ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1021 ของขวัญเข้าสู่วัยสาวยาวสิบลี้
บทที่ 1021 ของขวัญเข้าสู่วัยสาวยาวสิบลี้
บทที่ 1021 ของขวัญเข้าสู่วัยสาวยาวสิบลี้
“กู้เสี่ยวหวาน อย่าคิดว่าเจ้าเป็นเสี้ยนจู่แล้วจะทำตัวละเลยกฎหมายได้ เจ้าเป็นสาวบ้านนอก แม้ว่าจะได้เป็นฮองเฮา แต่เจ้าก็ยังเป็นสาวบ้านนอกอยู่ดี ถ้าเจ้าต้องการเทียบกับข้าก็เอาไว้ชาติหน้าเถอะ เจ้าจะแต่งงานก็จะแต่งงานกับขอทานไม่ใช่หรือ? เจ้าจะเป็นเสี้ยนจู่ไปเพื่ออะไรล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” หลิวเทียนฉือหัวเราะออกมาเสียงดัง ความทุกข์ยากเมื่อครู่อยู่ที่ไหนกัน
ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา
“หุบปาก!” อาโม่ก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเสียงดัง
ด้วยการพยุงของซุนซื่อ กู้ซินเถาเดินออกมาและรับรู้ว่ากู้เสี่ยวหวานได้รับการแต่งตั้งเป็นเสี้ยนจู่ ความอิจฉาในใจของนางเป็นเหมือนประกายไฟ เมื่อได้ยินคำสบประมาทของหลิวเทียนฉือ กู้ซินเถาก็ไม่ยอมแพ้ และลืมเรื่องของตัวเองไปเสียสนิท
“เสี่ยวหวาน ข้าได้ยินมาว่าเจ้ากำลังจะแต่งงานกับฉินเย่จือ ฉินเย่จือเป็นเพียงขอทาน พี่สาวอย่างข้ารู้สึกเสียใจแทนเจ้าจริง ๆ”
กู้เสี่ยวหวานชำเลืองมอง สายตาของนางเฉียบคมราวกับมีดที่ทิ่มแทงหัวใจของกู้ซินเถา นางหุบปากทันทีเพราะรู้สึกได้ว่านางได้เห็นไฟแผดเผา และนางก็ไม่กล้าทำอะไรอีก
แต่หลิวเทียนฉือนั้นแตกต่างออกไป
หลิวเทียนฉือไม่ได้คาดหวังว่าทาสจะสง่างามขนาดนี้ และรู้สึกกลัวเล็กน้อย แต่ปากยังคงสาปแช่งออกมา
“กู้เสี่ยวหวาน เจ้าสาบานแล้วไม่ใช่หรือว่าจะไม่แต่งงานกับใครนอกจากฉินเย่จือตลอดชีวิตของเจ้า เขาเป็นขอทานตัวเหม็น เจ้าที่เป็นเสี้ยนจู่ระดับห้าจะแต่งงานกับเขา เจ้าช่างเสียเปรียบนัก ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
หลิวเทียนฉือบ้าไปแล้วจริง ๆ
กู้เสี่ยวหวานก้าวไปข้างหน้าและยกเท้าขึ้นเตะไหล่ของหลิวเทียนฉือ “หลิวเทียนฉือ ท่านหุบปากเสีย!”
