวี่รู้สึกมีความสุขยิ่งนัก แต่กลับไม่แสดงออกทางสีหน้า หลังจากผูกถุงหอมเสร็จ จึงหิ้วตะกร้าเริ่มเก็บดอกจินหยิน
เซี่ยยวี่หลัวตามเขาไปติดๆ ไม่กล้าทิ้งห่างเกินไป
พงหญ้าเช่นนี้ ในนั้นต้องมีงูเป็นแน่ ตามใกล้หน่อยจะดีกว่า ต่อให้มีงูจริงก็สามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้
เซียวยวี่เองก็จ้องมองการเคลื่อนไหวของเซี่ยยวี่หลัวอยู่ตลอด เมื่อเห็นนางเดินไปไกลเล็กน้อย เขาก็รีบเดินเข้าใกล้สองก้าว ไม่ให้นางเดินไปไกลเพียงลำพัง
เซี่ยยวี่หลัวเก็บดอกจินหยินอย่างตั้งอกตั้งใจ หากบอกว่าช่วงแรกหญ้าสูงถึงระดับน่อง ยังรู้สึกกลัวอยู่บ้าง หลังจากคุ้นชินแล้วก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอีก ที่สำคัญคือไม่เจองู เซี่ยยวี่หลัวใจกล้ามาก ไม่ตามเซียวยวี่ต่อ เห็นว่าในตำแหน่งที่ไม่ห่างนักมีดอกจินหยินปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเดินไกลขึ้นเรื่อยๆ
เซียวยวี่ตามอยู่ข้างกายนางตลอด เห็นนางเดินห่างออกไป ก็รีบสะพายตะกร้าเดินตามนางไป
เซี่ยยวี่หลัวเดินลึกเข้าไปพลางเก็บดอกจินหยิน หญ้ารกสูงระดับน่อง พอเหยียบลงไป ก็ย่ำจนกอหญ้าล้มแนบกับพื้น ทั้งยังมีน้ำจากต้นหญ้าซึมออกมาเล็กน้อย
เซียวยวี่อยู่ข้างกายนาง ห่างเพียงสองถึงสามก้าว
เซี่ยยวี่หลัวเก็บดอกไม้อย่างตั้งใจ ย่อมไม่รู้ตัวว่าเซียวยวี่ตามนางอยู่ตลอด นางเก็บจนใกล้เต็มตะกร้าแล้ว แต่ดอกจินหยินในหุบเขาแห่งนี้ ถูกเก็บไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ด้านในยังมีดอกจินหยินอีกมากมาย
ดวงอาทิตย์เคลื่อนสูงขึ้น อากาศร้อนขึ้นเรื่อยๆ เซี่ยยวี่หลัวเช็ดคราบเหงื่อบนใบหน้า แหงนหน้ามองดูดวงตะวัน ตอนนี้เป็นช่วงเที่ยง น่าจะถึงเวลากินอาหารแล้ว นางจึงเสนอ “พวกเราพักครู่หนึ่ง กินอาหารก่อนแล้วค่อยเก็บต่อเถอะ! ”
“ได้” เซียวยวี่วางดอกจินหยินกำใหญ่ที่เก็บมาได้ลงไปในตะกร้า ทั้งสองคนเดินกลับตามเส้นทางเดิม มาถึงตีนเขา
ตรงตีนเขามีต้นไม้ใหญ่สูงระฟ้าจำนวนมาก ทั้งยังมีสายธารสีเขียวมรกต ไหลลงจากบนเขา ผ่านหุบเขาไป ไม่รู้ว่าไหลไปแห่งหนใด
ทั้งสองคนล้างมือในลำธาร เซี่ยยวี่หลัวนำอาหารแห้งที่ตัวเองเตรียมไว้ออกมา
นางนำไข่ไก่ที่ต้มไว้มาด้วย เซี่ยยวี่หลัวต้มไว้สี่ฟอง คนละสองฟอง และนำขนมมาด้วยหนึ่งกล่อง เซี่ยยวี่หลัววางไว้บนหินก้อนใหญ่ ทั้งสองคนนั่งอยู่บนก้อนหิน พักผ่อนไปพลางกินอาหารเที่ยงไปพลาง
เซี่ยยวี่หลัวกินไข่ไก่มักจะติดคอ เมื่อติดคอก็จะสะอึกได้ง่าย เพิ่งกินไข่ไก่ลงไปครึ่งฟอง ก็ติดคอเสียแล้ว
พอติดคอก็จะสะอึก ทั้งยังเป็นอาการสะอึกที่ไม่อาจหายเองได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
