ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1194 แตกหัก
บทที่ 1194 แตกหัก
บทที่ 1194 แตกหัก
กู้เสี่ยวหวานจะปล่อยให้ผู้หญิงที่มีผู้ชายคนอื่นอยู่ในใจแล้วมาแต่งงานกับน้องชายของตัวเองอีกได้อย่างไร
เกาเหลียนจือเองจะไม่รู้เชียวหรือ
นางจะไม่รู้เชียวหรือว่ากู้เสี่ยวหวานคิดหาวิธีให้นาง เพื่อหาทางถอยให้ตัวเองและตระกูลกู้
ต้องขัดแย้งกันทั้งสองฝ่าย
ฉินเย่จือเห็นว่าประตูถูกคนล้อมรอบเอาไว้ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก ใช้กำลังภายในกระโดดข้ามศีรษะชาวบ้านเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ทุกคนรู้สึกแค่ว่าเหนือศีรษะมีลมพัดผ่าน เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นชายชุดดำคนหนึ่งลอยข้ามศีรษะของตัวเองไปอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันจะร้องด้วยความตกใจก็เห็นว่าชายคนนั้นลงมาอยู่ข้างกู้เสี่ยวหวานเรียบร้อยแล้ว รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพสวรรค์จุติลงมา
ทุกคนร้องอุทานออกมา คนที่เหมือนดั่งเทพเซียนจุติลงมาเช่นนี้ เหตุใดถึงได้ถูกกู้เสี่ยวหวานเก็บไว้ได้เล่า
ใบหน้าของหญิงสาวที่ยังไม่มีคู่แดงระเรื่อขึ้นทันที ยามที่มองไปที่ฉินเย่จือ
ฉินเย่จือไม่ได้สนใจ ลงไปยืนอยู่ตรงนั้นข้าง ๆ กู้เสี่ยวหวานอย่างนุ่มนวล เกาซื่อที่กำลังด่าสาดเสียเทเสียในใจก็หวาดกลัวอย่างไม่มีสาเหตุ เดิมทีนั้นยืนอยู่ใกล้กู้เสี่ยวหวาน ครั้งนี้กลับเห็นก้อนน้ำแข็งที่เย็นยะเยือกอีกก้อนอยู่ข้าง ๆ ทั้งร่างราวกับว่าเดินเข้าไปอยู่ข้างในก้อนน้ำแข็ง หลังจากที่หนาวสั่นไปทั่วทั้งตัวก็เดินถอยหลังอย่างไม่รู้ตัวไปสองสามก้าวแล้ว
ฉินเย่จือกวาดสายตามองไปด้านหน้า ใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับเทพเซียนนั้นเย็นเยียบราวกับธารน้ำแข็งในเดือนสิบสอง
ตรงกันข้ามกับกู้เสี่ยวหวาน ใบหน้าที่บอบบางนั้นราวกับมีพลังบางอย่างดึงดูดให้ผู้คนจ้องมองดู แต่ว่าความเยือกเย็นบนร่างกายนั้นกลับทำให้คนไม่กล้าที่จะเข้าใกล้ เพียงแค่กล้ามองจากระยะไกล ๆ เท่านั้นและไม่กล้าที่จะวู่วามแม้แต่น้อย
หลังจากที่เกาซื่อรู้ตัวว่าตัวเองนั้นทำอะไรลงไป ใบหน้าก็แดงด้วยความอับอาย
เกือบทั้งชีวิตของนางนี้คาดไม่ถึงว่าจะถูกเด็กที่อายุน้อยสองนี้ทำให้ตกใจกลัวจนถอยหลัง หากเรื่องนี้ถูกเล่าออกไป ชื่อเสียงของตัวเองก็รักษาไว้ไม่ได้แล้ว
เดิมทีเกาซื่อนั้นก็เป็นคนที่ชอบใช้อำนาจในทางที่ผิด ยามปกติในหมู่บ้านก็ชินกับการใช้อำนาจทำสิ่งไม่ดี มีแต่คนอื่นที่เกรงกลัวนาง มีเหตุผลที่ทำให้นางกลัวคนอื่นเสียที่ไหน
จึงก้าวไปยืนข้างหน้าอีกครั้ง มือเท้าเอวชี้ไปที่ฉินเย่จือ แม้แต่ฉินเย่จือก็โดนด่าขึ้นมาด้วยเช่นกัน คำพูดนี้ช่างบาดหูไม่น่าฟังเป็นอย่างยิ่ง