กำลังของกู้เสี่ยวหวานนั้นแข็งแกร่งมาก ตอนนี้หลิวเทียนฉือกลับมาไร้เรี่ยวแรงอีกครั้ง เมื่อกู้เสี่ยวหวานเตะไหล่ของนาง ร่างกายทั้งหมดของนางล้มลง และต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการลุกขึ้น หากแต่ยังคงมีรอยยิ้มพึงพอใจอยู่บนหน้า “กู้เสี่ยวหวาน ทำไมเจ้าถึงโกรธล่ะ ไม่อยากแต่งงานกับฉินเย่จือแล้วก็พูดออกมา เจ้าก็เป็นคนแบบเดียวกับข้าไม่ใช่หรือ? ใครจะอยากแต่งงานกับเจียงหน่วนกัน ก็แค่ไอ้ขี้เหร่ที่มีเงิน เจ้าคิดว่าทำไมข้าต้องไปหาเจ้าเพราะต้องการฉินเย่จือล่ะ ฮ่า ๆ ดูสิว่าเขาหล่อเหลาแค่ไหน คอยอยู่เคียงข้างข้าในฐานะคนรับใช้ส่วนตัว กู้เสี่ยวหวาน เจ้าเป็นเสี้ยนจู่ระดับห้า ทำไมถึงต้องแต่งงานกับทาสด้วยล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ทันทีที่ฮูหยินเจียงได้ยินหลิวเทียนฉือบอกว่านางไม่ชอบลูกชายสุดที่รักของตัวเองและพูดด้วยว่าลูกชายสุดที่รักของตัวเองเป็นไอ้ขี้เหร่ที่มีแต่เงิน นางจึงรู้สึกโกรธเคืองขึ้นมา
นางเดินตรงไปข้างหน้าและตบหลิวเทียนฉือจนหน้าหันขวับ
กู้เสี่ยวหวานมองหลิวเทียนฉือที่เสียสติไปแล้ว “หลิวเทียนฉือ ท่านคิดว่าทุกคนเป็นเหมือนท่านหรือ? ที่คิดว่าพี่เย่จือเป็นเพียงขอทาน ท่านไม่เคยได้รับการปฏิบัติอย่างจริงใจจากคนอื่น ท่านเคยมีประสบการณ์ถูกคนอื่นดูแลราวกับชีวิตของเขาบ้างไหมล่ะ”
คำพูดของกู้เสี่ยวหวานดังก้อง และนางได้ให้คำมั่นสัญญาต่อหน้าผู้คนนับร้อยที่อยู่รอบตัวนาง
ถึงเขาจะเป็นขอทาน
เขาถือว่าข้าเป็นชีวิตของเขา
ในชีวิตนี้ ถ้าข้าต้องไปขออาหารกับเขาแล้วอย่างไรเล่า?
ตราบใดที่ยังมีความรัก ต่อให้มีชีวิตเช่นนั้นก็ยอม
ทุกคนถอนหายใจ และใบหน้าของฮูหยินเจียงก็เหยเกไม่น่ามอง
กู้เสี่ยวหวานผู้นี้พูดต่อหน้าสาธารณชนว่านางกำลังจะแต่งงานกับขอทาน
อาโม่ยืนอยู่ข้างหลัง และหลังจากได้ยินคำพูดของกู้เสี่ยวหวาน ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
กล้าที่จะรัก กล้าที่จะเกลียด กล้าที่จะทำ กล้าที่จะเป็น แม้ผู้คนจะไม่ยอมรับ แต่นางก็ยอมรับอย่างไม่ปิดบัง
และให้เกียรติเขา
ขณะนั้นมีเสียงเกือกม้าและล้อเกวียนดังขึ้นไม่ไกล
มันเหมือนกับรถม้าหลายร้อยคันที่เคลื่อนที่ไปพร้อมกัน
ในเมืองหลิวเจียจะมีรถม้าจำนวนมากมายได้อย่างไร และยังมาพร้อมกันอีก ทุกคนต่างก็ชะเง้อคอไปมองทางต้นเสียงอย่างอยากรู้อยากเห็น
ในที่สุดก็เห็นรถม้าก็เคลื่อนเข้ามาใกล้
