ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1288 ฟ่านหลิง
บทที่ 1288 ฟ่านหลิง
บทที่ 1288 ฟ่านหลิง
“เสี้ยนจู่ นี่คืออะไร?” ฟ่านต้าฉวีอ้าปากกว้างและคิดอยู่นานก่อนจะเอ่ยถามออกมา แต่เขาก็ยังพบว่ามันเป็นไปไม่ได้
เสี้ยนจู่มาที่บ้านของเขาก็นับว่าเป็นเรื่องยาก หรือว่านางมาเพราะเรื่องของเสี่ยวหลิง
ฟ่านต้าฉวีคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้นับครั้งไม่ถ้วน และเมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของกู้เสี่ยวหวาน เขาก็รู้สึกลำบากใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
ครั้งที่ภรรยาของหลิวต้าจ้วงมา ตนเองก็ได้ปฏิเสธไปอย่างชัดเจน แต่ถ้าเสี้ยนจู่มาที่นี่เพราะเสี่ยวหลิง ตัวเองควรจะตอบไปอย่างไรดี
สีหน้าของฟ่านต้าฉวีลำบากใจมากขึ้นเรื่อย ๆ คำพูดของกู้เสี่ยวหวานทำให้เขามือไม้อ่อนไปหมด และไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
ด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรบนใบหน้าของกู้เสี่ยวหวาน และคำพูดที่จริงจัง “ท่านลุงฟ่าน ข้าคิดว่าตอนนี้ท่านน่าจะเดาได้แล้ว ข้ามาที่นี่เพราะต้องการจับคู่ลูกสาวคนโตของท่านกับพี่ชายของข้า ลูกสาวคนโตของท่าน นางเป็นเด็กดี ขยัน มีความสามารถ กตัญญูต่อญาติผู้ใหญ่ ครอบครัวเราชอบนางมาก”
หลังจากที่ฟ่านต้าฉวีได้ยินเช่นนี้ เขาก็รู้สึกหนักใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องจริง เสี้ยนจู่มาที่นี่เพื่อเรื่องงานแต่งงานของเสี่ยวหลิงจริง ๆ
เจ้าของที่ดินก็ชอบเสี่ยวหลิงเช่นกัน นี่เป็นความโชคดีของเสี่ยวหลิง หลังจากได้ยินคำพูดของกู้เสี่ยวหวาน ใบหน้าของฟ่านต้าฉวีก็เผยให้เห็นรอยยิ้ม
เสี่ยวหลิงของเขาเป็นเด็กดีมาโดยตลอด
เป็นเวลาหลายปีที่เขาใช้ชีวิตเป็นทั้งพ่อและแม่เพื่อเลี้ยงดูสองพี่น้อง การทำงานหนักของเขาเป็นเวลาหลายปีไม่ได้ไร้ประโยชน์
เมื่อพูดถึงลูกของตนเอง ความลำบากใจของฟ่านต้าฉวีก็ลดลงเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด และเขาพูดด้วยความภาคภูมิใจว่า “อืม เสี่ยวหลิงเป็นเด็กดีจริง ๆ”
ฟ่านต้าฉวีภูมิใจในตัวลูกสาวมาก
ตั้งแต่เด็กทั้งสองเติบโตขึ้น โดยทั่วไปแล้วเรื่องเล็กและใหญ่ในครอบครัวจะเป็นหน้าที่ของพวกเขาทั้งสองคน และไม่ปล่อยให้ตัวเองเข้าไปยุ่ง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตัวเองต้องเลี้ยงลูกสองคนมาอย่างยากลำบากและร่างกายก็ไม่เอื้ออำนวย แต่โชคดีที่ลูก ๆ รู้เรื่อง และไม่ปล่อยให้ตัวเองทำงานหนักและเหน็ดเหนื่อย
เมื่อฟ่านต้าฉวีพูดถึงลูกทั้งสองคน กู้เสี่ยวหวานก็สามารถเห็นความสดใสและความภาคภูมิใจบนใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน
“ก็แค่…” จู่ ๆ ฟ่านต้าฉวีก็พูดอย่างเขินอาย “เสี้ยนจู่ ลูกสาวของข้าบอกว่านางจะไม่แต่งงาน และข้าก็คงทำอะไรกับเรื่องนี้ไม่ได้”
ฟ่านต้าฉวียังคงพูดอย่างนั้น กู้เสี่ยวหวานจึงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“ตั้งแต่สมัยโบราณ เรื่องแต่งงานเป็นคำสั่งของพ่อแม่และคำพูดของแม่สื่อ ท่านลุงฟาน ท่านฟังลูกสาวของตัวเองและปล่อยให้นางเลือกจริง ๆ หรือ” ถ้านี่เป็นเรื่องจริง ฟ่านต้าฉวีก็เป็นพ่อที่ดีจริง ๆ
ฟ่านต้าฉวีพยักหน้าและพูดด้วยความลำบากใจ “ลูกสาวของข้ามีความคิดของตัวเอง และนางตัดสินใจเรื่องใหญ่และเรื่องเล็กทั้งหมดในครอบครัว ในฐานะพ่อ ข้าเคารพความคิดเห็นของนาง”
แม้ว่าฟ่านต้าฉวีจะพอใจกับการแต่งงานครั้งนี้มาก ฉือโถวเองก็เป็นคนดีเช่นกันและสภาพครอบครัวก็เป็นเช่นนั้น ถ้าเสี่ยวหลิงแต่งงานไปจะดีกว่าการอยู่ที่นี่มาก
แต่…