“พวกสุนัขตัวผู้ตัวเมียสองตัว ทั้งวันทั้งคืนเอาแต่อยู่ใต้ชายคาเดียวกัน ใครจะรู้ว่าพวกเจ้าสองคนสมคบกันทำเรื่องลับลมคมในอะไร ถุย! ตระกูลกู้ถูกพวกเจ้าทำให้เสียเกียรติแล้ว พี่สาวเป็นคนไม่รู้จักอายทั้งวันเอาแต่มั่วกับผู้ชาย น้องชายเองก็เป็นคนไร้ยางอาย เอาเปรียบคนอื่นแต่ไม่อยากรับผิดชอบแล้วยังให้คนอื่นไปตาย คนตระกูลกู้อย่างพวกเจ้าทำไมถึงได้ไร้ยางอายขนาดนี้ ทำไมพวกเจ้าถึงไม่ไปตายเสียล่ะ เหลียนจือของข้าบริสุทธิ์สูงส่งเทียบกับผู้หญิงที่หน้าไม่อายอย่างเจ้าแล้วนั้นดีกว่ามาก”
เกาซื่อเป็นคนปากร้าย ขอเพียงแค่หญิงสาวในหมู่บ้านไม่ทำตามความต้องการของนาง นางก็เริ่มด่าทอแล้ว
เมื่อทุกคนเห็นเกาซื่อเริ่มด่าเรื่องนี้ก็ยิ่งบานปลาย ใบหน้าทุก ๆ คนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและรอให้เกาซื่อโกรธ
กู้เสี่ยวหวานโตมาขนาดนี้เคยถูกคนด่าเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไร นางจึงขมวดคิ้ว มุมปากยกยิ้มเย้ยหยัน
ฉินเย่จือกำลังจะฟาดมือออกไปตรง ๆ แต่กลับถูกกู้เสี่ยวหวานรั้งเอาไว้
บุรุษตบตีสตรี
กู้เสี่ยวหวานไม่มีทางปล่อยให้มือของฉินเย่จือนั้นแปดเปื้อน
เกาซื่อเห็นทั้งสองจับมือกัน คราวนี้ก็มีคำจะพูดแล้วจึงชี้ไปที่กู้เสี่ยวหวานกับฉินเย่จือที่จับมือกันแล้วตะโกนเสียงดังว่า “ทุกคนรีบดูเร็วเข้า ชายโสดหญิงม่ายไร้ยางอายเสียจริง กลางวันแสก ๆ ก็ไร้ยางอายทำเรื่องไม่ดีไม่งาม ช่างหน้าไม่อายจริง ๆ”
คำพูดยังพูดไม่ทันจบ “ป้าบ” คอของเกาซื่อก็หันไปทันที
บนใบหน้านั้นร้อนผะผ่าว เกาซื่อตกตะลึงเมื่อเห็นว่าเป็นกู้เสี่ยวหวานที่ยื่นฝ่ามือออกมาตบตัวเอง เกาซื่อก็ตะลึงงันแล้ว พอรู้สึกตัวขึ้นมาก็แผดเสียงออกมาเสียงดัง “กู้เสี่ยวหวาน เจ้ามันหน้าไม่อาย คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะกล้าตบข้า ผู้หญิงหน้าเหม็นไร้ยางอาย ข้าจะตีเจ้า”
เกาซื่อจะเดินไปข้างหน้า แต่ถูกฉินเย่จือดึงแขนไว้และผลักไปด้านหลัง เกาซื่อยังไม่ทันจะก้าวขาก็ถูกฉินจือเย่ผลักไปจนถึงรถบรรทุกสินค้าแล้วล้มลงไปดังตุ้บแล้ว
“ช่วยด้วย จะฆ่าคนแล้ว ตระกูลกู้จะฆ่าคนแล้ว ช่วยด้วย” เกาซื่อไม่สามารถลุกขึ้นมาได้จึงสบถคำด่าออกมาอย่างหยาบคาย
คนของตระกูลเกานี้ช่างแปลกประหลาดและหาได้ยากเสียจริง
กู้เสี่ยวหวานมองเกาเหลียนจือด้วยสายตาเย็นเยียบ
ความหวังดีของนางนั้นเปล่าประโยชน์ นางคิดจนหัวแทบแตกเพื่อเกาเหลียนจือว่าจะทำเช่นไรให้นางกับถังซ่านจู่ได้อยู่ด้วยกันโดยที่สามารถรักษาชื่อเสียงของนางเอาไว้ได้ ดูเหมือนว่าตัวเองหวังดีต่อนาง แต่คนอื่นกลับไม่หวังดีต่อตัวเอง
บริสุทธิ์สูงส่งหรือ?
