ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 125 แจกเกี๊ยว
บทที่ 125 แจกเกี๊ยว
บทที่ 125 แจกเกี๊ยว
ในชีวิตชาติก่อนของกู้เสี่ยวหวาน แม้นางจะไม่เคยรีดแป้งมาก่อน แต่หลังจากดูแม่ของนางทำมานานกว่าสิบปี ถึงจะทำไม่ได้ก็ควรทำได้แล้ว กู้เสี่ยวหวานจึงนวดแป้งเป็นลูกเล็ก ๆ ให้พอที่จะใส่ไส้และจับจีบเป็นเกี๊ยวได้
ฝีมือของกู้เสี่ยวหวานนับว่าค่อนข้างดี นางใช้ไม้ไผ่รีดแป้งให้เป็นแผ่นกลม ทำให้กู้เสี่ยวอี้พูดด้วยความประหลาดใจ “โอ้ ท่านพี่ แป้งนี้กลมดีจริง ๆ!”
กู้หนิงผิงมองไปที่การกระทำของพี่สาวของตนเอง เขาไม่เคยทำมาก่อน และเกิดความรู้สึกอยากทำบ้าง “ท่านพี่ ให้ข้าลองทำบ้าง!” แม้ว่ากู้หนิงผิงจะไม่เคยทำเกี๊ยวหรือนวดแป้ง แต่ดูจากวิธีที่พี่สาวทำอย่างง่ายดาย ดูเหมือนว่ามันก็คงจะง่ายจริง ๆ
กู้เสี่ยวหวานตอบรับหนึ่งคำ แล้วสอนกู้หนิงผิงรีดแป้ง ถึงแม้กู้หนิงผิงจะไม่เคยรีดแป้งมาก่อนแต่เขามีมือที่แข็งแรง แป้งที่เขารีดรอบนี้ไม่กลมมาก แต่พอจะทำเกี๊ยวได้ เพราะอย่างไรเสียก็ทำไว้สำหรับกินไม่ใช่สำหรับทำไว้ให้ดูดี กลมหรือไม่จึงไม่ใช่เรื่องสำคัญ
“ดีล่ะ หนิงผิง เจ้ามีหน้าที่รีดแป้ง ส่วนหนิงอันกับข้าจะเป็นคนห่อ!” กู้เสี่ยวหวานออกคำสั่ง
“ท่านพี่ แล้วข้ารับผิดชอบอะไร?” กู้เสี่ยวอี้เห็นว่าพี่สาวไม่ได้มอบหมายงานอะไรให้ นางจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อย
“เจ้าต้องรับผิดชอบในการกิน!” กู้เสี่ยวหวานยิ้มหลังจากฟังคำพูดของน้องสาว ใช้นิ้วชี้ติดแป้งเล็กน้อย แตะปลายจมูกกู้เสี่ยวอี้แผ่วเบา ปลายจมูกของกู้เสี่ยวอี้เปรอะเปื้อนไปด้วยแป้งขาว มองแล้วดูน่ารักจริง ๆ
เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของกู้เสี่ยวอี้ กู้หนิงผิงก็อดหัวเราะไม่ได้ “ท่านพี่ ท่านดูเสี่ยวอี้สิ น่ารักราวกับลูกแมวน้อย”
“เมี้ยว…” เมื่อกู้เสี่ยวอี้ได้ยินพี่ชายกล่าวพูดว่าตนเหมือนแมวน้อยตัวหนึ่ง หัวใจของนางรู้สึกความสุข เด็กน้อยยกมือขึ้นข้างใบหน้าเลียนแบบท่าทางแมว โดยไม่ลืมที่จะส่งเสียงร้องเมี้ยวออกมา
“ฮ่า ๆๆ”
คนในห้องใหญ่รู้สึกขบขันทันทีกับท่าทางที่น่ารักของกู้เสี่ยวอี้ เด็กทั้งสี่คนทำงานอย่างเบิกบานใจ และพวกเขาต่างมีกำลังใจที่ดีเมื่อคิดว่าพวกเขาจะได้กินเกี๊ยวในตอนกลางคืน
กู้หนิงผิงดูเหมือนจะเชี่ยวชาญทักษะในการรีดแป้ง แป้งที่รีดออกมานั้นกลมกว่าเดิม และมันก็ไม่ได้แย่ไปกว่าแป้งที่กู้เสี่ยวหวานรีดออกมาในตอนแรก
