ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1125 จวิ้นจู่
บทที่ 1125 จวิ้นจู่
“อย่างนั้นหรือนายท่านจิน ตระกูลจินเต็มไปด้วยวิญญาณคนตายที่ถูกเจ้าสังหาร ข้าสงสัยว่าท่านฝันถึงพวกเขาบ้างหรือไม่” ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงคุ้นหูพร้อมกับถานอวี้ซูที่ก้าวออกมา
เมื่อเห็นถานอวี้ซูรุดขึ้นหน้า กู้หนิงผิงจึงกลัวว่านางจะเสียเปรียบ ดังนั้นเขาจึงตามนางไปไม่ห่าง
ครั้นเห็นกู้หนิงผิงตามตนออกมา นางก็เกิดความกลัวว่าร่างกายของอีกฝ่ายจะทนไม่ไหว ดังนั้นจึงหันกลับไปพยุงร่างกายของกู้หนิงผิงเอาไว้ “ร่างกายของท่านเพิ่งจะหายดี ท่านไม่ควรออกแรงมากเกินไปนะ”
แววตาเต็มไปด้วยความกังวล…
ถานเย่สิงบนหลังม้ามองไปที่ท่าทางใส่ใจของถานอวี้ซู เขาก็ผงะไปชั่วขณะ
หากแต่ก็กลับมาเป็นปกติด้วยความรวดเร็ว
“นังแพศยาคนไหนกล้าใส่ร้ายข้า!” จินโหย่วกุ้ยมองเด็กหญิงผู้ปากคอเราะร้ายที่บอกว่ามีวิญญาณมากมายในตระกูลจิน จินโหย่วกุ้ยไม่เคยหวั่นเกรงสิ่งใด เขาจะกลัวสิ่งที่มองไม่เห็นได้อย่างไร ทันใดนั้น ใบหน้าของเขามืดลงและเริ่มปริปากสาปแช่ง
เมื่อถานเย่สิงได้ยินว่าจินโหย่วกุ้ยเรียกหลานสาวของเขาว่านังแพศยา ถานเย่สิงบนหลังม้าก็หรี่ตาลงทันทีและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “โอ้… นายท่านจิน ข้าไม่รู้ว่าท่านมีตำแหน่งทางการแบบไหน การที่เจ้ามาเรียกสตรีผู้นี้ว่านังแพศยา เป็นไปได้หรือไม่ว่าสถานะของเจ้าจะสูงส่งกว่านางผู้นี้”
“นังแพศยาคนนี้มีสถานะแบบไหนกัน? นางเป็นแค่เด็กผู้หญิงผู้ต่ำต้อย แล้วยังจะมาขัดจังหวะท่านแม่ทัพถานอีก” เมื่อได้ยินถานเย่สิงบอกว่าตัวเองไม่ดีเท่าผู้หญิงต่ำต้อย สีหน้าของจินโหย่วกุ้ยก็เปลี่ยนไปทันที หัวใจของเขารู้สึกคุกรุ่น แต่จำได้ว่าไม่ควรจะยั่วยุถานเย่สิง เขาอดไม่ได้ที่จะมองถานอวี้ซูแล้วพูดอย่างเหยียดหยาม
เมื่อถานเย่สิงได้ยินจินโหย่วกุ้ยก่นด่าถานอวี้ซูว่านังแพศยา เขาก็มองอีกฝ่ายด้วยสายตาโกรธเคืองราวกับสิงโตที่ต้องการตะครุบเหยื่อ
แม้ว่าสิงโตตัวนี้จะแก่แล้ว แต่ก็อย่าได้ประเมินเจ้าป่าต่ำไป
“จินโหย่วกุ้ย ท่านรู้หรือไม่ว่าหญิงคนนี้คือผู้ใด” ถานเย่สิงถามด้วยมาท่าทีสบาย ๆ มุมปากยังปรากฏรอยยิ้ม แต่ใครก็ตามที่คุ้นเคยกับถานเย่สิงจะรู้ว่านี่เป็นท่าทางที่เขากำลังจะโกรธเคือง
ถานเย่สิงเป็นคนอารมณ์ร้อน และเมื่อเขาโกรธจะไม่มีผู้ใดสามารถห้ามเขาได้ เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูในสนามรบย่อมไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เมื่อหลังจากกลับมาถึงต้าชิง ยามโกรธเขาก็ยังคงมีท่าทางเช่นเดิม ต่อมาเขาได้ยินว่าฮ่องเต้องค์แรกคุยกับเขา จากนั้นมาเมื่อใดก็ตามที่ถานเย่สิงโกรธ ใบหน้าของเขาก็จะปรากฏรอยยิ้มเล็กน้อย
เป็นสัญญาณให้รับรู้ว่าถานเย่สิงกำลังจะโกรธเคือง
แต่จินโหย่วกุ้ยไม่รู้ เมื่อเห็นถานเย่สิงยิ้มให้เขาจึงคิดว่าถานเย่สิงกำลังมีความสุข
แต่เมื่อจินโหย่วกุ้ยมองถานเย่สิงอย่างระมัดระวังก็เห็นว่าท่านแม่ทัพถานผู้นี้พูดคุยกับเด็กหญิงคนนี้ตลอดเวลา ทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัวและไม่รู้ว่าคนคนนี้หมายถึงอะไรกันแน่
ทันใดนั้น เขาก็นึกขึ้นได้ว่าจินซื่อข่ายเคยบอกเขาว่า หญิงที่จับได้ครั้งล่าสุด นางบอกว่าตนเองเป็นหลานสาวของถานเย่สิง
หรือว่า…
จินโหย่วกุ้ยหวาดผวา จากนั้นมองไปที่ถานเย่สิงและเห็นว่ายังมีรอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏบนใบหน้า จากนั้นมองไปที่ถานอวี้ซูอีกครั้ง
บริเวณคิ้วและดวงตาของทั้งคู่ดูเหมือนจะมีความคล้ายคลึงกันไม่น้อย
จินโหย่วกุ้ยตื่นตระหนก เขามองไปที่ถานเย่สิงก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ
ถานเย่สิงและถานอวี้ซูมีความคล้ายคลึงกันอย่างคาดไม่ถึง
ถานเย่สิงสังเกตเห็นสีหน้าไม่สบายใจบนใบหน้าของจินโหย่วกุ้ย เขาจึงกล่าวเคล้ารอยยิ้ม “จินโหย่วกุ้ย นังแพศยาที่ท่านกำลังพูดถึงคือจวิ้นจู่ที่ฮ่องเต้องค์แรกประทานให้ เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก นางอยู่ภายใต้การดูแลของไทฮองไทเฮา ท่านบอกว่านางเป็นผู้หญิงที่ต่ำต้อย แล้วท่านสูงส่งกว่าอดีตฮ่องเต้และไทฮองไทเฮาอย่างนั้นหรือ”
ว่าอย่างไรนะ?
