ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1272 ข้าก็มีเนื้อหนังมังสา
บทที่ 1272 ข้าก็มีเนื้อหนังมังสา
บทที่ 1272 ข้าก็มีเนื้อหนังมังสา
ตอนที่กำลังคิดว่าจะรับสมัครคนจากที่ใด เมื่อก้าวเท้าเข้าไปในประตูก็ได้ยินเสียงแหลมเสียดหูของหลี่พ่างจื่อดังมาจากในร้านจิ่นฝู “พวกเจ้ายังมีหน้ากลับมาที่นี่อีกงั้นหรือ พวกเจ้าหักหลังเถ้าแก่ของเรา ฝันกลางวันอยู่หรือเปล่า”
จากนั้นก็ตามด้วยเสียงของเกาจื่อ “เจ้าไม่ได้ถูกทรมานใช่หรือไม่ ดังนั้นจึงหักหลังเถ้าแก่ของพวกเรา เถ้าแก่ใจดีกับเจ้าแค่ไหนเคยคิดถึงสิ่งนี้บางหรือไม่ เจ้าลองมองอดีตของเจ้าเสีย และคิดถึงชีวิตปัจจุบันของเจ้า การที่พวกเจ้าได้กินอิ่มนอนหลับ มีเสื้อผ้าดี ๆ สวมใส่ มีเงินไว้ได้ใช้จ่าย มีเงินพิเศษในช่วงเทศกาล เจ้าจะหาเจ้านายแบบนี้ได้ที่ไหนอีก พวกเจ้ายังคิดว่าตนเองเหมาะกับการกลับมาที่นี่อีกหรือไม่”
“เสี่ยวเหลียงจื่อโดนลงโทษปางตาย แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะทรยศเถ้าแก่เลยแม้แต่น้อย เจ้าเป็นคนที่เขาพามาทำงานที่นี่ แล้วมองดูสิ่งที่เจ้าปฏิบัติต่อเสี่ยวเหลียงจื่อสิ!” หลี่พางจื่อเกลียดเหล็กที่ไม่เป็นเหล็กกล้า
พวกเขาเหล่านี้ถูกแนะนำเข้ามาโดยเสี่ยวเหลียงจื่อในเวลานั้น ในอดีตพวกเขาเหล่านั้นติดตามเหลียงจื่อเพื่อทำงานแปลก ๆ ข้างนอกเพื่อหาเลี้ยงชีพเช่นการเป็นขอทาน ต่อมาเมื่อเสี่ยวเหลียงจื่อได้ทำงานในร้านจิ่นฝู เขาก็แนะนำคนเหล่านี้ให้แก้กู้เสี่ยวหวาน บอกว่าทุกคนมีนิสัยดี ทำงานหนัก แต่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องออกไปขอทานหาเลี้ยงตัวเองเพราะความยากจน
กู้เสี่ยวหวานเห็นว่าคนเหล่านี้ยังเด็กและอาจจะเป็นภาระของครอบครัว กู้เสี่ยวหวานชื่มชมความขยันของเสี่ยวเหลียงจื่อเสมอ และเมื่อเขาแนะนำคนเหล่านี้มา นางจึงยอมรับพวกเขาโดยปริยาย
ในเวลานั้น พวกเขาตกลงที่จะให้เสี่ยวเหลียงจื่อชี้แนะพวกเขาเพื่อทำความคุ้นเคยกับงาน และแม้กระทั่งจัดแบ่งงานเฉพาะสำหรับพวกเขา
กู้เสี่ยวหวานพอใจกับความขยันของคนเหล่านี้ ตามที่เสี่ยวเหลียงจื่อกล่าวว่าทำงานหนักและตั้งใจทำงาน พูดจาไพเราะ กู้เสี่ยวหวานจึงปฏิบัติต่อน้องชายเหล่านี้อย่างเท่าเทียมกัน
ความเมตตาที่ร้านจิ่นฝูมอบให้พวกเขา เกรงว่าคงไม่มีใครเทียบได้ นอกจากนี้ร้านจิ่นฝูยังเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดในหลิวเจีย ผู้ชายทุกคนในร้านอาหารนี้มีเครื่องแบบและได้รับการปฏิบัติที่ดี
