ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1277 วุ่นอยู่กับการหาลูกสะใภ้
บทที่ 1277 วุ่นอยู่กับการหาลูกสะใภ้
บทที่ 1277 วุ่นอยู่กับการหาลูกสะใภ้
กู้เสี่ยวหวานเงยหน้าขึ้นมองฉินเย่จือ นางเห็นฉินเย่จือนั่งอยู่ที่นั่นด้วยใบหน้าที่โศกเศร้า ดวงตาคมเรียวยาวของเขาหรี่ตามองมาที่ตนเองอย่างเศร้าสร้อย ราวกับว่าถูกแม่ดุ
กู้เสี่ยวหวานไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ ถึงนึกถึงคำว่า ‘เด็กถูกแม่ดุ’ แต่เมื่อนางนึกถึงสิ่งนี้ นางหัวเราะออกมาและแสร้งทำเป็นงงงวยพลางถามว่า “พี่เย่จือ เป็นอะไรไปหรือ ใครรังแกท่านกัน”
ใครจะกล้ารังแกเขา
การรังแกเขาก็เป็นเหมือนกับการหาเหาใส่หัว
ฉินเย่จือรู้สึกเสียใจอย่างมาก คิ้วของเขาขมวดมากยิ่งขึ้น เขากัดริมฝีปากและจ้องมองที่กู้เสี่ยวหวาน ดูเหมือนว่าเขาถูกรังแก
กู้เสี่ยวหวานรู้สึกตกใจอย่างมากกับท่าทางที่เศร้าโศกของฉินเย่จือ นางแค่รู้สึกว่ามีใครบางคนเข้ามากระชากหัวใจของนางอย่างรุนแรง หญิงสาวรีบวางถ้วยชาในมือแล้วลุกขึ้นโดยไม่ได้คิดอะไร
เท้าขาวสะอาดราวหิมะคู่หนึ่งเดินเท้าเปลือยเปล่าเหยียบย่ำไปบนพื้นไม้ไผ่ก้าวไปหาฉินเย่จือทีละก้าว
ฉินเย่จือเงยหน้าขึ้นก็เห็นกู้เสี่ยวหวานเดินมาหาเขาอย่างไม่ละสายตา ดวงตาที่สวยงามฉายแววลังเล กลัวว่าหากกะพริบตาแล้วกู้เสี่ยวหวานจะหายไปจากสายตาของเขา
ฉินเย่จือเงยหน้าขึ้นและมองไปที่กู้เสี่ยวหวานโดยไม่กะพริบตา
กู้เสี่ยวหวานลดศีรษะลงและจ้องมองไปที่ฉินเย่จือ
ทั้งคู่ไม่อาจะละสายตาออกจากกันได้
กู้เสี่ยวหวานเดินมาหยุดลงที่ด้านข้างของฉินเย่จือ นางยืนอยู่ตรงนั้นและมองไปที่อีกฝ่าย
ฉินเย่จือเงยศีรษะขึ้นมองนาง ดวงตาแวววับเปล่งประกายเต็มไปด้วยเสน่ห์
กู้เสี่ยวหวานไม่สามารถต้านทานเสน่ห์อันเย้ายวนใจได้ นางก้มหน้าและลดศีรษะลงเพื่อเข้าหาฉินเย่จือ
แสงอาทิตย์อัสดงด้านนอกสาดส่องผ่านหน้าต่างบานกว้างเข้ามาในห้องน้ำชาที่ตกแต่งใหม่ ผมดำยาวของกู้เสี่ยวหวานตกลงมาปรกหน้านางขณะที่เอนตัวไปข้างหน้า
นางอยู่ห่างจากแก้มของฉินเย่จือเพียงปลายจมูก กู้เสี่ยวหวานหยุดจ้องมองอยู่เนินนาน ดวงตาสีเข้มของนางจ้องดวงตาที่มีเสน่ห์คู่นั้น
ดวงตาของฉินเย่จือนั้นสวยงาม คิ้วของเขาเหมือนถูกวาดด้วยหมึกอย่างดี ทั้งดวงตาและคิ้วของเขาช่างงดงาม
ดวงตาที่ลึกล้ำคู่นั้นดูเหมือนจะสามารถดูดซับพลังงานทั้งหมดของคนคนหนึ่งได้ และทำให้ผู้คนหลงใหล
กู้เสี่ยวหวานยื่นศีรษะของนางไปหาฉินเย่จือโดยไม่คิด
ริมฝีปากนุ่มของนางประกบลงบนริมฝีปากของเขา
ฉือโถวเดินผ่านประตูห้องน้ำชาพร้อมกับหม้อในมือ และเมื่อเขาหันศีรษะไปก็เห็นแสงระเรื่อของดวงอาทิตย์ตกกระทบกับคนทั้งสอง ราวกับว่าพวกเขาถูกปกคลุมด้วยแสงสีทอง
ฉือโถวชำเลืองมองและรีบเบือนหน้านี้ เขาก้าวเท้าอย่างว่องไว เมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ เขาก็ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้
หลังจากนั้นไม่นาน รอยยิ้มที่ชัดเจนก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา และดูเหมือนว่าเขากำลังกระซิบบางอย่างกับแสงตะวันลับขอบฟ้า
เสี่ยวหวาน เจ้าจะต้องมีความสุขตลอดไป
จดหมายจากเมืองหลวงมาถึงอย่างรวดเร็ว และเป็นไปตามที่กู้เสี่ยวหวานคาดไว้คือ วันเกิดปีที่สี่สิบของไทเฮา เจ้าหน้าที่ พลเรือน ทหาร และญาติ สตรีทุกคนที่มีสถานะตั้งแต่ระดับห้าขึ้นไปจะต้องเข้าวังเพื่อแสดงความเคารพ
ประกาศนี้ถูกส่งมาโดยหลี่ฝาน