สิ่งที่ถานเย่สิงพูดออกมานั้นทำให้ทุกคนตกใจ
ถานอวี้ซูได้รับการยกย่องจากอดีตฮ่องเต้ในฐานะจวิ้นจู่
นางได้รับการเลี้ยงดูภายใต้ไทฮองไทเฮาตั้งแต่ยังเด็ก
กู้หนิงผิงตกตะลึงและมีท่าทีไม่อยากจะเชื่อ
ท่านพ่อและท่านแม่ของถานอวี้ซูเสียชีวิตในสนามรบ ทำให้ถานอวี้ซูกลายเป็นเด็กกำพร้า
ในเวลานั้น ถานเย่สิงอยู่ในช่วงชีวิตที่ดีที่สุดของเขา และกำลังต่อสู้อยู่ที่ชายแดนเพื่อปกป้องต้าชิง แม้ว่าเขาที่เป็นพ่อจะต้องสูญเสียลูกไป แต่ก็ทำได้เพียงกล้ำกลืนฝืนทนและทำหน้าที่ต่อไป
แต่มารดาของถานอวี้ซูได้พาถานอวี้ซูตัวน้อยไปที่สนามรบ เมื่อไม่มีมารดา ถานอวี้ซูที่ยังเป็นเด็กคงจะใช้ชีวิตในสนามรบไม่สะดวก
ถานเย่สิงก็ไม่สะดวกอย่างยิ่งที่จะต่อสู้กับศัตรูและดูแลถานอวี้ซูตัวน้อยในเวลาเดียวกัน
ไทฮองไทเฮาองค์ปัจจุบัน ในขณะนั้นนางดำรงตำแหน่งเป็นฮองเฮา เนื่องจากถานอวี้ซูสูญเสียท่านพ่อและท่านแม่ของนางตั้งแต่อายุยังน้อย ท่านพ่อและท่านแม่ของนางเสียชีวิตอย่างกล้าหาญเพื่อปกป้องอาณาจักร ตอนนี้มีเพียงปู่ของนางเท่านั้นที่ยังคงต่อสู้กับศัตรูในสนามรบ
เพื่อให้ถานเย่สิงอยู่ที่ชายแดนสบายใจ ไทฮองไทเฮาจึงส่งคนไปที่ชายแดนเพื่อนำตัวถานอวี้ซูกลับมาเลี้ยงดู
ยิ่งกว่านั้น เพื่อยกย่องตระกูลถานที่สร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่แก่ต้าชิง อดีตฮ่องเต้จึงตั้งแต่ให้ถานอวี้ซูเป็นจวิ้นจู่*[1]
ต้าชิงจะไม่ลืมนักรบที่เสียชีวิตอย่างกล้าหาญเพื่อต้าชิง
เมื่อจินโหย่วกุ้ยได้ยินว่าถานอวี้ซูมีสถานะเป็นจวิ้นจู่ และอดีตฮ่องเต้เป็นคนแต่งตั้งให้นาง
ใบหน้าของจินโหย่วกุ้ยก็น่าเกลียดมาก
และคนที่ตกใจที่สุดอีกคนก็คือ กู้หนิงผิง
เมื่อกู้หนิงผิงได้ยินว่าถานอวี้ซูมีสถานะเป็นจวิ้นจู่ สีหน้าตกใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
ถานอวี้ซู นางคือจวิ้นจู่
กู้หนิงผิงตื่นตระหนก
เมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นไหวของกู้หนิงผิง ถานอวี้ซูก็รีบพยุงกู้หนิงผิงและมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำขอโทษ
และในขณะนี้ สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
ถานเย่สิงนั่งอยู่บนหลังม้า เขาเป่าเคราจ้องมองที่ถานอวี้ซูแล้วพูดว่า “อวี้ซู สนุกพอแล้วหรือยัง ถ้าสนุกพอแล้วก็กลับบ้านกับปู่”
เมื่อกู้หนิงผิงได้ยินว่าถานอวี้ซูยังเป็นหลานสาวของถานเย่สิง กู้หนิงผิงก็ยิ่งตกตะลึง เขาหันศีรษะและมองไปที่ถานอวี้ซูด้วยความงุนงง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
แม้กู้เสี่ยวหวานจะรู้ถึงสถานะของถานอวี้ซู แต่นางก็รู้เพียงว่าถานอวี้ซูเป็นหลานสาวของถานเย่สิง นางไม่รู้จริง ๆ ว่าถานอวี้ซูเป็นจวิ้นจู่