“อึ๊ก…”
เซียวยวี่หันมองนางแวบหนึ่ง กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบสงบ “ดื่มน้ำมากหน่อย”
เซี่ยยวี่หลัวตบอกตัวเองทีหนึ่ง กลืนไข่ลงไปอย่างยากลำบาก “เจ้าไม่ดื่มหรือ? ”
หากนางดื่ม เซียวยวี่ก็คงไม่ดื่มแล้ว จะให้เขาไปดื่มน้ำในลำธารหรืออย่างไร “เจ้าดื่มสักคำก่อน เจ้าดื่มแล้วข้าค่อยดื่ม”
เซี่ยยวี่หลัวไม่คิดว่าเซียวยวี่จะตามมาด้วย นางเตรียมถุงน้ำมาเพียงหนึ่งถุง เซียวยวี่ไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย
เซี่ยยวี่หลัวยื่นส่งถุงน้ำให้เซียวยวี่ ก่อนจะสะอึกอีกหนึ่งครั้งอย่างขัดกับการกระทำ
เซียวยวี่ขมวดคิ้ว ไม่ได้รับถุงน้ำ “เจ้าดื่มก่อน! ”
“อึ๊ก…” เซี่ยยวี่หลัวกำลังคิดจะกล่าวอะไร กลับสะอึกออกมาอีกครั้ง เซียวยวี่ขมวดคิ้วมุ่นจนแทบเป็นปม เห็นท่านราชบัณฑิตน้อยไม่พอใจแล้ว เซี่ยยวี่หลัวจึงยกถุงน้ำขึ้น แหงนหน้าดื่มน้ำ
ไม่ได้ดื่มน้ำแบบประกบปาก นางยกถุงน้ำขึ้นสูง ก่อนอ้าปาก เทน้ำเข้าปาก
เซียวยวี่ผงะไปครู่หนึ่ง มองดูท่าทางของเซี่ยยวี่หลัว ริมฝีปากสีแดงสดเปิดออก ตำแหน่งที่เขานั่งสูงกว่าเซี่ยยวี่หลัว เพียงแค่ก้มหน้ามองเล็กน้อย ก็สามารถเห็นลิ้นเล็กประหนึ่งดอกติงเซียงภายในริมฝีปากแดง ลิ้นเล็กสีชมพู
ไม่ทันระวังน้ำจึงกระเด็นออกมา เซี่ยยวี่หลัวเช็ดปากทีหนึ่งก่อนปิดฝา แล้วจึงกินไข่ต่อ
เมื่อกินไข่ไก่ลงไป ก็ทำท่าทางเมื่อครู่ซ้ำอีก สะอึกครั้งแล้วครั้งเล่า
เซี่ยยวี่หลัวแหงนหน้าดื่มน้ำอีกครั้ง ไม่ได้แตะปากถุงเหมือนเดิม
น้ำถุงนี้ดื่มสองคนได้
ท่านราชบัณฑิตน้อยเป็นโรครักสะอาด ย่อมไม่ยินยอมแตะสิ่งของที่ผู้อื่นเคยแตะต้อง
นางไม่ได้ดื่มน้ำแบบประกบปาก ท่านราชบัณฑิตน้อยน่าจะไม่รังเกียจ
เซี่ยยวี่หลัวมีความสุขยิ่งนัก เชื่อว่าท่านราชบัณฑิตน้อยก็เช่นกัน
ในจังหวะนี้เอง จู่ๆ ก็มีบางสิ่งบางอย่างส่งเสียงเสียดสีดังจากกอหญ้า เซี่ยยวี่หลัวหันมองไปทางกอหญ้านั้น เพียงรู้สึกว่าเริ่มเกิดอาการขนหัวลุก
ภายในกอหญ้ามีสิ่งใด?
งูอย่างนั้นหรือ?
เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกขนหัวลุก นางนั่งตัวตรง จ้องมองหญ้ากอนั้นเขม็ง ภายในกอหญ้ายังมีเสียงดังต่อเนื่อง เซี่ยยวี่หลัวมองอย่างไม่ละสายตา
เสียงแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ทันใดนั้น สิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งกระโดดออกจากกอหญ้า ดวงตาสีแดงสบประสานกับสายตาของเซี่ยยวี่หลัว
เซี่ยยวี่หลัวตกใจจนเกือบกระโดดขึ้น
ไข่ไก่ในปากที่เคี้ยวไปเพียงสองครั้งพลันไหลลงคอ
ติดคอแทบตาย