ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1253 พึ่งพาอาศัย
บทที่ 1253 พึ่งพาอาศัย
บทที่ 1253 พึ่งพาอาศัย
หลิวชิงซานเดินตามติดนางไม่ห่าง
ในใจของเหอฮวากำลังเกิดความสับสน นางเดินไปตามถนนอย่างเหม่อลอย จึงไม่ได้สนใจหลิวชิงซานที่กำลังเดินตามมา
กระทั่งความประมาทเลินเล่อของนางได้เปิดโอกาสให้หลิวชิงซานก้าวไปดักหน้านางไว้ ก่อนจะลากนางเข้าไปในตรอกเล็ก ๆ ที่ไร้ผู้คน
เหอฮวาหวาดกลัวแทบหมดสติ นางอยากตะโกนดัง ๆ ทว่านางเป็นเพียงสตรีตัวคนเดียว จะเอาแรงที่ไหนไปสู้กับหลิวชิงซานได้
แม้ว่าหลิวชิงซานผู้นี้จะเป็นเพียงบุรุษผอมแห้งแรงน้อย แต่อย่างไรเสียพละกำลังทางกายของบุรุษก็ยังมีมากกว่าสตรีอยู่ดี เขาถึงได้ลากนางมายังที่เปลี่ยวด้วยเวลาอันรวดเร็วเช่นนี้อย่างไรล่ะ
บัดนี้เหอฮวาถูกหลิวชิงซานลากตัวจากทางด้านหลัง เขาใช้มืออีกข้างหนึ่งปิดปากนางไว้แน่น หอฮวาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ นางพยายามหันกลับไปมองว่าคนด้านหลังคือผู้ใด สองมือของนางกำแน่น อยากหลุดพ้นจากพันธนาการเต็มทน ด้านหลิวชิงซานจึงจับสองมือของนางไพล่หลังไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว มืออีกข้างยังคงปิดปากนางไว้แน่นเพื่อไม่ให้นางส่งเสียง ตอนนี้จึงได้ยินเพียงเสียงร้องอู้อี้จากเหอฮวาเท่านั้น
ดูเหมือนว่านางจะกลัวจนถึงขีดสุดแล้ว
ต่อมา หลิวชิงซานลากนางมายังที่แห่งหนึ่งซึ่งเปล่าเปลี่ยวไร้ผู้คน หยิบมีดพกออกมาจากแขนเสื้อ แล้วกดตัวเหอฮวาเข้ากับผนัง จ่อปลายมีดไปที่คอนาง พลางพูดอย่างโหดเหี้ยม “หากเจ้าคิดจะกรีดร้อง ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย”
เหอฮวาตกใจมากจนนางพูดสิ่งใดไม่ออก ดวงตาฉายแววหวาดกลัว หลิวชิงซานปิดปากนางไว้ นางจึงทำได้เพียงพยักหน้าอย่างรีบร้อนลนลาน ด้วยกลัวว่าหลิวชิงซานจะตัดสินใจสังหารนางเสียก่อน หากไม่เห็นว่านางพยักหน้าตกลง
ตรอกแห่งนี้อยู่ลึกมาก บริเวณรอบ ๆ ก็ไม่มีบ้านเรือนหรือผู้คน ในวันธรรมดาจึงไม่มีผู้ใดเดินทางผ่านไปผ่านมาแม้แต่คนเดียว หลิวชิงซานเห็นว่านางพยักหน้าตอบรับอย่างเชื่อฟัง ก็ปล่อยมือที่ปิดปากนางออก แต่มีดยังคงจ่ออยู่ที่คอไม่ห่าง เพราะดูเหมือนนางยังสัมผัสได้ถึงความเย็นที่มาจากปลายมีดอยู่ราง ๆ “เจ้าเป็นสาวรับใช้ของลวี่เทาใช่หรือไม่?”