ส่วนกู้หนิงอัน หลังจากที่กู้เสี่ยวหวานสอนเขาห่อเกี๊ยว เขาก็ทำออกมาเหมือนกับของกู้เสี่ยวหวาน ในตอนแรกกู้เสี่ยวหวานคิดว่าแค่ไส้เกี๊ยวไม่แตกออกมาก็พอแล้ว แต่คาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเด็กชายสองคนนี้จะมีฝีมือ พวกเขาเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
กู้เสี่ยวหวานอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ช่างเป็นวัยเด็กที่น่าสงสารเสียจริง พี่น้องกู้หนิงอันสองคนและกู้เสี่ยวอี้รู้เรื่องมากเกินไปจริง ๆ ไม่รู้เป็นเพราะพ่อแม่ของพวกเขาเสียชีวิตก่อนวัยอันควรหรือไม่ ที่ผ่านมานอกจากเตรียมอาหารแล้ว ความจริงแล้วนางไม่ได้สนใจเด็กพวกนี้เท่าที่ควรเลย
ทั้งสามลงมือขยันขันแข็ง ผ่านไปไม่นานแป้งและไส้เนื้อก็ถูกใช้จนหมด กู้เสี่ยวหวานนับเกี๊ยวได้มากกว่าหกสิบชิ้น นางคิดว่าวันนี้คงไม่สามารถกินเกี๊ยวจำนวนมากได้หมด และเนื้อนี้ก็เป็นเนื้อที่ท่านป้าจางนำมาให้ในวันส่งท้ายปี ดังนั้น นางจึงแบ่งปันให้พวกเขา เมื่อคิดเช่นนี้ กู้เสี่ยวหวานจึงแบ่งเกี๊ยวสามสิบชิ้นใส่ในจานสะอาดขนาดใหญ่ จากนั้นคลุมด้วยผ้าสะอาด และพูดกับกู้หนิงผิงที่เฝ้าดูอยู่ว่า “หนิงผิง เอาเกี๊ยวนี้ไปให้ท่านป้าจาง”
กู้หนิงผิงตอบรับอย่างรวดเร็ว กู้เสี่ยวหวานมองดูน้องสามคนของตนเองอย่างระมัดระวัง ใบหน้าของพวกเขาไร้ซึ่งความลังเล เพราะนางต้องการส่งเกี๊ยวสามสิบชิ้นไปที่บ้านของท่านป้าจาง ตรงกันข้ามพวกเขาทั้งหมดยอมรับมัน นั่นทำให้นางรู้สึกโล่งใจ เด็ก ๆ ไม่ได้หวงอาหารและพวกเขาทั้งหมดก็รู้จักความกตัญญู
อย่างไรก็ตาม กู้เสี่ยวหวานคิดเกี่ยวกับมันและตัดสินใจที่จะไปด้วยตนเอง “ไม่เป็นไร ข้าจะไปกับเจ้าด้วย หนิงอันอยู่กับน้องสาวและลงกลอนประตูให้ดี!”
กู้หนิงอันก็ปฏิบัติตามเช่นกัน กอดกู้เสี่ยวอี้ไว้และส่งกู้เสี่ยวหวานและกู้หนิงผิงออกไปจนไม่เห็นเงา จากนั้นจึงลงกลอนประตูบ้านและประตูห้องครัวอย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงเข้าไปในบ้านและลงกลอนประตูจากด้านใน
หลังจากที่กู้หนิงอันทำความสะอาดโต๊ะแล้วเขาก็เริ่มฝึกเขียนอักษรอีกครั้ง กู้เสี่ยวอี้เพิ่งหัดเขียนและนางยังคงดูพี่ชายฝึกเขียนด้วยความสนใจ หลังจากเห็นกู้หนิงอันเขียนคำสองสามคำนางก็หมดความอดทน ปีนลงจากโต๊ะและหยิบเชือกถักที่ซ่อนอยู่ออกจากหัวเตียงมาเล่น
กู้เสี่ยวหวานและกู้หนิงผิงถือตะกร้าไม้ไผ่ในมือ และเกี๊ยวก็ถูกห่อไว้ในตะกร้า และทั้งสองก็รีบมุ่งหน้าไปของบ้านท่านป้าจาง
เมื่อพวกเขามาถึงประตูบ้านของท่านป้าจาง พวกเขาบังเอิญเจอเสี่ยวฉือโถวที่กลับมาจากการตักน้ำ เมื่อเสี่ยวฉือโถวเห็นสองพี่น้อง กู้เสี่ยวหวานก็มีความสุขมาก “เสี่ยวหวาน หนิงผิง พวกเจ้ามาแล้ว!”
