ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1113 หลบหนี
บทที่ 1113 หลบหนี
บทที่ 1113 หลบหนี
“เหอะ ๆ ภูมิหลังของข้า ถ้าข้าบอกเจ้าไป เกรงว่าจะทำให้พวกเจ้าตกใจจนตาย” จินซื่อข่ายหัวเราะเสียงดัง
“ใครอยู่เบื้องหลังเจ้ากัน” ถานอวี้ซูถามทันที
จินซื่อข่ายโพล่งออกมา “คนที่อยู่เบื้องหลังพวกเราคือ หมิง…”
ทันทีที่เขาเอ่ยขึ้นมาหนึ่งคำ จินซื่อข่ายก็หยุดพูดด้วยความรู้สึกรำคาญเล็กน้อย “เจ้ากล้าย้อนถามข้าหรือ อยากตายหรือไร!”
จินซื่อข่ายตบถานอวี้ซูจนนางเห็นดาวสีทอง
เมื่อเห็นว่าจินซื่อข่ายทำร้ายคุณหนูของตัวเอง อาอวี้ก็กรีดร้องและพุ่งไปหาจินซื่อข่าย นางยกขาขึ้นและเตะไปที่จินซื่อข่ายทันควัน
จินซื่อข่ายเบี่ยงตัวหลบไปด้านข้าง อาอวี้จึงเตะไม่โดนเขา และเนื่องจากออกแรงมากเกินไป ร่างกายทั้งหมดของนางจึงเอนไปข้างหน้า และทำให้ขาฉีกแยกออกเป็นเส้นตรง
ความรู้สึกฉีกขาดจากเส้นเอ็นที่ขา ทำให้อาอวี้หลั่งน้ำตาด้วยความเจ็บปวด
เมื่อเห็นอาอวี้ล้มลงกับพื้น ถานอวี้ซูก็ร้องออกมาด้วยความโศกเศร้า “อาอวี้ อาอวี้!”
ที่ลานหน้าบ้าน เมื่อรู้ว่าตระกูลจินได้จับกุมเด็กสามคน ฉินเย่จือและกู้เสี่ยวหวานจึงรีบไปหาตระกูลจินเพื่อช่วยพวกเขาออกมา
ในขณะนี้ ฉินเย่จือและอาโม่กำลังต่อสู้กับคนรับใช้ของตระกูลจินอยู่ที่ลานหน้าบ้าน
คนรับใช้ของตระกูลจินก็เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้เช่นกัน แต่ต่อหน้าฉินเย่จือ พวกเขาไม่มีอะไรมากไปกว่าการกระทำที่ไร้ประโยชน์
แต่เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากและจำเป็นต้องปกป้องกู้เสี่ยวหวานด้วย ฉินเย่จือและคนอื่น ๆ จึงเสียเวลาเล็กน้อย
ไม่รู้ว่าสมาชิกของตระกูลจินมาจากไหน พวกเขาเข้ามาเรื่อย ๆ เมื่อกลุ่มหนึ่งล้มลงและกลุ่มใหม่ก็ออกมาอีก ดูเหมือนว่าตระกูลจินได้ทำสิ่งเลวร้ายมากมายเพื่อเลี้ยงดูคนรับใช้มากมายเช่นนี้
เมื่อคนรับใช้ทั้งหมดถูกทุบจนล้มลงกับพื้น ฉินเย่จือจ่อดาบไปที่คอของคนรับใช้คนหนึ่งและพูดอย่างโหดเหี้ยม “เมื่อบ่ายนี้มีเด็กสามคนมาที่นี่หรือเปล่า”
คนรับใช้คนนั้นกลัวความตาย เมื่อเห็นดาบของฉินเย่จือจ่อไปที่คอของตนเอง เขาก็ตัวสั่นด้วยความตกใจ และรู้ว่าถ้าคราวนี้ตัวเองไม่บอกความจริง หากปลายดาบขยับขึ้นหน้าเพียงเล็กน้อย ดาบเล่มนี้จะแท่งคอเขาทันที ดังนั้นเขาจึงรีบอ้อนวอนขอความเมตตา “ไว้ชีวิตข้า ไว้ชีวิตข้าด้วย ใช่แล้ว มีเด็กสามคนมาที่นี่”
“พวกเขาไปไหนกันหมด” เมื่อเห็นว่ากู้หนิงผิงและคนอื่น ๆ มาถึงบ้านตระกูลจินแล้วจริง ๆ กู้เสี่ยวหวานจึงถามอย่างรวดเร็ว
“พวกเขาถูกขังไว้ในห้องเก็บฟืน” คนรับใช้ตอบอย่างเร่งรีบ
“โรงเก็บฟืนอยู่ที่ไหน พาเราไปที่นั่น!” คนรับใช้รีบลุกขึ้นและพาฉินเย่จือกับคนอื่น ๆ ไปที่โรงเก็บฟืน
เมื่อเข้าไปถึงโรงเก็บฟืนก็พบว่าไม่มีใครอยู่ในนั้นเลย ไม่มีแม้แต่คนเดียว
เมื่อคนรับใช้เห็นว่าไม่มีใครอยู่ข้างใน ดังนั้นปลายดาบของฉินเย่จือจึงจ่อไปติดอยู่กับเนื้อของคนรับใช้คนนั้น และเขาก็ตกใจมากจนแข้งขาอ่อนแรง
“ไว้ชีวิตข้าเถอะ เราจับเขาไว้ที่นี่จริง ๆ”
“คนนั้นอยู่ไหนล่ะ”
“ข้าเป็นแค่ทาส ข้าจะรู้ได้อย่างไร”
“จะพูดหรือไม่?” ดาบของฉินเย่จือถูกกดลงบนผิวหนังของคนรับใช้แน่น และมีเลือดไหลซึมออกมาจากผิวหนังเล็กน้อย
คนรับใช้รู้สึกเจ็บที่คอและกลัวจนตัวแข็ง “ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย บางทีนายน้อยของข้าอาจจะพาตัวพวกเขาออกไปแล้ว”