เหอฮวาได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของนางก็เบิกกว้างยิ่งขึ้น สีหน้าหวาดระแวงขึ้นมาทันใด “จะ… เจ้ารู้ได้อย่างไร”
หลิวชิงซานใช้มือข้างที่ว่างจับแก้มสีเลือดฝาดของเหอฮวา ยกยิ้มมีเลศนัย แล้วพูดอย่างเห็นอกเห็นใจ “ข้าย่อมรู้อยู่แล้ว เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าหญิงสาวน่าตาสะสวยเช่นเจ้า ลวี่เทาจะไม่ชายตาแล แต่หญิงแก่วัยกลางคนผู้นั้นกลับได้รับความโปรดปรานจากลวี่เทานักหนา หากข้าเป็นเขา ข้าย่อมต้องเลือกเจ้าที่มองอย่างไรก็งามกว่านังจิ้งจอกเฒ่าผู้นั้นเป็นแน่ สิ่งใดทำให้ลวี่เทาไม่เลือกเจ้ากันนะ”
เหอฮวาไม่คาดคิดว่าคนที่ลักพาตัวนางมาจะรู้สึกเห็นใจนาง ใจนางถึงกับวูบไหวไปครู่หนึ่ง ความกลัวในใจของนางทุเลาลงเล็กน้อย จึงเริ่มเล่าให้อีกฝ่ายฟังอย่างโกรธแค้นว่า “ข้ารับใช้นังจิ้งจอกเฒ่าผู้นั้นมาตั้งแต่อายุสิบสาม จนบัดนี้ผ่านมาเกือบแปดปีแล้ว สามีคนแรกของนางเสียชีวิต ต่อมานางก็ได้พบใต้เท้า ไม่รู้ว่านางล่อลวงใต้เท้าด้วยวิธีใด ถึงได้พานังจิ้งจอกเฒ่าออกหน้าออกตา ทั้งยังเลี้ยงดูลูกของนางกับอดีตสามีอย่างดี ใต้เท้าจิตใจดีมีเมตตา รักใคร่ลึกซึ้งเช่นนี้ ไม่มีผู้ใดไม่ชื่นชม ในใจลึก ๆ ของข้าก็หวังจะได้รับสิ่งดี ๆ เช่นนั้นบ้าง แต่นังจิ้งจอกเฒ่ากลับเอาแต่บอกว่ารอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมก่อน นางจะฝากฝังข้ากับใต้เท้าเอง หลายปีผ่านไป ข้าแทบจะไม่ได้เห็นหน้าใต้เท้าด้วยซ้ำ ฮือ ๆ”
พอเล่าจบ เหอฮวาก็ร้องไห้เสียใจจนเกินพอดี ซึ่งมันดูผิดปกติยิ่งนัก ด้านหลิวชิงซานในเวลานี้ก็ได้เข้าใจทุกสิ่งแล้ว
อย่างไรก็ตาม เขายังไม่อยากปักใจเชื่อ “ลวี่เทาผู้นี้ไม่ใช่คนเมืองหลิวเจีย เช่นนั้นเขาอาจมีภรรยาและลูกอยู่แล้ว”
“เหตุใดจะไม่มีล่ะ” เหอฮวาพูดอย่างโกรธเคือง “เพียงแค่พวกเขาอยู่ในเมืองหลวงที่ห่างไกลจากที่นี่ แต่ไหนแต่ไรมา พวกเขาไม่เคยเหลียวแลใต้เท้าเลย ข้าไม่รู้ว่าหญิงผู้นั้นจิตใจทำด้วยสิ่งใด มีสามีที่ดีเช่นนี้ แต่นางกลับไม่ต้องการ”
ความรู้สึกบอกว่าลวี่เทามีครอบครัวอยู่ที่เมืองหลวง แต่เขาไม่ได้พามาที่นี่ด้วย เป็นเหตุให้ลวี่เทาแอบเลี้ยงดูนังจิ้งจอกเฒ่าไว้ที่เมืองหลิวเจียอย่างไรเล่า
ครุ่นคิดถึงตรงนี้ หลิวชิงซานพลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นไปอีก
แม้ว่าชื่อเสียงของลวี่เทาในเมืองหลิวเจียจะไม่ค่อยดีเท่าไร แต่โชคดีที่เขายังพอมีชื่อเสียงว่าเป็นคนเที่ยงธรรม
ถึงได้มีข่าวลือว่าหลายตระกูลในเมืองหลิวเจียแอบส่งสาวงามไปให้ลวี่เทา หวังประจบประแจงเขาเต็มที่ แต่ลวี่เทากลับปฏิเสธสาวงามทั้งหลาย ไม่คิดจะเก็บไว้แม้แต่คนเดียว
เดิมทีก็คิดว่าคนผู้นี้เป็นคนดี ทว่าสิ่งที่เขาได้เห็นเมื่อวานนี้มันช่าง…
ยามที่เขาอยู่บนเตียง ร่างกายเปลือยเปล่าขยับไปมาด้วยท่าทางทรงเสน่ห์เกินบรรยาย
หลิวชิงซานลอบยิ้มอย่างมีเลศนัย “นี่แม่นาง หากเจ้าเต็มใจช่วยข้า ข้าก็จะช่วยเจ้าเช่นกัน ปีนขึ้นเตียงใต้เท้าลวี่ เจ้าคิดว่าอย่างไร”
ปีนขึ้นเตียงใต้เท้าลวี่!?
ทันทีที่เหอฮวาได้ยินข้อเสนอจากอีกฝ่าย นางลืมเรื่องที่ถูกหลิวชิงซานลักพาตัวมาจนหมดสิ้น แสดงสีหน้าตื่นเต้นดีใจอย่างปิดไม่มิด “เจ้าพูดสิ่งใด เจ้าพูดจริงหรือไม่!”
