ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1158+1159 เจอกันอีกครั้ง (2)/มีเลศนัย
บทที่ 1158+1159 เจอกันอีกครั้ง (2)/มีเลศนัย
บทที่ 1158 เจอกันอีกครั้ง
เกาซื่อมีความสุข หากแต่ไม่ได้แสดงออกมา นางยังคงแสร้งทำเป็นโกรธ และพูดว่า “โอ้ เป็นหนิงอันนี่เอง เหตุใดถึงไม่มองทาง ดูเหลียนจือของข้าสิ นางเปียกไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่านางได้รับบาดเจ็บหรือไม่”
เกาซื่อดูไม่พอใจ และมองไปที่กู้หนิงอันอย่างตำหนิ
เมื่อนางมองไปที่เกาเหลียนจืออีกครั้งด้วยสีหน้าเป็นทุกข์ ก่อนจะสำรวจร่างกายนางอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่ในใจของนางหวานยิ่งกว่าการกินน้ำผึ้ง
“เหลียนจือ เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือไม่” เกาซื่อทำตัวราวกับมารดาของตน
เกาเหลียนจือรีบส่ายศีรษะอย่างรวดเร็ว “ท่านอา ข้าไม่เป็นไร ข้าไม่เป็นไร ข้าไม่เจ็บ”
เมื่อครู่นางโดนถังฟาดจนล้มลงกับพื้น แต่นางไม่กล้าพูดอะไรเพราะมีคนมากมายอยู่ข้างหน้านาง
เพียงแค่มองใบหน้าแดงก่ำราวกับว่าได้รับความอับอายอย่างมาก
เกาซื่อรู้สึกเป็นทุกข์เมื่อเห็นดังนั้น “เด็กน้อยที่น่าสงสารของข้า”
เมื่อนางมองไปที่กู้หนิงอัน สีหน้าของนางก็ยิ่งแย่ลง “หนิงอันนะหนิงอัน ข้ารู้อยู่เสมอว่าเจ้าเป็นเด็กที่ฉลาด ทำไมในครั้งนี้เจ้าถึงประมาทเช่นนี้”
เมื่อเกาเหลียนจือได้ยินผู้เป็นอาตำหนิคนที่ชนนางจึงรีบอธิบาย “ท่านอา มันเป็นความสะเพร่าของข้าเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาเลย”
เกาเหลียนจือกลัวว่าเกาซื่อจะไม่เชื่อนาง ดังนั้นนางจึงหมุนรอบ ๆ
เมื่อเกาซื่อเห็นว่าหลานสาวที่โง่เขลาของตัวเองทำตัวไม่ได้ดั่งใจ ดังนั้นนางจึงปล่อยมือ แล้วไปคว้ากู้หนิงอัน “ดูสิว่าหลานสาวของข้าเป็นคนดีแค่ไหน เจ้าชนนาง แต่นางกลับบอกว่านางไม่เป็นอะไร เจ้าจะทำแบบนี้ไม่ได้ เจ้าทำผิดเจ้าก็ต้องยอมรับ”
คราวนี้เกาซื่อคว้ากู้หนิงอันไว้ไม่ยอมปล่อยจริง ๆ
กู้หนิงอันถือไม้หาบและถังไม้ไว้ในมือแน่น และเมื่อเห็นท่าทางก้าวร้าวของเกาซื่อ เขารู้ในใจว่านางคงจะไม่ปล่อยตัวเองไปง่าย ๆ แน่ ดังนั้นเขาจึงได้แต่ขอโทษและพูดว่า “แม่นาง เมื่อครู่เป็นความผิดของข้า หากข้าทำผิด ข้าจะขอโทษเจ้าที่นี่”
ในความเป็นจริง ตราบใดที่เห็นชัดเจนก็จะรู้ว่าไม่ใช่ความผิดของกู้หนิงอันเลย
อย่างไรก็ตาม หญิงสาวถูกชนแล้วล้มลงกับพื้นจนเสื้อผ้าเปียกปอน กู้หนิงอันไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน
กู้หนิงอันก็รู้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้อธิบายตั้งแต่ต้นจนจบ เมื่อเห็นว่าเกาซื่อกำลังรั้งตัวเอง เขาก็ได้แต่ขอโทษอย่างเชื่อฟัง
เนื่องจากตอนนี้ เกาเหลียนจือถูกชนล้ม และไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองว่าใครเป็นคนชนนาง ครั้งนี้เมื่อนางได้ยินเสียงขอโทษ ก็รู้สึกว่าเสียงนั้นคุ้นเคยเหลือเกิน นางรีบเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าเป็นคนที่นางคุ้นเคย
คนนี้คือชายหนุ่มในชุดขาวที่ช่วยนางเก็บผ้าเช็ดหน้าที่ริมลำธารในตอนเช้าไม่ใช่หรือ?
“เป็นท่านนี่เอง” เกาเหลียนจือรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อเห็นกู้หนิงอัน
เมื่อเกาซื่อได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของนางก็เปล่งประกายด้วยความยินดี แต่น้ำเสียงของนางยังคงเย็นชา “พวกเจ้าสองคนรู้จักกันหรือ”
“ท่านอา ผ้าเช็ดหน้าของข้าตกลงไปในลำธารเมื่อเช้านี้ และเขาเก็บมันขึ้นมาให้ข้า” เกาเหลียนจือมีสีหน้ายินดี
เมื่อเกาซื่อได้ยินสิ่งนี้ นางจึงหันมองหน้าทั้งสองคนไปมาและแสร้งทำเป็นประหลาดใจมาก แต่หัวใจของนางเต็มไปด้วยความสุข
….
