ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1264 อดีตของว่านซื่อและลวี่เทา
บทที่ 1264 อดีตของว่านซื่อและลวี่เทา
บทที่ 1264 อดีตของว่านซื่อและลวี่เทา
ถ้าหากลวี่เทาไม่เอ่ยอะไรก็ยังดี ทว่าลวี่เทากลับเอ่ยและยังปัดความรับผิดชอบทั้งหมด ว่านซื่อจึงกลับกลายเป็นสตรีที่โลเลใจง่าย
ถึงแม้ว่านางจะเป็นสตรีที่โลเลใจง่าย
แต่ว่าใครให้ตัวเองทุ่มเทออกไปมากเช่นนั้น สุดท้ายเมื่อกำลังเผชิญกับความยากลำบากตรงหน้า คนอื่นห่วงแต่จะหนีและโยนภาระให้นาง คาดไม่ถึงว่าจะยังดูถูกตัวเองอีก
เรื่องนี้จะวางไว้ที่ใคร ใครก็ไม่อยากรับ
ว่านซื่อฟังคำพูดของลวี่เทา ยิ่งฟังก็ยิ่งเสียใจ ทำไมถึงรู้สึกว่าไม่ควรเกิดเรื่องเช่นนี้ ดังนั้นจึงไม่คิดอะไรอีก แล้ววิ่งเข้าไปหาพลางเริ่มร้องไห้ “ลวี่หลาง ท่านกลั้นใจพูดออกมาเช่นนี้ได้อย่างไรว่าจะดีกับข้าไปตลอดชีวิต หรือว่าท่านลืมแล้วหรือ”
ลวี่เทาไม่ได้ลืม เพียงแต่ทว่าอนาคตของเขากับทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนี้ เมื่อเทียบกับสตรีอุ่นเตียงแล้ว เขาตัดใจกับทุกอย่างในตอนนี้ไม่ได้ เพียงแค่สตรีเท่านั้นเอง ถ้าหากรักษาตำแหน่งในตอนนี้ไว้ ในอนาคตต้องการสตรีแบบใดก็ได้
ไม่จำเป็นต้องแขวนคอตายกับต้นไม้เก่า
ลวี่เทาคิดจะปล่อยว่านซื่อแล้ว และยังคิดว่าตัวเองกับสตรีคนนี้ไม่มีอะไรเสียเปรียบต่อกัน
แต่ว่าว่านซื่อกลับไม่คิดเช่นนั้น
ตัวเองอยู่กับเขามาหลายปี ทั้งยังจริงใจต่อเขา สุดท้ายแล้วกลับต้องมาเสื่อมเสียชื่อเสียง
ว่านซื่อเสียใจ นางมองไปที่ลวี่เทาด้วยความโศกเศร้าและคับข้องใจ แต่ว่าลวี่เทากลับไม่แม้แต่จะชายตามองนาง
ไม่ทันระวังก็เผลอไปสบตาที่โศกเศร้าของว่านซื่อเข้า จึงหันศีรษะไปทางอื่นด้วยความขยะแขยง ในดวงตามีความรังเกียจอย่างรุนแรง
ว่านซื่อถูกสายตานั้นมอง จิตใจก็ถูกแผดเผาทันที ดั่งลูกศรนับหมื่นทะลุหัวใจ
“ลวี่หลาง” ว่านซื่อมองไปที่ลวี่เทาอย่างเศร้าใจและตะโกนออกมาอย่างตำหนิ เป็นอย่างที่นางคาดไว้ ลวี่เทาไม่สนใจนางเลย ทว่าเขากลับขมวดคิ้ว “ข้าช่วยเจ้าเพราะเห็นแก่หน้าสามีที่ตายไปของเจ้า เจ้าอย่าทำร้ายข้าเช่นนี้เลย”
ดวงตาที่เปียกชุ่มน้ำตานั้นคอยมองลวี่เทาอย่างแน่วแน่ ในแววตาเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและอ้างว้าง ลวี่เทาจึงทําเหมือนว่ามองไม่เห็นอะไรเลย ไม่แม้แต่จะมองว่านซื่อ และหันหลังให้กับว่านซื่ออย่างเย็นชา