คนเหล่านี้มีช่วงเวลาที่ดีในการทำงานที่ร้านจิ่นฝู และพวกเขาก็ทราบซึ้งน้ำใจของกู้เสี่ยวหวานยิ่งนัก หากไม่ใช่เพราะเหตุการณ์นี้ พวกเขาคงจะทำงานในร้านจิ่นฝูไปตลอดชีวิต
เมื่อกู้เสี่ยวหวานก้าวเข้าไปในร้าน ก็เห็นอดีตลูกจ้างของตนเองคุกเข่าอยู่ต่อหน้าหลี่พ่างจื่อและเกาจื่อ นางสันนิษฐานว่าพวกเขามาที่นี่ก็เพื่อยอมรับความผิดพลาดของตนเอง
หลี่พ่างจื่อตื่นเต้น เนื่องจากร่างกายของเขาค่อนข้างใหญ่ ใบหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงยามที่ตื่นเต้น เพียงแค่พูดไม่กี่คำ เหงื่อเย็นก็ไหลซึมเต็มหน้าผากของเขา ในขณะนี้เขาปาดเหงื่อบนหน้าผากด้วยผ้ากันเปื้อนพร้อมกับใบหน้าที่กำลังโกรธเคือง
เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานกำลังก้าวเข้ามาในร้าน พวกเขาทั้งหมดจึงหันกลับไปหาหญิงสาว เปลี่ยนตำแหน่งของพวกเขาโดยพร้อมเพรียงกัน คุกเข่าไปทางกู้เสี่ยวหวาน และขานเรียกนางอย่างพร้อมเพรียงกัน พวกเขาทั้งหมดเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “เถ้าแก่ เถ้าแก่ ข้าขอโทษ ข้าขอโทษ”
อดีตลูกจ้างทุกคนล้วนเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและละอายใจ พวกเขาไม่กล้ามองสบตากู้เสี่ยวหวาน จึงเบี่ยงสายตามองไปที่พื้นตรงหน้า แต่ถึงกระนั้นกู้เสี่ยวก็สามารถมองเห็นถึงสายตาอันรู้สึกผิดและละอายใจของพวกเขาได้อย่างชัดเจน
กู้เสี่ยวหวานถอนหายใจเฮือกใหญ่
คนเหล่านี้เคยทำงานหนัก พูดจาไพเราะ ร้านจิ่นฝูเองก็ต้องการคนแบบนี้เช่นกัน กู้เสี่ยวหวานให้ความสำคัญกับคนเหล่านี้มากในเวลานั้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น กู้เสี่ยวหวานคิดอยู่ครู่หนึ่ง มองดูพวกเขาอย่างสงบแล้วพูดเบา ๆ ว่า “พวกเจ้าลุกขึ้นเถอะ ข้าไม่โทษพวกเจ้า”
เมื่อหลี่พ่างจื่อและเกาจื่อได้ยินเช่นนี้ พวกเขามองหน้ากันแล้วพูดว่า “เถ้าแก่ คนพวกนี้ล้วน…”
กู้เสี่ยวหวานโบกมือและไม่ปล่อยให้พวกเขาพูดต่อไป เมื่อเห็นผู้ชายที่คุกเข่าทั้งหมดมองมาที่ตนเองด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า กู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกทนไม่ได้จริง ๆ และเอ่ยประโยคต่อไปออกมา แต่คนที่นางต้องการคือ คนแบบเสี่ยวเหลียงจือ
นี่คือบรรทัดฐานของนาง อย่างน้อยที่สุดก็คือการที่พวกเขาจงรักภักดีต่อนาง