วันเกิดของไทเฮาตรงกับเดือนแปด หลี่ฝานกล่าวในจดหมายว่า บ้านในเมืองหลวงเริ่มทำความสะอาดแล้ว และให้พวกเขาเริ่มซื้อของที่พวกเขาต้องใช้เมื่อไปถึงเมืองหลวง
จะใช้เวลาประมาณครึ่งเดือนสำหรับการขนส่งไปยังเมืองหลวง กู้เสี่ยวหวานคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และตัดสินใจที่จะรออีกสักพักก่อนที่จะตัดสินใจไปเมืองหลวง
ไม่ใช่เพราะว่านางกลัว แต่เป็นเพราะป้าจางบอกเรื่องหนึ่งกับนาง
ท่านพี่ฉือโถวอายุครบสิบแปดปีในปีนี้ ชายคนอื่นล้วนแต่งงานในช่วงอายุเท่านี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ท่านพี่ฉือโถวอยู่ที่สวนกู้ และไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับการแต่งงานเลยตั้งแต่กู้เสี่ยวหวานยังเด็ก นางก็เลยไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้
ป้าจางไม่ได้บอกนางโดยตรง แต่นางได้ยินตอนป้าจางคุยกับกู้ฟางสี่
“ฟางสี่ เจ้าคิดอย่างไรกับแม่นางจากตระกูลฟ่านที่อยู่ในเมือง” ป้าจางที่กำลังล้างผักพร้อมทั้งพูดคุยกับกู้ฟางสี่
“ครอบครัวของผู้เฒ่าฟ่านน่ะ ที่มีลูกสาวคนโตหนึ่งคนแล้วก็ลูกชายคนเล็กอีกหนึ่งคน” กู้ฟางสี่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในใจของนางก็นึกถึงผู้เฒ่าฟ่านที่เคยอาศัยอยู่ในทุ่งนาของกู้เสี่ยวหวาน
ผู้เฒ่าฟ่านอายุแค่สี่สิบปี แต่เนื่องจากภรรยาของเขาเสียชีวิตก่อนวัยอันควรเขาจึงเป็นทั้งพ่อและแม่ เขาต้องเลี้ยงดูลูกสองคนเพียงลำพังในขณะที่ลูกยังไม่ได้หย่านม เขาไม่เคยแต่งงานใหม่เลยและใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เขาเลยดูแก่กว่าวัย
“ใช่ แม่นางผู้นั้นอายุยี่สิบในปีนี้ นางขยันและกตัญญู หน้าตาดีทีเดียว” ยิ่งป้าจางพูด นางก็ยิ่งตื่นเต้นราวกับว่านางได้แต่งงานกับแม่นางคนนั้นเสียเอง
กู้เสี่ยวหวานกำลังฟังอยู่และนึกถึงแม่นางฟ่านคนนั้นด้วย
นางเคยเห็นแม่นางคนนั้นมาก่อน คิ้วหนา ตากลมโต ใบหน้ากลมมาตรฐาน รูปร่างดีผิวคล้ำเล็กน้อย วันธรรมดาดูเหมือนว่านางมักจะทำไร่ไถนา
นางเคยติดต่อกับแม่นางฟ่านครั้งหรือสองครั้ง นางดูเป็นคนพูดเสียงดัง หากแต่ก็ไม่ได้มีนิสัยเลวร้ายอะไร
“พี่สะใภ้ ท่านหมายความว่าอย่างไร”
กู้ฟางสี่เข้าใจว่าป้าจางหมายถึงอะไร และถามอย่างตื่นเต้นว่า “ท่านอยากให้ฉือโถวแต่งงานกับนางหรือ”
“ก็ใช่น่ะสิ ฉือโถวจะอายุสิบแปดแล้ว ถ้าเป็นเด็กจากตระกูลอื่น พวกเขาคงมีลูกกันหมดแล้ว ฉือโถวของข้าขี้อาย จะให้ข้าทำอย่างไรล่ะนอกจากช่วยเขาหาภรรยา หาคนที่กล้าพูดจา” ดูเหมือนป้าจางจะคิดว่าการแต่งงานครั้งนี้จะช่วยเติมเต็มให้กับฉือโถว
กู้เสี่ยวหวานริเริ่มจับคู่ฉือโถวกับแม่นางฟ่านเช่นกัน และรู้สึกว่าทั้งสองดูเหมาะสมที่จะเป็นสามีภรรยากันจริง ๆ
ท่านพี่ฉือโถวค่อนข้างปากหนัก ไม่ชอบพูดและเสียงของเขายังต่ำเล็กน้อยเมื่อเขาเอ่ย แต่แม่นางฟ่านเกิดมาพร้อมกับเสียงที่ดัง คำพูดของนางชัดเจนและดังราวกับจุดประทัด
แม่นางฟ่านมีความคิดเป็นของตัวเอง ทุกครั้งที่นางมาเยือนที่สวนกู้ ผู้เฒ่าฟ่านมักจะนำอาหารติดไม้ติดมือมาด้วยเสมอ และแม่นางฟ่านก็เป็นคนลงมือทำทั้งหมด เห็นได้ว่าแม่นางฟ่านคนนี้ไม่เหมือนหญิงทั่วไป
หากนางได้มาเป็นภรรยาของฉือโถว ก็คงเติมเต็มซึ่งกันและกัน
กู้เสี่ยวหวานคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง นางพอใจมากและพูดทันที “ข้าก็เห็นด้วยว่าท่านพี่ฉือโถวและแม่นางฟ่านนั้นเหมาะสมที่จะเป็นคู่สามีภรรยา”