ว่านซื่อรู้ว่าลวี่เทากลัวตระกูลกัว แต่ในใจนางเองก็มีความหวังที่เกินตัวเช่นกัน นั่นคือลวี่เทาสามารถให้ฐานะตัวเองในเมืองหลิวเจียที่อยู่ห่างไกลได้
กัวฮูหยินนั้นก็ไม่เคยมาที่เมืองหลิวเจีย แม้ว่าลวี่เทาจะกลับไปในช่วงเทศกาลปีใหม่ก็น้อยเสียยิ่งกว่าน้อย ไม่ยากเลยที่จะเห็นว่าความสัมพันธ์ของลวี่เทากับตระกูลกัวนั้นเย็นชามาก
หลังจากเกิดเรื่องขึ้นกับเหมียวเอ้อร์ในปีนั้น ว่านซื่อก็ติดตามลวี่เทาแล้ว
นี่ก็ประมาณเกือบหกเจ็ดปีได้แล้ว
ว่านซื่อติดตามลวี่เทาอย่างไม่มีชื่อเสียง ไม่มีฐานะ ก็เพื่อว่าสักวันหนึ่งนั้นจะได้มีที่ยืนอยู่ในใจลวี่เทา ถึงแม้ว่าจะไม่อาจขอให้ลวี่เทายกตัวเองเป็นอนุภรรยาได้ก็ตาม แต่ว่าอย่างไรเสียลวี่เทาก็สามารถเลี้ยงดูสตรีนอกบ้านได้
ต่อไปไม่แน่ว่าอาจจะให้กําเนิดลูกชายให้ลวี่เทาก็ได้ หากคลอดลูกชายออกมาแล้ว ในอนาคตตําแหน่งของนางในใจของลวี่เทาก็มั่นคงแล้ว
เพียงแต่น่าเสียดาย ใบหน้าของว่านซื่อเศร้าขึ้นมาทันที ถ้าหากไม่ใช่เป็นเพราะว่าตัวเองไม่ระวัง ตอนนี้เด็กคนนั้นก็สามารถวิ่งได้บนพื้นแล้ว
ถ้าหากมีลูกก็จะสามารถผูกมัดลวี่เทาไว้ได้
ในใจว่านซื่อรู้สึกเศร้าใจมาก สำหรับลวี่เทานั้นนางรักมากกว่าเกลียด
หลายปีที่ผ่านมา ที่ลวี่เทาให้นางนั้นไม่ใช่แค่เงินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความรู้สึกในจิตวิญญาณด้วย
ว่านซื่อชอบความฟุ้งเฟ้อและอยากจะมีชีวิตที่ดี
ปีนั้นนางแต่งงานกับเหมียวเอ้อร์เพื่อจะมีชีวิตที่ดีและได้เป็นภรรยาของครอบครัวที่ร่ำรวย
ชีวิตแต่งงานกับเหมียวเอ้อร์ก็ถือว่าดี ทว่าไม่ว่าจะดีแค่ไหน ก็ไม่มีชีวิตที่ดีเท่ากับติดตามใต้เท้าศาลาว่าการ
ว่านซื่อนึกถึงปีนั้นขึ้นมา
หลังจากเหตุการณ์เหมียวเอ้อร์ครั้งนั้น ว่านซื่อก็พาลูกสองคนกลับบ้าน นางหาเงินไม่เป็น บ้านเดิมของตัวเองก็เป็นครอบครัวที่ยากจน เมื่อก่อนพี่ชายใหญ่กับพี่ชายรองจะทำงานหาเงิน ทว่าตั้งแต่ที่เหมียวเอ้อร์ถูกจับ ท้องฟ้าของว่านซื่อก็พังทลายลง
พี่ใหญ่กับพี่รองไม่มาหาอีก ว่านซื่อจึงไปหาพวกเขา ร้องไห้อย่างน่าสงสาร ทว่าพวกเขากลับขอร้องว่านซื่อว่าหากไม่มีธุระอะไรแล้วก็ไม่ต้องมาหาอีก สตรีที่ออกเรือนแล้วก็เหมือนกับน้ำที่สาดออก ไม่อาจกลับมาได้อีก
ว่านซื่อถูกครอบครัวบ้านเก่าที่ไร้ยางอายทำให้โกรธจนอาเจียนเป็นเลือด เมื่อครอบครัวตัวเองมีชีวิตที่ดี ครอบครัวบ้านเก่านี้ก็มาอยู่อาศัยในบ้านตระกูลเหมียว กินของนาง ดื่มของนาง ใช้ของนาง แทบจะพาทั้งคนแก่ทั้งเด็กหมดทั้งครอบครัวมา