กู้เสี่ยวหวานมองคนเหล่านี้ที่ค่อย ๆ ยืนขึ้นอย่างเชื่องช้า พวกเขาทั้งหมดมองไปที่กู้เสี่ยวหวานด้วยความประหลาดใจ หากแต่กู้เสี่ยวหวานก็ยังเพิกเฉยต่อพวกเขา และทำเพียงแค่เหลือบมองพวกเขาทางสายตา และเอ่ยกับกู้หนิงผิงอย่างใจเย็น “หนิงผิง ไปคำนวณเงินรายเดือนของคนเหล่านี้มา หลังจากนั้นให้เงินพวกเขาคนละห้าร้อยเหรียญแล้วปล่อยพวกเขาไป”
หลังจากพูดจบ กู้เสี่ยวหวานก็ไม่สนใจสีหน้าที่เปลี่ยนสีไปของพวกเขา บางคนมีใบหน้าเศร้าหมอง บางคนก็ตะโกนร้องห่มร้องไห้และกล่าวขอโทษกู้เสี่ยวหวาน
แต่การขอโทษนี้จะมีประโยชน์อันใด
“เถ้าแก่ พวกเราไม่ได้ต้องการทรยศเถ้าแก่ แต่ถ้าพวกเราถูกลงโทษ พวกเราอาจเอาชีวิตไม่รอด ท่านเป็นเสี้ยนจู่ ท่านยังมีวิธีหนีเอาตัวรอดได้ แต่พวกเรานั้นไร้หนทาง” มีชายผู้กล้าหาญคนหนึ่งร้องเรียกกู้เสี่ยวหวาน
กู้เสี่ยวหวานกำลังจะผละไปดูอาการบาดเจ็บของเสี่ยวเหลียงจื่อ แต่เมื่อได้ยินคำพูดของชายคนนี้ นางก็หันกลับไป สายตาของกูเสี่ยวหวานทำเอาชายคนนั้นถึงกับก้มหน้าลงด้วยความอับอาย ไม่กล้าเรียกร้องสิ่งใด เขาทำได้เพียงไปหากู้หนิงผิงและรับค่าจ้างของเดือนนี้
กู้เสี่ยวหวานกล่าวว่า “เหลียงจื่อได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ของเขาเป็นอย่างดี เขาก็เหมือนกับเจ้า พวกเจ้าได้เงินเดือนเท่ากัน นอนห้องเดียวกัน และสวมเสื้อผ้าชุดเดียวกัน ทำไมเขาไม่หักหลังข้าล่ะ พวกเจ้าอยากไปดูสภาพของเขาหรือไม่ล่ะ ยอมรับว่าไม่อยากให้เจ็บ แต่ถ้าไม่อยากเจ็บก็ไปพูดจาไร้สาระใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น ข้าเป็นเสี้ยนจู่มีทรัพย์สินมากกว่าเจ้าก็จริง แต่ข้าก็เป็นคนมีเนื้อหนังมังสา และเพราะการใส่ร้ายของเจ้า คนที่ถูกนำตัวไปแทนข้าตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่บนเตียง หากไม่ใช่เพราะเขา ก็คงกลายเป็นข้าที่นอนบาดเจ็บอยู่บนเตียง”
หลังจากที่กู้เสี่ยวหวานพูดจบ คนเหล่านั้นก็ก้มหน้างุด และพวกเขาก็อับอายเกินกว่าจะพูดอะไรสักคำ
กู้เสี่ยวหวานมองไปที่พวกเขาครั้งสุดท้าย จากนั้นก็จากไปโดยไม่หันกลับมามอง
หลี่พ่างจื่อและเกาจื่อยังยืนอยู่ที่นั่น และเริ่มตำหนิพวกเขา “เถ้าแก่ใจดีกับพวกเจ้า ข้าจะให้พวกเจ้าห้าร้อยเหรียญ ซึ่งมันมากกว่าเงินหนึ่งเดือนของพวกเจ้าด้วยซ้ำ เถ้าแก่ได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว สำนึกถึงความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของพวกเจ้าเสียด้วย และอย่าปฏิบัติเช่นนี้เมื่อพบเจ้านายคนใหม่ล่ะ”