ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 122 สัญญา
บทที่ 122 สัญญา
บทที่ 122 สัญญา
เดิมทีการได้แต่งงานกับตระกูลกู้นับเป็นพรอย่างแท้จริงของเฉาซื่อ แต่น่าเสียดายที่เรื่องนี้ทำได้เพียงแค่ตำหนิเฉาซื่อเท่านั้น ตอนนี้นางได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ ถ้าเกิดกู้ฉวนโซ่วหย่าร้างกับนางจริง ๆ ภายใต้ความคิดของตระกูลเฉาที่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว เฉาซื่อคงไร้ซึ่งหนทางรอด
เฉาซื่อคิดเรื่องนี้อยู่ในใจ ตอนนี้กู้ฉวนโซ่วยังไม่ยอมหย่ากับตน คงเป็นเพราะนางกุมความลับอันยิ่งใหญ่ของเขาเอาไว้ นี่เป็นเรื่องต้องห้ามที่สุดสำหรับกู้ฉวนโซ่ว แต่ก็เป็นสิ่งที่ช่วยชีวิตของเฉาซื่อด้วยเช่นกัน หากนางต้องการอยู่ในตระกูลกู้ต่อไป นางต้องไม่ยั่วยุกู้ฉวนโซ่วอีก
นางต้องลดความถือตัวลง และเกลี้ยกล่อมกู้ฉวนโซ่วให้ได้
“พี่เขยของเจ้าเป็นคนเก็บเงินไว้ ข้าไม่มี” เฉาซื่อพูดอย่างโกรธเคือง
ตั้งแต่วันนั้นที่กู้ฉวนโซ่วชายผู้นั้นจะหย่ากับตนเอง เขาก็ได้กุมอำนาจทางการเงินของครอบครัวทั้งหมด ตอนนี้เงินและของมีค่าของครอบครัวล้วนอยู่ในกำมือของกู้ฉวนโซ่ว
“ข้าจะไปเอาเงินจากพี่เขย” ทันทีที่เฉาฮุยได้ยินว่าเงินอยู่กับกู้ฉวนโซ่ว เขาก็ไม่สนใจเฉาซื่ออีกต่อไป รีบร้อนจะออกไปข้างนอก
“ช้าก่อน เจ้าจะไปทำไม!” เมื่อเห็นว่าเฉาฮุยกำลังจะไปหากู้ฉวนโซ่ว เฉาซื่อก็รีบฉุดรั้งเขาไว้ “เจ้าจะไปทำอะไร?”
“ข้าจะไปขอเงินพี่เขย!”
“เจ้าไปไม่ได้!” เมื่อเฉาซื่อได้ยินว่าเฉาฮุยจะไปเอาเงิน นางพลันเป็นกังวล และปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด
“เหตุใดจะไปไม่ได้!” เฉาฮุยหงุดหงิดเมื่อเห็นว่าเฉาซื่อไม่ต้องการให้เงิน และเอ่ยสาปแช่ง “เราตกลงกันในปีนั้นแล้วว่าตราบใดที่ข้าช่วยท่าน ท่านจะให้ข้าปีละห้าสิบตำลึงเงิน ท่านเพิ่งให้มาไม่กี่ปีเท่านั้น ท่านจะไม่นับแล้วอย่างนั้นหรือ”
“ข้าไม่ได้บอกว่าไม่ให้ ข้าบอกแล้วอย่างไรว่าเงินอยู่กับพี่เขยของเจ้า!”