กินแล้วก็ช่าง จะไปแล้วก็ยังเอาไปอีก เห็นอะไรที่ชอบใจก็ต้องหยิบไป
เมื่อพวกเขาจากไปแล้วที่บ้านไม่ขาดเนื้อก็ขาดไก่ เมื่อก่อนเหมียวเอ้อร์ทำงานเป็นหัวหน้าบัญชีในร้านอาหาร น้ำมันและของกินเพียงพอ ไม่เคยเกิดปัญหาเรื่องปากท้อง
ว่านซื่อคิดว่าพวกเขาเป็นครอบครัวบ้านเก่า เมื่อเห็นพวกเขามาประจบตัวเองในใจก็ยิ่งมีความรู้สึกฟุ้งเฟ้อรุนแรงขึ้น จึงปล่อยพวกเขาไป อย่างไรเสียที่บ้านก็ไม่ขาดแคลนของพวกนี้ เหมียวเอ้อร์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ว่านซื่อเป็นผู้มีคุณูประการของตระกูลเหมียว ตัวเองเป็นสะใภ้ไม่อาจขุ่นเคืองใจ สะใภ้ของครอบครัวเดิมก็ยิ่งไม่อาจขุ่นเคืองใจ
ว่านซื่อดีต่อครอบครัวเก่ามาก มีกินมีดื่มก็เอาให้พวกเขา ต่อมาที่บ้านเกิดเรื่องขึ้น หากพูดตามหลักแล้วก่อนหน้านั้นเหมียวเอ้อร์ดีต่อพวกเขามาก พวกเขาเองก็ควรที่จะดีกับนางบ้าง
ว่านซื่อคิดผิดแล้ว ผิดอย่างมหันต์
ครอบครัวเก่าไล่นางออกมาอย่างกับเป็นโรคระบาด ไม่สนใจอะไรเลย
ว่านซื่อพาลูกทั้งสองออกไปทั้งที่ไม่มีรายได้ ทั้งครอบครัวเก่ายังไม่ให้ความช่วยเหลือ นางจะทำอะไรได้
ทรัพย์สินมากมายก็ถูกกินจนหมดเกลี้ยง กินหนึ่งวันอยู่ได้หนึ่งวัน
หลังจากนั้นครอบครัวก็ใกล้จะไม่มีเงินซื้ออาหารแล้ว ว่านซื่อจึงออกไปข้างนอกเพื่อหาดูว่ามีอะไรที่ทำได้บ้างหรือไม่
บังเอิญเจอกับลวี่เทา
เดิมทีลวี่เทาชื่นชมความงามของว่านซื่อมาตลอด แต่ว่าช่วงนั้นกำลังยุ่งพอดีจึงไม่มีเวลา ทว่าครั้งนี้ไม่ยุ่งแล้ว เมื่อออกมาข้างนอกแล้วบังเอิญเจอว่านซื่อ ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนว่าสวรรค์ทำให้สมความปรารถนา
ลวี่เทาเลี้ยงอาหารว่านซื่อ หลังจากฟังสิ่งที่เกิดขึ้นกับว่านซื่อแล้วก็ยิ่งเกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ จึงเอ่ยบอกทันทีว่าในอนาคตจะคอยมาเยี่ยมเยียนว่านซื่อ
ดังนั้นทั้งสองก็เริ่มไปมาหาสู่กัน ในใจต่างก็มีความซ่อนเร้นไม่ชอบมาพากล พูดคุยปรึกษาโต้เถียงกันไปมาก็เนิบนาบขึ้นเตียงแล้ว
หลังจากนั้นต่อมา ว่านซื่อถูกลวี่เทาเกลี้ยกล่อมจนไม่รู้เหนือรู้ใต้ ตอนนั้นก็ย้ายบ้านทันที ไปอยู่ในบ้านเงียบสงบที่ลวี่เทาจัดซื้อให้นาง ลูกทั้งสองของว่านซื่อก็จัดเตรียมไว้ให้อยู่ข้าง ๆ กันอย่างดี