แม้ว่าฟ่านต้าฉวีจะพอใจ แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของลูกสาว เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้
เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินสิ่งที่ฟ่านต้าฉวีพูด นางอยากจะยกนิ้วให้ฟ่านต้าฉวีจริง ๆ การที่ฟ่านหลิงมีพ่อแบบนี้ แม้ว่าสภาพครอบครัวจะไม่ดี แต่นางก็คงมีความสุข
แต่กู้เสี่ยวหวานยังคงโน้มน้าว “ท่านลุงฟ่าน แม่นางฟ่านอยู่บ้านหรือเปล่า ข้าต้องการคุยกับนาง”
ฟ่านหลิงไม่ต้องการแต่งงานและดูเหมือนว่านางจะมีเหตุผลของตัวเอง การเกลี้ยกล่อมฟ่านต้าฉวีไปก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นนางจึงต้องเกลี้ยกล่อมฟ่านหลิง
เมื่อฟ่านต้าฉวีได้ยินว่านางต้องการคุยกับฟ่านหลิง เขารีบลุกขึ้นยืน “เสี้ยนจู่ เสี่ยวหลิงไม่อยู่บ้าน นางกับเสี่ยวอวี้ไปทำงานในทุ่งนาแล้ว”
“ไม่เป็นไร เราจะรออยู่ตรงนี้”
ฟ่านต้าฉวีคร่ำครวญและบอกว่าให้นางรอที่นี่สักครู่ แล้วเขาจะรีบกลับมาทันที
ฟ่านต้าฉวีหันหลังกลับและวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
กู้ฟางสี่รู้สึกผิดหวังเมื่อเห็นว่าฟ่านต้าฉวียังคงไม่ตอบตกลง เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานบอกว่านางต้องการเจอฟ่านหลิง นางจึงรู้สึกแย่ นางควรทำอย่างไรหากไม่สามารถเกลี้ยกล่อมฟ่านหลิงได้จริง ๆ?
“เสี่ยวหวาน ถ้าครอบครัวฟ่านไม่ตกลงล่ะ?” กู้ฟางสี่พูดอย่างเป็นกังวล
กู้เสี่ยวหวานคิดว่าไม่เป็นไร ตอนนี้มีเพียงฟ่านหลิงเท่านั้นที่ไม่ตกลง ถ้าฟ่านหลิงตกลง ฟ่านต้าฉวีก็ตกลง
ตระกูลจางเป็นตระกูลที่ดีมีชื่อเสียงแบบปากต่อปากในหมู่บ้านนี้ โดยเฉพาะฉือโถวที่ขยันขันแข็งและมีความสามารถ แม้ว่าเขาจะเป็นคนเงียบขรึม แต่เขาก็เป็นคนดี
เมื่อมองไปที่การแสดงออกของฟ่านต้าฉวีในเมื่อครู่ ตัวเขาเองพอใจกับการแต่งงานครั้งนี้มาก แต่ฟ่านหลิงไม่ตอบตกลง
ใครผูกกระดิ่งให้เสือก็ต้องแก้เอง*[1] เนื่องจากฟ่านหลิงไม่ตกลง จึงต้องถามฟ่านหลิง
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ กู้เสี่ยวหวานก็ยื่นมือไปแตะมือของกู้ฟางสี่และพูดอย่างปลอบโยน “ท่านอาไม่ต้องกังวล ข้าจะคุยกับแม่นางฟ่านเอง”
เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานไม่ได้มีท่าทีกังวลใจ กู้ฟางสี่ก็รู้สึกโล่งใจ
เมื่อฟ่านหลิงกลับมา นางเห็นคนหลายคนนั่งอยู่ที่ลานบ้าน หญิงสาวที่มีใบหน้างดงามแต่ไม่แต่งหน้านั่งอยู่ท่ามกลางฝูงชน ฟ่านหลิงแค่มองก็รู้ได้ว่านางเป็นเสี้ยนจู่
เมื่อมาถึง ท่านพ่อได้บอกนางเกี่ยวกับความตั้งใจของเสี้ยนจู่แล้ว
ฟ่านต้าฉวียังได้แสดงเจตจำนงของตัวเองต่อเสี้ยนจู่ แต่นางก็ยังต้องการพบตัวเอง ฟ่านหลิงจึงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
ตัวเองไม่ต้องการแต่งงาน แต่ก็ไม่ต้องการทำให้เสี้ยนจู่ขุ่นเคืองเช่นกัน
เสี้ยนจู่ใจดีกับครอบครัวของพวกนางมาก นางมอบที่นาให้พวกเขาปลูก และนางยังคงเก็บค่าเช่าราคาต่ำตามเดิมทุกปี
ฟ่านหลิงจะไม่มีวันลืมความเมตตานี้
อย่างไรก็ตาม หากตัวเองปฏิเสธนาง เกรงว่าเสี้ยนจู่จะรู้สึกไม่สบายใจ ฟ่านหลิงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่นางไม่รู้จะทำอย่างไร
ครอบครัวจางเป็นครอบครัวที่ดี และฉือโถวก็เป็นคนดี
ฟ่านหลิงเข้ามาในบ้านและทักทายกู้เสี่ยวหวาน “เสี้ยนจู่”
กู้เสี่ยวหวานรีบลุกขึ้นประคองนางและดึงอีกฝ่ายไปที่ด้านข้างของเก้าอี้
กู้เสี่ยวหวานจับมือของนางไว้แน่น และมองนางอย่างรู้สึกลำบากใจ
ฟ่านหลิงต้องการที่จะดึงมือกลับ แต่ไม่คิดว่ากู้เสี่ยวหวานจะดึงมือนางไว้
*[1] ใครสร้างปัญหามา คนนั้นก็ต้องรู้จักแก้เอง