“ท่านโกหกข้าอย่างนั้นหรือ? เงินท่านกับเงินพี่เขยต่างกันอย่างไร” แม้ว่าเฉาฮุยจะเป็นอันธพาล หากแต่เขาไม่ได้ไร้หัวใจ เมื่อเห็นว่าหญิงคนนั้นไม่พูดอะไร จึงพูดขึ้นอย่างเกียจคร้าน
“อย่าไป อยากได้เงินก็รอข้าเสีย หากเจ้าไปขอพี่เขยอย่าโทษว่าข้าไม่เตือน วันนี้เจ้าจะไม่ได้แม้แต่เหรียญทองแดงเดียว และในอนาคตเจ้าก็จะไม่ได้” เฉาซื่อกล่าวตามความจริง ตอนนี้เงินอยู่ในความดูแลของกู้ฉวนโซ่ว หากอยากปล่อยให้เงินรั่วไหลสักเล็กน้อย เฉาซื่อก็ไม่สามารถทำได้ในขณะนี้
ยิ่งกว่านั้น ในปีที่ผ่านมาเงินที่เฉาซื่อมอบให้เฉาฮุยทั้งหมดล้วนเป็นความลับ โดยเป็นการเก็บเล็กผสมน้อยจนเป็นก้อนใหญ่ รวม ๆ แล้วนางให้เงินแก่เฉาฮุยจำนวนห้าสิบตำลึงเงินต่อปี เมื่อใดก็ตามที่รวบรวมเงินได้ ก็จะมอบเงินจำนวนนี้ให้เฉาฮุยมาหลายปีติดต่อกัน และกู้ฉวนโซ่วก็ไม่ได้สังเกตว่ามีสิ่งใดขาดหายไป กุญแจสำคัญคือกู้ฉวนโซ่วไม่รู้ด้วยซ้ำว่าครอบครัวมีเงินเท่าไร เมื่อก่อนเงินอยู่ในความดูแลของเฉาซื่อ เขาจึงไว้วางใจ
แต่ตอนนี้กู้ฉวนโซ่วไม่วางใจเลย ตอนนี้เขาไร้เหตุผล และภรรยาคนนี้ก็มีโอกาสหนีไปได้ทุกเมื่อ ถ้าเขาไม่เก็บเงินทั้งหมดไว้ในความดูแลของตนเอง แล้วภรรยาหนีไปพร้อมมัน มันคงไม่คุ้มค่ากับการสูญเสีย
“ท่านกำลังพูดเรื่องอะไร? ปีนี้ท่านไม่ได้วางแผนที่จะให้เงินข้า และในอนาคตท่านก็คงไม่วางแผนที่จะให้แล้ว?” เมื่อเฉาฮุยได้ยินว่าเขาไม่สามารถรับเงินได้ในปีนี้ และในอนาคตอาจจะไม่ได้รับมัน ทันใดนั้นธาตุแท้ของเขาก็ถูกเปิดเผย เขาจ้องเฉาซื่อด้วยแววตาดุร้าย ดูเหมือนว่าเฉาซื่อได้ตัดเส้นทางการเงินของเขาไปแล้ว ทำให้ท่าทางของเขาดูราวกับกำลังจะกินเฉาซื่อเข้าไปทั้งตัว
กู้ถิงถิงที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม เมื่อเห็นใบหน้าราวกับจะกินคนของผู้เป็นน้าชาย นางก็มุดซ่อนตัวอยู่ในโปงผ้าห่มอีกครั้ง ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความกลัว
“ไม่ใช่แบบนั้น…”
“นังแพศยา อย่าทำเป็นนั่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้ ข้าบอกท่านแล้วว่าต้องให้วันนี้ ไม่อยากให้ก็ต้องให้! หากไม่ให้ก็อย่าโทษข้าที่จะกลายเป็นศัตรูของท่าน และเปิดเผยเรื่องของท่าน” เฉาฮุยยืดคอตั้งตรง เส้นเลือดสีเขียวที่คอปูดโปน และพูดอย่างโกรธเคือง
“ข้าบอกว่าข้าจะให้ เจ้ายังจะโวยวายอันใดอีก!” เฉาซื่อรู้ว่าเฉาฮุยไม่กลัวอะไร แต่กลัวไม่มีเงินในกระเป๋า
ตามคำพูดของเฉาฮุย พ่อแม่ดีไม่เท่าเหรียญเงินในกระเป๋า ส่วนภรรยาและลูกนั้นไม่มีค่าเท่ากับแท่งทองคำในกระเป๋า
หากเฉาฮุยไม่ได้เงินในวันนี้ เขาอาจจะทำอะไรที่ไม่คาดคิดออกมาก็ได้ เมื่อเห็นท่าทางดุดันของเฉาฮุยก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้พูดเล่นเลย หัวใจของเฉาซื่อจึงหวาดกลัวเล็กน้อย แต่ก็เอ่ยออกมาอย่างกล้าหาญ “ฮึ่ม! ไปพูดสิ พูดไปเลย ถ้าข้าแย่ เจ้าก็จะแย่ไปด้วยเช่นกัน!”
