ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1154 ยังไม่แต่งงาน
บทที่ 1154 ยังไม่แต่งงาน
บทที่ 1154 ยังไม่แต่งงาน
นอกจากนี้ยังมีคนวัยหนุ่มหลายคนที่ไม่เคยเห็นมารยาท และใบหน้าที่งดงามเช่นนี้มาก่อน พวกเขาได้แต่รู้สึกประหลาดใจ
“ฮูหยินเหลียง หลานสาวของท่านมาจากที่ไหน ทำไมกิริยาท่าทางของนางถึงดูเรียบร้อย นางมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยหรือเปล่า” หญิงคนหนึ่งพูดอย่างอิจฉา
ทุกคนต่างมีสีหน้าอิจฉา แต่ในใจเขาพึมพำด่าทอภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง นางคิดว่านางมีอำนาจเหนือคนในหมู่บ้านมาก และไม่เคยไว้หน้าหญิงคนใดในหมู่บ้าน แววตาแสดงชัดว่าตนเหนือกว่าคนอื่น ๆ และเป็นหญิงที่มีค่าที่สุดในหมู่บ้าน และไม่มีใครกล้ารุกรานนาง
เมื่อเห็นความงามที่เกาซื่อนำมาในครั้งนี้ หญิงคนอื่นก็ยิ่งอิจฉา
ทุกคนหันกลับมามองลูกสาวตนเอง ไม่มีใครดูดีและไม่มีใครได้เรียนรู้เรื่องกิริยามารยาทมากนัก
เมื่อเห็นว่าลูกสาวของคนอื่นดูดีกว่าของพวกเขามากและทั้งยังรู้หนังสือ พวกเขาจึงไม่สามารถเปรียบเทียบกับหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงและภรรยาของเขาได้
เมื่อเห็นว่าทุกคนสนใจเกาเหลียนจือ เกาซื่อก็แสดงความประหลาดใจและพูดด้วยรอยยิ้ม “นี่คือลูกสาวของพี่ใหญ่ของข้า ข้าช่วยพี่ใหญ่และพี่สะใภ้เลี้ยงนางมาตั้งแต่เด็ก ให้นางได้กินดีอยู่ดี มีเสื้อผ้าดี ๆ สวมใส่”
“พี่ชายของท่านรวยมากหรือ” หนึ่งในนั้นถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าพี่ชายของภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเป็นคนรวย
ยิ่งไปกว่านั้นบางครั้งก็ได้ยินว่าหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงและภรรยาทะเลาะกัน เพราะดูเหมือนว่าภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงจะแอบให้เงินพี่ชายของนางในบางครั้ง
ถ้าเป็นเช่นนั้น สภาพความเป็นอยู่ของพี่ชายนางคงจะไม่ค่อยดีนัก นางจะเลี้ยงดูเด็กสาวที่บอบบางเช่นนี้ได้อย่างไร?
ทุกคนต่างมากอย่างใคร่สงสัย
ไม่เคยได้ยินว่าเกาซื่อผู้นี้มีญาติร่ำรวยมาก่อน
ผู้คนในหมู่บ้านนี้รู้มานานแล้วว่าเกาซื่อเป็นคนนิสัยอย่างไร
เมื่อถามถึงครอบครัวของญาติที่ร่ำรวยของเกาซื่อ สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไป จากนั้นก็กล่าวอย่างมีชัย “พี่ชายของข้ามีบุตรชายสามคนและบุตรสาวหนึ่งคน ดอกบัวทั้งสี่นี้ล้วนเป็นที่รัก และนางยังได้รับการสั่งสอนจากครูสอนมารยาทสตรีตั้งแต่นางยังเด็ก”
บางคนอิจฉา บางคนก็เย้ยหยัน แต่พวกเขาไม่กล้าแสดงออก พวกเขาเข้ามาชมเกาซื่อและเกาเหลียนจือทีละคน
เกาซื่อพึงพอใจในขณะที่เกาเหลียนจือ ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเกาซื่อด้วยใบหน้าที่หวาดกลัว
“ฮูหยินเหลียง หลานสาวของท่านแต่งงานหรือยัง” หนึ่งในนั้นถามขึ้น
เกาซื่อส่ายหัวและพูดด้วยรอยยิ้ม “หลานสาวของข้าอายุเพียงสิบสองปีและนางยังเด็กอยู่ ข้าไม่รู้ว่าจะมีคนมาขอแต่งงานกี่คนก่อนที่จะถึงวัยอันควร ข้าล่ะกลัวจริง ๆ ว่าบ้านตระกูลเกาของเราจะหัวกระไดไม่แห้ง”
ทันทีที่พวกเขาได้ยินว่าเกาเหลียนจือยังไม่ได้แต่งงาน ชายหนุ่มสองคนก็ยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยความยินดีและย้ายไปอยู่ข้างเกาเหลียนจือทันที
…..
