ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1256 ลวี่เทาลนลาน
บทที่ 1256 ลวี่เทาลนลาน
บทที่ 1256 ลวี่เทาลนลาน
ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ใต้เท้าจ้าวก็เดินทางมาถึง
เมื่อครู่ตอนที่รายงานคดีฆาตกรรมสองคดีนี้ มีคนบอกว่าเขารู้เบาะแสของคดีฆาตกรรมในร้านจิ่นฝู ไม่ได้หมายความว่าเขาจัดการเรื่องต่าง ๆ ไม่ได้เรื่องหรอกหรือ?
ลวี่เทามองดูเหอฮวาที่คุ้นเคยในโรงศาลอย่างเศร้าใจ แต่เขารู้จักนาง และนางก็กุมความลับมากมายของเขาไว้เช่นกัน ถ้า…
ทันใดนั้น ดวงตาของลวี่เทาก็เปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมาและจ้องมองไปเหอฮวา ใต้เท้าจ้าวที่อยู่ข้าง ๆ สัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าแผ่ออกมารอบด้าน จึงเหลือบมองไปที่ลวี่เทาก่อนจะเบนสายตามองไปที่หญิงสาวด้านล่าง พลางนึกในใจว่าระหว่างสองคนนี้ต้องมีเรื่องราวมากมายแน่ ๆ
“แม่นาง ถ้าเจ้ามีเบาะแสใด ๆ ก็บอกข้ามาเถอะ หากเจ้ามีส่วนในการจับกุมนักโทษ ทางการจะให้รางวัลแก่เจ้า” ใต้เท้าจ้าวกล่าวด้วยใบหน้าพึงพอใจ
คำพูดของเขาทำให้เหอฮวารู้สึกผ่อนคลายไปชั่วขณะ แต่หลังจากนั้นไม่นาน น้ำเสียงดุดันที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น “หากเจ้าใส่ร้ายผู้อื่นหรือให้ความช่วยเหลืออาชญากร ใต้เท้าคนนี้จะไม่ไว้ชีวิตเจ้า”
“ข้าไม่กล้า ข้าไม่กล้า” เหอฮวาตื่นเต้นที่ตอนแรกจะได้รับรางวัลมากมาย แม้ว่าจะไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร แต่เมื่อได้ยินคำพูดที่จริงจังของลวี่เทา มันก็ทำให้นางหวาดกลัวจนตัวสั่น และไม่สามารถพูดอะไรได้สักคำ
“เจ้ามีเบาะแสอะไร พูดมาเร็วเข้า” ลวี่เทาพูดอย่างเย็นชา
เหอฮวาไม่เคยได้ยินเสียงตำหนิจากลวี่เทามาก่อน ในวันธรรมดาเขามักจะดูเป็นมิตร ด้วยท่าทางที่เคร่งขรึมเช่นนี้ นางก็ตื่นตระหนก “ข้า… ข้า…”
ด้วยความตื่นตระหนกเช่นนี้ นางจะพูดประโยคที่สมบูรณ์ได้อย่างไร เมื่อเห็นว่าลวี่เทาทำให้เหอฮวาตกใจกลัว ใต้เท้าจ้าวจึงมองลวี่เทาพลางลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินไปหน้าเหอฮวาแล้วพยุงนางขึ้น และพูดกับลวี่เทาด้วยความไม่พอใจ “ใต้เท้าลวี่ ผู้หญิงคนนี้ไม่ต้องพูดถึงว่านางเป็นคนรู้จักเก่าของท่าน แต่นางมาที่นี่เพื่อแจ้งเบาะแส เราต้องแสดงความจริงใจกับนาง ใต้เท้าลวี่ข่มขู่นางแบบนี้ เพราะกลัวว่านางจะพูดอะไรหรือเปล่า”
ใต้เท้าจ้าวกำลังจะสื่ออะไรบางอย่าง และลวี่เทาหน้าแดงก่ำเมื่อได้ยินประโยคนี้และรีบประสานมือ “ใต้เท้า ข้าเพียงแต่กังวลเกี่ยวกับคดีนี้ ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วเราต้องจริงจังกับมัน แต่ถ้ามีคนแจ้งข่าวเท็จมันจะสร้างผลกระผลต่อทางการ และพวกเขาจะต้องถูกลงโทษร้ายแรง”
ใต้เท้าจ้าวโบกมือ “ใต้เท้าลวี่ จะเร่งรีบไปไย แม่นางคนนี้ยังไม่ได้พูดอะไรเลย เมื่อนางพูดรายละเอียดออกมาก็ยังไม่สายเกินไปที่จะตัดสินใจ”
ลวี่เทาสะอึกกับคำพูดของใต้เท้าจ้าว จนไม่สามารถพูดสิ่งออกมาได้ เขาทำได้เพียงประสานมือแล้วก้าวถอยหลัง หากแต่ดวงตายังจ้องมองไปที่เหอฮวาอย่างดุดัน