“จริงแท้แน่นอน” หลิวชิงซานยิ้มพร้อมพูดอย่างหนักแน่น “เจ้าสาวกว่า สวยกว่านังจิ้งจอกเฒ่านั่นเป็นไหน ๆ นางคิดจะกดหัวเจ้าไว้จนตาย เจ้าถึงไม่มีแม้แต่โอกาสได้พบหน้าใต้เท้าลวี่ หากเจ้ากับใต้เท้าลวี่มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันตามลำพังล่ะก็… ข้าเชื่อว่าใต้เท้าลวี่จะต้องหมอบราบคาบแก้วอยู่ใต้ชายกระโปรงเจ้าอย่างแน่นอน”
หลิวชิงซานใช้สายตากวาดมองเหอฮวาให้ละเอียดขึ้น
หญิงสาวในวัยยี่สิบต้น ๆ ผิวพรรณบนใบหน้าขาวเนียนละเอียดเหมือนไข่ที่เพิ่งปอกเปลือก ก้อนเนื้อสองก้อนที่หน้าอกกลมกลึง เอวบาง ๆ เพียงมือเดียวโอบก็มิด ดวงตาหนึ่งคู่คล้ายเมล็ดซิ่งมองมาด้วยความรักใคร่ ชายใดได้เห็นก็ต้องหวั่นไหว
เหอฮวามีความสุขมากเมื่อได้ยินคำยืนยันของหลิวชิงซาน นางมองหลิวชิงซานอย่างตื่นเต้นแล้วตอบตกลงโดยที่ไม่เสียเวลาคิดสักนิด “ข้าตกลง! พี่ชาย… อยากให้ข้าทำสิ่งใด ข้าจะทำตามทุกอย่าง”
จะให้ทำสิ่งใดไม่ถามสักนิด ก็ตอบรับสุดใจ ดูเหมือนว่าเหอฮวาอยากจะปีนขึ้นเตียงลวี่เทาจนแทบบ้าแล้ว
แต่เป็นอย่างนี้ก็ยิ่งดี คนที่มีความโลภเต็มเปี่ยมอยู่ในใจอย่างเขาจะได้ต่อรองกับนางได้ง่ายขึ้น
ตอนนี้หลิวชิงซานมีคดีฆาตกรรมอยู่ในมือก็เพราะยาพิษจากกู้ฉวนลู่ แต่เวลานี้ คนผู้นั้นกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ยิ่งกว่านั้น เขายังปฏิเสธได้อย่างแนบเนียนอีกว่ายานี้ไม่ได้มาจากเขา
กู้ฉวนลู่โหดเหี้ยมเสียจริง
ฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อนเดียว
ไม่เพียงแต่ทำร้ายกู้เสี่ยวหวานเท่านั้น แต่กู้ฉวนลู่ยังหลอกให้เขาวิ่งเต้นไปทั่วอย่างกับลิง คิดถึงเรื่องนี้ทีไร ใจของหลิวชิงซานก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
อย่าได้พูดถึงความเมตตากรุณาหรือศีลธรรมกับคนอย่างกู้ฉวนลู่
แม้ตอนนี้กู้ฉวนลู่จะหนีได้ไป แต่อย่างไรเสียพระก็หนีวัดไม่พ้น เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ กู้ฉวนลู่เป็นคนสั่งให้เขาทำ หากจะต้องตาย เขาก็จะลากคออีกฝ่ายตายไปด้วยกัน
ตัวเขาก็แค่คนตัวเปล่าเล่าเปลือย ตายแล้วก็แล้วไป แต่กู้ฉวนลู่นั้นยังมีบุตรชายที่มีความสามารถ มีอนาคตที่สดใสรออยู่ตรงหน้าให้กู้ฉวนลู่ได้พึ่งพา เทียบกับเขาแล้ว หลิวชิงซานรู้สึกว่าตนเองแทบไม่ได้สูญเสียอันใด
หลิวชิงซานหันไปกระซิบสองสามคำข้าง ๆ หูเหอฮวา สีหน้านางเปลี่ยนเป็นดูไม่ค่อยดีทันใด ก่อนจะเอ่ยถามหลิวชิงซาน “ทำอย่างนี้จะดีหรือ?”