กู้เสี่ยวหวานหัวเราะอย่างเย็นชาอยู่ในใจ
ผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์แนบชิดกับผู้ชายอื่น แต่งงานกับผู้ชายอื่นโดยที่ไม่ได้รับความยินยอมจากบิดามารดา แม้ว่ากู้เสี่ยวหวานจะไม่สามารถพูดได้ว่าตัวเองนั้นบริสุทธิ์สูงส่ง ไม่ต้องพูดถึงนางกับฉินเย่จือนอกจากกอดกันเป็นบางครั้งแล้ว เรื่องอื่น ๆ นั้นก็ไม่เคยทำ
เมื่อเทียบกับเกาเหลียนจือ ดูเหมือนว่าตัวเองจะบริสุทธิ์สูงส่งกว่านางตั้งมาก
“เหลียนจือ เจ้าไม่มีอะไรอยากจะพูดหน่อยหรือ” กู้เสี่ยวหวานมองนางอย่างเย็นชา อยากให้โอกาสนางเป็นครั้งสุดท้าย
“กู้เสี่ยวหวาน เจ้ามันไร้ยางอาย ยังจะมาบังคับเหลียนจือของข้าอีก เจ้าอยากจะให้เหลียนจือพูดอะไร” เกาซื่อแผดเสียง
เกาเหลียนจือมองดวงตาที่เย็นชาของกู้เสี่ยวหวาน เป็นครั้งแรกที่มองเห็นความผิดหวังในดวงตานั้น นางอ้าปากเอ่ย “พี่… สะ… เสี่ยวหวาน”
ทว่าหลังจากนั้นก็ก้มหนาลงและไม่พูดอะไรอีก ทั้งร่างราวกับว่าได้รับความหวาดกลัว
“เหลียนจือ เจ้ารับปากอะไรกับข้าไว้” ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานราวกับสัตว์มีพิษ เกาเหลียนจือจึงไม่กล้าจะมอง
“ข้า… ข้า…”
“เหลียนจือ เจ้าอย่าไปกลัวนาง” เกาซื่อก้าวมาหยุดตรงหน้าเกาเหลียนจือและพูดกับเกาเหลียนจือว่า “เจ้าวางใจได้ ข้าจะต้องทวงความยุติธรรมนี้ให้เจ้าแน่ อย่าคิดว่าตัวเองเป็นเสี้ยนจู่แล้วจะทำตัวหยิ่งผยองมาดูถูกหลานสาวข้าได้นะ พวกเจ้าต้องรับผิดชอบ”
กู้เสี่ยวหวานขี้เกียจที่จะสนใจนาง เอาแต่มองเกาเหลียนจือเพื่อรอคอยคำตอบของนาง
แต่ว่าเกาเหลียนจือกลับเหมือนลืมสิ่งที่สัญญาไว้กับกู้เสี่ยวหวาน จึงก้มหัวไม่พูดอะไรอีก
“เหอะ ๆ” กู้เสี่ยวหวานเห็นนางไม่พูด จึงหัวเราะเสียงเย็น เสียงหัวเราะนั้นเย็นชาจนทำให้คนไม่กล้าพูดอะไร
“แม่นางเกา” กู้เสี่ยวหวานเอ่ยปาก คร้านที่จะเรียกนางว่าเหลียนจือแล้ว