เหอฮวาโตมากแล้วและไม่เคยติดต่อใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่มาก่อน แม้ว่านางจะเคยอยู่กับว่านซื่อและมักจะได้พบกกับลวี่เทาบ่อย ๆ แต่ก็เป็นเพียงการปรนนิบัติเท่านั้น ดังนั้นเหอฮวาจึงตื่นเต้นมาก
ตอนนี้นางได้รับการช่วยเหลือจากขุนนาง และตำแหน่งของคนผู้นี้ก็อยู่เหนือลวี่เทามาก นางรู้สึกเขินอายเล็กน้อยเมื่อคิดว่า หากตนได้อยู่ในอ้อมของชายคนนี้ก็คงจะดี
หญิงสาวคลี่ยิ้มและเลียนแบบท่าทางการเคลื่อนไหวว่านซื่อ พลางถอยหลังอย่างเขินอาย “ข้าขอขอบคุณท่านใต้เท้า”
ผู้หญิงคนนี้มีรูปลักษณ์ค่อนข้างงดงามและท่าทางที่มีมารยาทของนางก็น่าพึงพอใจเช่นกัน ดูเหมือนว่านางจะได้เรียนรู้มาก่อน ไม่เหมือนผู้หญิงธรรมดาทั่วไป แต่เหมือนสาวรับใช้ในเรือนใหญ่
“แม่นาง เจ้ามีเบาะแสอะไรโปรดบอกข้าโดยละเอียด ยิ่งละเอียดมากเท่าไรก็ยิ่งดี” ใต้เท้าจ้าวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เหอฮวาเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว และเหลือบมองใต้เท้าจ้าวที่ยืนอยู่ตรงหน้า สายตาของนางมองข้ามผ่านลวี่เทาซึ่งอยู่ตรงข้ามที่กำลังมองนางด้วยใบหน้าที่มืดมน ราวกับว่าเขาไม่ต้อนรับตนเองที่อยู่ตรงนี้
เหอฮวามีเบาะแสเพียงว่านางพบคนผู้หนึ่งระหว่างทาง เขาสัญญาว่าจะให้สิ่งที่นางต้องการและขอให้นางทำตามที่ตกลงเอาไว้
นางค่อนข้างกังวลเล็กน้อย ถ้าใต้เท้าลวี่อยู่คนเดียว นางจะพูดทุกอย่างออกมาแน่นอน แต่ในที่แห่งนี้ยังมีใครอื่นอยู่อีก ถ้านางพูดออกไป ใต้เท้าผู้นี้จะกลายเป็นคนสืบสวนคดีทันที
ในหัวของเหอฮวาเกิดความขัดแย้ง เห็นได้ชัดว่านางต้องการบอกใต้เท้าลวี่ ไม่ใช่ใต้เท้าคนนี้ นางนิ่งเงียบอยู่เป็นเวลานาน บิดผ้าเช็ดหน้าในมือราวกับกังวลบางอย่าง
ใต้เท้าจ้าวกลับไปที่ที่นั่งของเขา เมื่อเห็นว่านางไม่ได้พูดอะไรอยู่และมีท่าทีเป็นดูกังวล จึงถามว่า “แม่นางมีความกังวลใจอะไรหรือไม่ เจ้าสามารถบอกข้าได้”
เมื่อเหอฮวาได้ยินเช่นนี้ นางรีบเงยหน้าขึ้นมองใต้เท้าจ้าว จากนั้นมองไปที่ลวี่เทาซึ่งอยู่ข้าง ๆ
เมื่อเห็นท่าทางลังเลของนาง ลวี่เทากลัวว่าคนผู้นี้จะมีความเกี่ยวข้องกับเขา ดังนั้นเขาจึงรีบตะโกน “ใต้เท้าถามเจ้า ทำไมถึงไม่ยอมพูด! หรือว่าเจ้าจงใจโกหกเรื่องเบาะแสบางอย่างหรือ พวกเจ้าจับผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนี้ลงมาเฆี่ยนสามสิบครั้ง”
ลวี่เทาโกรธมาก จึงตะโกนให้คนมาจับเหอฮวาออกไปและลงโทษนางอย่างแรง ใต้เท้าจ้าวดื่มชาและนิ่งเงียบราวกับว่ายอมรับการกระทำของลวี่เทา
เมื่อเหอฮวาเห็นลวี่เทาเป็นเช่นนั้นก็ตกใจกลัว ขาแข้งอ่อนแรงและคุกเข่าลงอีกครั้ง “ใต้เท้าโปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ใต้เท้าโปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ข้าไม่… ไม่… ข้าแค่…”
“ไอ้สารเลว ใต้เท้าอยู่ที่นี่ แล้วเจ้าได้รับอนุญาตให้ส่งเสียงดังและสร้างปัญหาต่อหน้าใต้เท้าหรือ” ลวี่เทาอยากจะไล่สาวรับใช้คนนี้ออกไปเสียตอนนี้
ไม่รู้ว่าว่านซื่อขอให้นางมาหรือเปล่า
ลวี่เทาเกลียดนางแทบตาย ดูเหมือนว่าเขาจะใจดีกับว่านซื่อและรักนางมากเกินไป เขาบอกนางเสมอว่าอย่ามาที่ศาลาว่าการ หากความสัมพันธ์ของเขากับว่านซื่อถูกเปิดเผย หากตระกูลกัวรู้เข้า อนาคตของเขาจะพังพินาศ