หลิวชิงซานยืดอกรับอย่างหนักแน่น “เจ้าวางใจเถอะ เมื่อหากทำสำเร็จ เจ้าก็จะเป็นผู้ที่ช่วยเหลือเขาครั้งใหญ่ ไม่ว่าเจ้าจะพูดสิ่งใด มีหรือว่าเขาจะไม่ฟัง”
เหอฮวาสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความคาดหวังพยักหน้าตอบรับหนักแน่นว่า “ได้ ข้าจะทำตามที่เจ้าบอก”
เหอฮวาจากไปโดยไม่เหลียวหลัง นางไม่สนใจที่จะเก็บข้าวของที่พึ่งซื้อมาก่อนหน้านี้ไปด้วย และไม่คิดจะกลับไปทำอาหารให้นังจิ้งจอกเฒ่า แต่นางกลับมุ่งหน้าไปที่ศาลาว่าการอย่างกระตือรือร้น
นี่เป็นโอกาสดีที่นางจะได้ช่วยลวี่หลางไขคดีฆาตกรรม หากเขาไขคดีได้ เขาก็จะได้เป็นวีรบุรุษ ถึงเวลานั้น ลวี่หลางจะต้องยอมรับในตัวนาง และปฏิบัติต่อนางอย่างอ่อนโยนเหมือนกับที่เขาปฏิบัติต่อนังจิ้งจอกเฒ่าผู้นั้น จากนั้นนางก็จะได้เป็นหนึ่งในภรรยา และมีสาวใช้คอยรับใช้อยู่ข้างกายนาง ไม่ต้องไปคอยรับใช้ผู้ใดอีก เมื่อคิดว่าตนจะมีชีวิตที่ดีในไม่ช้า เหอฮวายิ่งเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น
หลิงชิงซานมองตามหลังเหอฮวาที่เดินหายไปอย่างรวดเร็ว พร้อมยกยิ้มมุมปากที่คาดเดาไม่ได้ว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่ “กู้ฉวนลู่เอ๋ย กู้ฉวนลู่ เจ้าอยากจะกำจัดข้าอย่างนั้นหรือ ได้… มาดูกันว่าผู้ใดจะตายก่อนกัน”
กู้เสี่ยวหวานนั่งรอข่าวอยู่ในร้านจิ่นฝู ได้ยินว่าหลี่ซื่อถูกมัดหินถ่วงน้ำก็ตกใจ
หลี่ซื่อผู้นี้เคยเป็นผู้ติดตามของหมอเหลย ต่อมาเขาก็ได้พบรักกับเฉาซินเหลียน ภายหลังเขาถูกจับ ทว่าหลังจากถูกปล่อยตัวได้ไม่นานเขาก็ถูกฆ่าตาย
ไม่รู้ว่าผู้ใดมีความแค้นกับเขา…
หรือว่าจะเป็นกู้ฉวนโซ่ว!
แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ กู้ฉวนโซ่วผู้นี้หลังจากแยกทางกับอดีตภรรยา ก็ไม่รู้ว่าเขาย้ายไปอยู่ที่ใด หากจะบอกว่ากู้ฉวนโซ่วผู้ที่มีนิสัยขี้ขลาด จู่ ๆ ก็เกิดแค้นอดีตภรรยากับหลี่ซื่อที่สวมหมวกเขียวให้เขา จึงลงมือฆ่าหลี่ซื่อ
ทว่ากู้เสี่ยวหวานกลับไม่คิดว่าคนอย่างกู้ฉวนโซ่วจะมีความกล้าขนาดนั้น
แต่ถ้าไม่ใช่กู้ฉวนโซ่ว แล้วจะเป็นผู้ใดที่ฆ่าหลี่ซื่อ?
หลี่ซื่อไม่มีญาติพี่น้อง แต่เขากลับมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนยิ่ง
กู้เสี่ยวหวานคิดว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ การตายของคนทั้งสองจะต้องมีบางอย่างเกี่ยวเนื่องกันอย่างแน่นอน
และเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้เหมือนมีผู้อยู่เบื้องหลัง เพียงไขคดีการตายของหลี่ซื่อได้ ไม่แน่ว่าคดีการตายของคนผู้นั้นอาจกระจ่างขึ้น
อาโม่สืบไปสืบมาจนได้รู้ว่าก่อนที่หลี่ซื่อจะตาย เขาไปไหนมาไหน และทำสิ่งใดบ้าง
หลังจากที่หลี่ซื่อออกมาจากห้องขัง นอกจากไปบ่อนการพนันก็ไปร้านยา แต่ละวันถ้าไม่เมามายหัวราน้ำก็เข้าบ่อนการพนัน ใช้ชีวิตเสเพลไปวัน ๆ นอกจากการกินดื่มสนุกสนานแล้ว เขาก็ไม่ได้ทำสิ่งใดอีก
การตายของหลี่ซื่อดูเหมือนจะชี้ไปที่เหลยต้าเซิ่ง เพราะหลี่ซื่อปรากฏตัวครั้งสุดท้ายในโรงหมอ ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีข่าวคราวเกี่ยวกับเขาเลย