“เหอะ ในที่สุดท่านก็เอ่ยสิ่งในใจแล้ว” เฉาฮุยไม่พอใจเมื่อเห็นว่าเฉาซื่อกล้าข่มขู่ตนเอง “แล้วอย่างไรเล่า? เสร็จเรื่องแล้วก็จะหนีหรืออย่างไร! ท่านพี่ ทำไมข้าถึงไม่รู้ว่าท่านยังมีความสามารถนี้อยู่? ท่านมีความสามารถในการขู่คนและความสามารถในการเฉดหัวผู้อื่น!”
“เจ้า…”
“ข้าอะไร? ฮึ่ม ข้ามีชีวิตที่ย่ำแย่ ถ้าท่านไม่ให้เงิน ข้าจะสู้จนถึงที่สุด ถ้าท่านทำให้ข้าแย่ลง ข้าก็จะทำให้ท่านพี่แย่เช่นกัน ตอนนี้ท่านกำลังใช้ชีวิตเป็นฮูหยิน พอใจกับชีวิตเช่นนี้แล้วหรือยังเล่า ไม่ใช่เพราะอยากอยู่บ้านหลังใหญ่โต ใช้ชีวิตเป็นฮูหยินสุขสบายหรืออย่างไร!” เฉาฮุยกล่าวอย่างเจ็บปวด “ข้าไม่มีอะไรเลย ท่านพี่คิดดูสิ!”
“ข้าจะให้เงินเจ้า! หากแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้!” เฉาซื่อสัญญา “เมื่อเร็ว ๆ นี้ ข้ามีปัญหากับพี่เขยของเจ้า ตอนนี้เงินอยู่ใต้การควบคุมเขา ถ้าข้าไปหาเขาเพื่อขอเงินโดยไม่มีเหตุผล เขาจะไม่มีวันให้เงินข้า เจ้าจะต้องเชื่อข้า ให้เวลาข้าสักสองสามวัน แล้วข้าจะพูดถึงเรื่องนี้หลังจากที่หายจากอาการบาดเจ็บ”
“ได้! ท่านพี่ เราตกลงกันแล้ว อีกสักพักข้าจะกลับมา”
“เจ้าอย่ามาที่นี่ ข้าจะกลับไปบ้านแม่!” เฉาซื่อไม่อยากเจอน้องชายคนนี้ ครั้นเมื่อเห็นน้องชายคนนี้นางจะรู้สึกปวดหัว “รีบกลับไปเถอะ มันไม่ดีที่จะให้คนอื่นเห็นเราอยู่ที่นี่นานเกินไป!”
“ท่านต้องจำสิ่งที่ท่านพูดตอนนี้!” เฉาฮุยกล่าวดังราวกับต้องการให้ทุกคนรับรู้ แต่เขาพูดเพียงต้องการข่มขู่เฉาซื่อเท่านั้น
เขากับเฉาซื่อลงเรือลำเดียวกันแล้ว ต่อให้เขาอยากจะมีความสุขจริง ๆ แต่ถ้าเฉาซื่อแย่ เขาก็จะแย่เช่นกัน เขาไม่โง่เขลาขนาดนั้น ถ้าเขาบอกความจริง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเงินห้าสิบเหรียญเงินต่อปีเลย เขาอาจถูกจำคุกหรือถึงกับถูกตัดหัวเลยด้วยซ้ำ!
“ตกลง เจ้ารีบกลับไปเดี๋ยวนี้!” เฉาซื่อพูดอย่างหมดความอดทน นางเพิ่งบอกเฉาฮุยไปเมื่อสักครู่ เฉาฮุยจะไม่พูดไร้สาระอีกต่อไปแน่นอน เรื่องด่วนที่สุดคือการหาเงินให้เร็วที่สุด
“ตกลง ข้าไปแล้ว! ท่านอย่าทำให้ข้าผิดหวัง!”
…………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
มาดูกันว่านังเฉาจะหาเงินวิธีไหน แล้วจะรอดหรือไม่รอด
ไหหม่า(海馬)