บทที่ 1155 จุดเด่น
เกาเหลียนจือรู้สึกตะลึงเมื่อมีคนจำนวนมากมารวมตัวกันรอบ ๆ
นางรีบซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเกาซื่อด้วยความกลัว
ทันใดนั้น ดวงตาก็เต็มไปด้วยน้ำตาราวกับว่านางกำลังจะร้องไห้ได้ทุกเมื่อ “ท่านอา ท่านอา”
ปากยังคงตะโกนด้วยความกลัวเหมือนกระต่ายขาวตัวน้อยที่ได้รับบาดเจ็บ
สายตาที่น่าสงสารนั้น ในสายตาของคนหนุ่มสาวที่อยู่ข้าง ๆ ช่างเหมือนดอกบัวที่บอบบางหลังฝนตกจริง ๆ มันช่างน่าหลงใหลที่ได้เห็น อยากที่จะกอดมันไว้ในอ้อมแขนและปลอบโยนเสียจริง
เกาซื่อกลัวว่าเกาเหลียนจือจะหวาดกลัวเมื่อนางเห็นกลุ่มชายหนุ่มที่เหมือนหมาป่า ใบหน้าของนางก็ไม่พอใจเล็กน้อย “พวกเจ้ากำลังทำอะไร นางยังเด็กอยู่”
“อย่างนั้นหรือ นางยังเด็ก แต่เรียนรู้ที่จะยั่วยวนผู้ชายตั้งแต่อายุยังน้อย แล้วถ้าโตขึ้นล่ะ” หนึ่งในนั้นไม่พอใจเกาซื่อมานาน แต่ไม่เคยมีโอกาสที่จะได้ตะโกนใส่นาง ทว่าโอกาสดี ๆ เช่นนี้จะปล่อยให้พลาดไปได้อย่างไร
เกาเหลียนจือได้ยินคำพูดเหล่านี้ชัดเจนเมื่อมีคนพูดว่านางยั่วยวนผู้ชาย นางก็ร้องไห้ออกมาทันที
“ท่านอา ท่านอา ข้าอยากกลับบ้าน” เกาเหลียนจืออยู่บ้านตลอดและไม่เคยออกจากบ้าน แล้วนางได้รับความอัปยศอดสูเช่นนี้และบอกว่านางยั่วยวนผู้ชายได้อย่างไร
ถ้าคำพูดเหล่านี้ลอยเข้าหู จะไม่โกรธได้หรือ?
เกาเหลียนจือคิดที่จะดึงเกาซื่อกลับบ้าน ทว่าเกาซื่อก็คว้าโอกาสนี้ไว้ จะปล่อยนางไปได้อย่างไร
เกาเหลียนจือสวย เกาซื่ออยากให้ทุกคนในหมู่บ้านรู้ว่าเกาเหลียนจือสวย
ยิ่งข่าวนี้แพร่กระจายเร็วเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้นและเป็นการดีที่สุดที่จะเข้าถึงหูตระกูลกู้โดยไว
เกาซื่อมีแผนการอยู่ในใจ นางจับเกาเหลียนจือไว้นิ่ง ๆ แล้วนางก็มองไปรอบ ๆ
ในที่สุดเมื่อเห็นหญิงที่กล่าวว่าเกาเหลียนจือสามารถยั่วยวนผู้คนได้ตั้งแต่อายุยังน้อย นางก็ก้าวไปข้างหน้า ชี้ไปที่หญิงผู้นั้นและตำหนิว่า “เจ้าหมายความว่าอย่างไร อย่าทำตัวแย่ ๆ ให้พ่อแม่เจ้าอับอายจะดีกว่า”
หญิงที่ว่าร้ายนั้นน่าเกลียดจริง ๆ นอกจากจะหน้าตาขี้เหร่แล้วก็ยังมีไขมันไปทั่วร่างกาย
เด็กหญิงผู้นั้นดูเหมือนจะอยู่ในช่วงวัยรุ่น นางทั้งเตี้ยและอ้วนเหมือนหมูอ้วนตัวเล็ก ๆ
เมื่อได้ยินเกาซื่อด่านางว่าน่าเกลียด หญิงผู้นั้นก็ไม่พอใจทันที นางกลอกตาและตะโกนเสียงดัง “เกาซื่อ เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องบ้าอะไร ไม่เหมือนกับใครบางคนหรอก ที่ทั้งวันเอาแต่แต่งตัวสวยงามเหมือนผีเสื้อเพื่อไปดูดน้ำหวานจากดอกไม้ของคนอื่น”
“เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร เจ้าหมายถึงใคร” เมื่อเกาซื่อได้ยินสิ่งนี้นางก็โกรธเช่นกัน
หญิงที่ตัวใหญ่และหยาบกระด้าง บ้านของนางฆ่าหมู นางฆ่าหมูทุก ๆ สองหรือสามวัน และขายมันตามถนนและตรอกซอกซอย สภาพของครอบครัวไม่แย่นัก
แต่ว่าเกาซื่อผู้นี้ชอบที่จะใช้ประโยชน์จากสิ่งเล็ก ๆน้อย ๆ เช่นนี้ ทันทีที่ครอบครัวนางฆ่าหมู นางจะไปที่บ้านและนำเลือดหมู เครื่องในหมู และกระดูกหมูไปทั้งหมด