จากนั้นเห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งนั่งบนหลังม้าสีน้ำตาลแดงตัวสูงสง่าตรงเบื้องหน้า เขานั่งอยู่บนนั้นด้วยท่าทางสง่างาม และเป็นผู้ชายหน้าตาดีที่ไม่มีใครเหมือน
เขาสวมชุดสีม่วง แขนเสื้อพลิ้วไหว และในขณะที่รถม้าเคลื่อนที่ ผมสีดำขลับราวกับหยกดำก็ปลิวสยายไปด้านหลังศีรษะของเขา
รถม้าเคลื่อนที่เข้ามาอย่างเชื่องช้า และข้างหลังเขามีรถม้าหลายคันต่อแถวยาวจนมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด
รถม้าทั้งหมดถูกประดับตกแต่งด้วยผ้าไหมสีแดง และทุกคนที่ลากรถม้าสวมชุดสีดำพร้อมผ้าสีแดงผูกรอบเอว ราวกับว่าพวกเขาอยู่ในบรรยากาศแห่งความสุข
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีรถม้ามากมายขนาดนี้ มีอะไรอยู่ในกล่องข้างในรถม้ากัน โอ้สวรรค์ มีมากมายเหลือเกิน” ทุกคนต่างรู้สึกสงสัย
“โอ้สวรรค์ นี่มันอะไรกัน ทำไมมีรถม้ามากมาย มีอะไรอยู่ในรถเหล่านี้บ้าง” บ้างคนได้แต่อ้าปากค้าง
“ที่นอกเมืองยังมีอยู่อีกมากมายกำลังรอเข้ามา โอ้สวรรค์ นี่กำลังจะทำอะไรกันแน่ ข้าไม่เคยเห็นอะไรมากมายขนาดนี้มาก่อนเลย”
“ใครกำลังจะแต่งงาน? ”
“ให้ตายเถอะ เจ้าเคยเห็นใครแต่งงานแล้วให้สินสอดทองหมั้นมากมายขนาดนี้หรือไม่ ข้าเกรงว่าตระกูลเจียงจะไม่ได้ใจใหญ่ขนาดนั้น”
“นั่นน่ะสิ สิ่งของมากมายขนาดนี้ ข้าเกรงว่าตระกูลเจียงจะไม่สามารถเอามันออกมาได้”
เมื่อเห็นฉินเย่จือ จากนั้นจึงมองไปที่รถม้าที่อยู่ข้างหลังของเขา
ยาวออกไปสุดสายตา
เมื่อมาถึงหน้ากู้เสี่ยวหวาน ฉินเย่จือรีบกระโดดลงจากหลังม้า เขามองกู้เสี่ยวหวานที่กำลังประหลาดใจ กอดนางไว้ในอ้อมแขนของเขาและกระซิบอย่างแผ่วเบา “หวานเอ๋อร์ สุขสันต์วันเกิด!”
วันเกิด…
กู้เสี่ยวหวานตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งในอ้อมกอดอบอุ่นที่คุ้นเคย
จากนั้นนางก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง วันนี้เป็นวันเกิดที่นางอายุสิบสามปีเต็ม
“นี่คือ…” กู้เสี่ยวหวานจ้องมองที่ฉินเย่จือด้วยสายตาตกตะลึง นางปิดปากด้วยความประหลาดใจ
เช่นเดียวกับหลิวเทียนฉือ รถม้าวิ่งผ่านหน้านางไป และด้วยความกลัวว่าจะถูกรถม้าเหยียบจึงตะเกียกตะกายหนีไปด้านข้าง และดูรถม้าวิ่งผ่านตัวนางไป
ผ่านหน้านางไปทีละคัน ๆ บนรถม้ามีกล่องขนาดใหญ่สองกล่อง ซึ่งถูกมัดด้วยเชือกอย่างแน่นหนา
“พิธีวันเกิด” ฉินเย่จือชี้ไปที่แถวรถม้าที่อยู่ข้างหลังเขา และรถม้าก็ผ่านหลังเขาไปอย่างเป็นระเบียบ
หนึ่งคัน สองคัน สามคัน
สิบคัน ยี่สิบคัน สามสิบคัน
ห้าสิบคัน หกสิบคัน