“อื้อ ข้าเพิ่งทำเกี๊ยวเสร็จ เลยจะนำมาให้ท่านป้าจาง” กู้เสี่ยวหวานกล่าวและเดินตามเสี่ยวฉือโถวเข้าไปในบ้าน
เมื่อท่านป้าจางได้ยินเสียงของกู้เสี่ยวหวานที่อยู่ข้างนอกแล้ว จึงรีบเดินออกจากห้องครัว มือของนางเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ นางจึงเช็ดเสื้อแขนยาวที่นางสวมอยู่
เมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานปรากฏตัว พวกเขาต่างอิ่มเอมใจ “สาวน้อยเสี่ยวหวานมาแล้ว ผิงเอ๋อร์ก็มาด้วย เข้ามาเร็ว อากาศข้างนอกหนาวมาก”
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านป้า ข้ามาเพื่อนำของบางอย่างมาให้” กู้เสี่ยวหวานหยิบจานออกจากตะกร้าแล้วเปิดผ้าออก เผยให้เกี๊ยวตัวอ้วนกลม มองดูแล้วชวนน้ำลายสอ
“นี่คือเกี๊ยวที่ข้ากับน้องชายเพิ่งทำเสร็จเจ้าค่ะ ข้าคิดว่าวันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่าจึงต้องกินเกี๊ยว แต่ก็คิดว่าบ้านท่านป้าจางก็คงจะทำเกี๊ยวเหมือนกัน ดังนั้น หลังจากห่อเสร็จเลยรีบมา”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ในที่สุดพวกเจ้าก็ได้กินเกี๊ยวแล้ว บ้านของข้ามีแล้ว ข้ามีแล้ว!” เมื่อท่านป้าจางได้ยินก็ไม่คิดว่าเด็กพวกนี้จะคิดถึงตนเองด้วย ในใจก็รู้สึกดีใจและปวดใจกับเด็กพวกนี้ไปในเวลาเดียวกัน
กู้เสี่ยวหวานยังยืนกราน “ท่านป้าจางเจ้าคะ ท่านรับไปเถอะ นี่เป็นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพวกเรา แม้ว่ามันจะไม่ใช่ของดีอะไร”
“ใช่ขอรับ ท่านป้าจาง รับมันไว้เถอะขอรับ!” กู้หนิงผิงที่อยู่ข้าง ๆ ส่งเสียงออกมา
“เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร? ไม่ใช่ของดีอะไรกัน!” ท่านป้าจางเห็นว่าการที่นางจะไม่ยอมรับมันอีกทำให้เด็กทั้งสองน้อยใจ ดังนั้น นางจึงรีบรับมันจากกู้เสี่ยวหวานและไปที่ห้องครัว เทเกี๊ยวออกจากจานแล้วออกมาพร้อมจานเปล่า
กู้เสี่ยวหวานรีบหยิบจานเปล่าว่างลงในตะกร้าดังเดิม
“เฮ้อ…” ท่านป้าจางถอนหายใจยาว
เมื่อเห็นท่านป้าจางเป็นดังนั้น กู้เสี่ยวหวานจึงรีบถาม “ท่านป้าจาง เป็นอะไรไปเจ้าคะ…”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ถ้าผู้แปลเป็นท่านป้าจางก็คงซาบซึ้งใจมากเหมือนกันค่ะ เด็ก ๆ กตัญญูรู้คุณดีมาก
ไหหม่า(海馬)