“นายน้อยของเจ้าพาพวกเขาไปที่ไหน” กู้เสี่ยวหวานกระวนกระวายใจจนหัวใจแทบจะหลุดออกมา
“นายน้อยของข้าเห็นผู้หญิงสองคนดูอ่อนโยนและดูดีมาก เขาจึงบอกว่าต้องการ…”
“เจ้ากำลังพูดถึงอะไร?” กู้เสี่ยวหวานต้องการที่จะตีคน ๆ นี้ให้ตายและถามอย่างลังเล
“บอกว่าจะไปสนุกด้วยกัน”
“อะไรนะ…” จินซื่อข่ายคนนี้ทำสิ่งที่ไร้หัวใจจริง ๆ ร่างกายของกู้เสี่ยวหวานสั่นไปหมด
ด้วยความหวาดกลัว
ฉินเย่จือรู้ด้วยว่า ในขณะนี้พวกเขาไม่สามารถสนใจเรื่องนี้มากเกินไป การตามหาพวกเขาเป็นเรื่องสำคัญ ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร สถานการณ์ของพวกเขาก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้น ดังนั้นเขาจึงขอให้คนรับใช้พาพวกเขาไปที่ลานบ้านที่จินซื่อข่ายอาศัยอยู่
จินซื่อข่ายไม่ใช่คนโง่เช่นกัน เมื่อได้ยินเสียงการต่อสู้ดังมาจากลานหน้าบ้าน เขาคิดกับตัวเองว่าอาจมีคนมาช่วยคนพวกนี้
เขาจึงไม่ได้พาถานอวี้ซูกลับไปที่ห้องของเขา แต่เลี้ยวไปอีกครึ่งทางเพื่อไปยังที่พักที่เงียบสงบที่สุดของตระกูลจิน
กู้หนิงผิงถูกคนรับใช้เหล่านั้นขังไว้ในโรงเก็บฟืนด้วยความสิ้นหวัง และรู้สึกถึงความสิ้นหวังอย่างสุดซึ้ง
คนรับใช้ที่เฝ้าอยู่บอกว่าจะเอาไม้ตีเขาให้ตาย แต่เขาไม่รู้สึกกลัวเลย
ทั้งหมดที่รู้คือ ถานอวี้ซูถูกจินซื่อข่ายพาตัวไป และไม่รู้ว่าตอนนี้นางยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว
ที่เขาเคยพูดว่า แม้จะเสี่ยงชีวิตก็จะช่วยชีวิตถานอวี้ซูให้ได้ แต่ในขณะนี้ แม้ว่าเขาจะเสียชีวิต เขาก็ไม่สามารถปกป้องถานอวี้ซูได้
กู้หนิงผิงไม่เคยหมดหวังแบบนี้มาก่อน
เขาไม่กลัวความตาย แต่เขากลัวว่าถานอวี้ซูจะได้รับบาดเจ็บ
แต่ตอนนี้…
กู้หนิงผิงคร่ำครวญและอยากจะร้องไห้ แต่ก็ไม่มีน้ำตา
เมื่อเห็นว่ากู้หนิงผิงตัวสั่นและร้องไห้ สมาชิกในครอบครัวจึงรีบพูดว่า “พวกเจ้ามาถ้ำเสือเองไม่ใช่หรือ? พาผู้หญิงสองคนมาส่งถึงหน้าบ้านตระกูลจิน เหอ ๆ น่าเสียดายแทนสาวสวยสองคนนั้น ข้าเกรงว่าพรุ่งนี้พวกนางจะไม่รอด”
“เจ้าจะพูดมากมายไปกับคนที่รนหาที่เองไปทำไม นายน้อยบอกแล้วว่าให้ทุบตีให้ตาย”
มีคนรับใช้สองคนอยู่ในโรงเก็บฟืน ดังนั้นพวกเขาจึงแก้เชือกที่มือและเท้าของกู้หนิงผิง แล้วลากเขาออกไปข้างนอก
ทันใดนั้น คนรับใช้คนหนึ่งถือฆ้องเดินเข้ามาและพูดต่อว่า “มีเรื่องที่ลานหน้าบ้าน ทุกคนรีบไปเร็วเข้า”
เมื่อคนรับใช้สองคนได้ยินว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นที่ลานหน้าบ้าน พวกเขาจะสนใจกู้หนิงผิงได้อย่างไร หนึ่งในนั้นกล่าวว่า “เจ้าขังเขาไว้ในโรงเก็บฟืนอีกครั้ง และจะทุบตีเขาจนตายด้วยไม้เมื่อข้ากลับมา”
พูดจบก็วิ่งไปพร้อมกับคนที่ตีฆ้อง
ตอนนี้มีคนรับใช้เพียงคนเดียวที่จับกู้หนิงผิงไว้และดึงคอเสื้อของเขาเหมือนกับนกอินทรีที่จับลูกเจี๊ยบ แล้วพาเดินเข้าไปในโรงเก็บฟืน
เมื่อกู้หนิงผิงเห็นว่าตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดและกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของถานอวี้ซู
https://www.wikihow.com/images_en/thumb/9/9d/Do-a-Split-Step-6-Version-5.jpg/550px-nowatermark-Do-a-Split-Step-6-Version-5.jpg
锣 ฆ้อง
http://www.4001180057.com/news/64.html
——————————————————————–