บทที่ 1159 มีเลศนัย
“มิน่าล่ะ เมื่อตอนสายผ้าเช็ดหน้าในมือของเหลียนจือถึงเปียกน้ำเช่นนั้น” เกาซื่อพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อกลั้นความตื่นเต้นไว้ในใจ
เกาเหลียนจือนิ่งเงียบ เขาเพิ่งเก็บผ้าเช็ดหน้ามาให้นางในตอนเช้า และตอนนี้บังเอิญชนกับถังน้ำของเขาจนทำให้เสื้อของนางเปียก อีกทั้งตัวเขายังถอดเสื้อคลุมให้นาง นางมีแต่จะสร้างความลำบากให้กับเขา
ดังนั้นนางจึงรีบดึงเกาซื่อและพูดว่า “ท่านอา เมื่อครู่ข้าบังเอิญไปชนกับถังน้ำของเขา ดูสิ เขาถอดเสื้อของตัวเองให้ข้าด้วย ข้าจะกล่าวโทษเขาได้อย่างไร ข้าเป็นคนผิดเอง”
จุดประสงค์ดั้งเดิมของเกาซื่อคือให้กู้หนิงอันและเกาเหลียนจือทำความคุ้นเคยกัน ตอนนี้ทั้งสองได้พบกันแล้ว นางจึงไม่สนใจสิ่งอื่นและรีบพูดด้วยรอยยิ้ม “ใช่ ใช่ ไม่ควร หนิงอันตำหนิข้าเถิด เป็นเพราะข้ารักเด็กคนนี้มากเกินไปเลยพูดจาไม่ทันระวัง เจ้าอย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”
กู้หนิงอันไม่ได้คิดอะไรอื่น ดังนั้นจึงได้แต่พยักหน้าและพูดว่า “เป็นข้าเองที่ไม่ระวังตัวและทำให้แม่นางขุ่นเคืองใจมาก ข้าหวังว่าแม่นางจะไม่ใส่ใจ”
“หนิงอัน ทำเป็นคนอื่นคนไกลไปได้ แม่นางอะไรกันเล่า นางเป็นหลานสาวของข้ามีนามว่าเหลียนจือ พวกเจ้าเคยพบกันมาก่อน ดังนั้นไม่ต้องสุภาพมากก็ได้เรียกแค่ชื่อนางก็พอ”
เกาซื่อปรารถนาให้ทั้งสองสวมชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว เพื่อทำพิธีตอนนี้เดี๋ยวนี้เลย
กู้หนิงอันจะเรียกหญิงคนอื่นด้วยชื่อของนางได้อย่างไร เกาเหลียนจือไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้มาก่อนและตกตะลึงทันที
ท่าทางกระตือรือร้นมากเกินไปของเกาซื่อทำให้ผู้คนสงสัยเล็กน้อย
กู้หนิงอันขมวดคิ้ว ก่อนจะเตรียมจากไป
เกาซื่อยังคงพูดอยู่ด้านหลัง “หนิงอัน เมื่อกลับไปข้าจะให้เหลียนจือซักเสื้อผ้าของเจ้า และนำมาคืนเจ้าหลังจากตากจนแห้งแล้ว”
กู้หนิงอันจะสนใจชุดนั้นได้อย่างไร มันเป็นชุดที่หญิงอื่นสวมใส่แล้ว และเขาไม่ได้ตั้งใจจะเอามันกลับมาอีก
เมื่อเห็นด้านหลังของกู้หนิงอันจากไป ใบหน้าของนางก็ยังปรากฏรอยยิ้มอยู่
ใครที่ได้เห็นก็คงเดาว่าทำไมเกาซื่อถึงยิ้ม
ตอนนี้หญิงฆ่าหมูรู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นเกาซื่อยิ้ม
รอยยิ้มของเกาซื่อนั้นชัดเจนเกินไป นางมองไปที่กู้หนิงอัน ดูเหมือนว่ากำลังมองหาเหยื่อ
“ดูภาคภูมิใจทีเดียวเชียว กลัวใครจะมองไม่ออกหรือว่าเจ้าต้องการจับตระกูลกู้”
หญิงคนนั้นเป็นคนตรงไปตรงมา และนางก็เปิดเผยความคิดภายในใจของเกาซื่อออกมาโดยตรง
เกาซื่อคิดเช่นนั้นในใจจริง ๆ แต่นางไม่คิดว่าจะมีคนดูออก และพูดออกมาตรง ๆ
“เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน” เกาซื่อตำหนิอย่างไม่พอใจ “เราล้วนเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน เขามาชนเข้ากับเหลียนจือของข้า จะให้ข้าไปชนเขาคืนหรืออย่างไร”
“ใครจะไปรู้ นี่อาจเป็นสิ่งที่เจ้าต้องการก็ได้”
หญิงผู้นั่นกระตุกริมฝีปากของนาง
เกาซื่อได้ยินเช่นนี้ก็ม้วนแขนเสื้อขึ้นและกำลังจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อสอนบทเรียนให้หญิงผู้นี้ แต่ทว่าเกาเหลียนจือก็จามออกมา
เสื้อผ้าบนร่างกายนี้เปียกไปหมด เมื่อยืนอยู่ท่ามกลางฤดูใบไม้ร่วงและถูกลมพัดจึงทำให้ตัวสั่นสะท้าน