ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1295 ฉินเย่จือแสดงอำนาจบารมี
บทที่ 1295 ฉินเย่จือแสดงอำนาจบารมี
บทที่ 1295 ฉินเย่จือแสดงอำนาจบารมี
แต่ไหนแต่ไรมา ทุกคนไม่เคยเห็นภาพลักษณ์แบบนี้ของฉินเย่จือมาก่อน มันจึงทำให้พวกเขาตกตะลึง
โดยเฉพาะสาว ๆ ที่อยู่บริเวณนั้น ครั้นได้เห็นใบหน้ายิ้มแย้มของฉินเย่จือ ความอ่อนโยนในดวงตาที่มองร่างบอบบางข้าง ๆ ทำให้รู้สึกเหมือนหัวใจของพวกนางจะแตกสลาย
กู้ซินเถาถูกฝ่ามือของฉินเย่จือผลักออกไป นางจึงล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง นางนอนนิ่งอยู่ที่พื้นและไม่สามารถลุกขึ้นได้อีก
นอนอยู่ที่พื้นและไม่กล้าส่งเสียงร้องเหมือนคนอื่น ทำได้เพียงขบริมฝีปากแน่น นางจ้องมองฉินเย่จือด้วยความอับอายและความโกรธเคือง กล่าวหาเขาอย่างไร้เหตุผลอยู่เงียบ ๆ
และหลังจากที่ซุนซีเอ๋อร์หายจากอาการงุนงง ตอนนี้ก็ได้สติและรีบลุกขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อเห็นกู้ซินเถายังนอนอยู่ที่พื้นก็ก้มลงไปตะโกนเรียก “ซินเถา ซินเถา เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า”
ฟันหน้าของซุนซีเอ๋อร์ถูกตีจนหักไปหลายซี่ ทำให้การออกเสียงของนางนั้นไม่ชัดเจน ได้แต่ร้องเรียกด้วยเสียงอู้อี้อยู่หลายครั้ง พอดูท่าทางของนางถึงจะฟังออกว่าเมื่อครู่นางพูดอะไร
เมื่อเทียบกับความเจ้าเล่ห์ของกู้ซินเถาแล้ว ซุนซีเอ๋อร์ห่วงใยกู้ซินเถาด้วยความจริงใจ
นางเห็นกู้ซินเถานอนอยู่ที่พื้นและไม่สามารถลุกขึ้นได้ ก็คิดว่าลูกสาวของตนได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรีบวิ่งไปข้างหน้าและไถถามด้วยความเป็นห่วง
“จับให้แน่น จับให้แน่น” ปากของซุนซีเอ๋อร์เต็มไปด้วยเลือด นางไม่มีฟัน พูดก็ไม่ชัด ได้แต่นั่งคุกเข่าต่อหน้ากู้ซินเถาแต่ไม่กล้าแตะต้องนาง ทำได้เพียงถามไม่หยุดว่าเกิดอะไรขึ้น
ซุนซีเอ๋อร์ในตอนนี้ดูไม่เหมือนหญิงสาวในเมืองด้วยซ้ำ เสื้อผ้าดี ๆ ที่ใส่มา ใบหน้าที่แต่งอย่างงดงามและละเอียดอ่อน ผมที่หวีอย่างพิถีพิถัน ทว่าในตอนนี้ทุกอย่างไม่มีอะไรสมบูรณ์
จะเทียบกับขอทานข้างถนนก็เทียบไม่ติด
ซุนซีเอ๋อร์คุกเข่าลงต่อหน้ากู้ซินเถา มองลูกสาวด้วยความปวดใจ เพราะไม่รู้ว่านางบาดเจ็บตรงไหนและไม่กล้าแตะต้องตัวนาง ทำได้เพียงมองดูด้วยดวงตาคู่หนึ่งที่บวมแดงจนมองแทบไม่เห็น ได้แต่มองกู้ซินเถาอยู่อย่างนี้
ซุนซื่อในสายตาของกู้ซินเถาตอนนี้ สภาพเหมือนวิญญาณผียากไร้ ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบเลือดจากรอยเล็บข่วน รอยแผลมีความตื้นความลึกไม่เท่ากัน
โชคดียังมีเสื้อผ้าบนร่างกาย เกรงว่าถ้ามีคนมาดึงทึ้งเสื้อผ้าบนตัว… ไม่! ตอนนี้จะเรียกว่าเสื้อผ้าไม่ได้แล้ว ถ้าจะให้พูดก็เรียกได้แค่เศษผ้า เพียงดึงนิดเดียว เสื้อผ้าพวกนี้ก็หลุดลุ่ยหมด ปกปิดร่างกายไม่ได้แล้ว
กู้ซินเถาเป็นคนที่เย่อหยิ่ง ตอนนี้เห็นซุนซื่อเป็นแบบนี้แล้ว นางแทบอยากจะขุดหลุมลงไปใต้ดินแล้วเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในนั้น
คนรอบ ๆ ที่อยู่ที่นั่นชี้มาที่พวกนางอย่างมุ่งร้าย
“พวกเจ้าดูผู้หญิงคนนี้สิ รูปร่างดีเหลือเกิน” มีคนหัวเราะอย่างชั่วร้าย
“ใบหน้าที่ถูกกรีดแบบนี้ น่ากลัวจริง ๆ” มีคนพูดด้วยความขยะแขยง
“ดูสภาพของนางสิ ยังไม่รีบไปซ่อนตัวอีก ไม่กลัวขายหน้าเลยหรือ หึ ๆ” มีผู้หญิงเห็นการแต่งตัวของซุนซื่อ ก็เอ่ยปากอย่างไม่พอใจ
กู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือยืนอยู่เคียงข้างกัน มองดูปฏิสัมพันธ์ระหว่างกู้ซินเถาและซุนซื่อ
ความกังวลในแววตาของซุนซื่อ และความรังเกียจในแววตากู้ซินเถา กู้เสี่ยวหวานมองออกอย่างชัดเจน
ถูกคนด่าด้วยถ้อยคำที่น่ารังเกียจขนาดนั้น แต่ซุนซื่อก็ยังไม่ไปไหน ทั้งยังไปช่วยประคองกู้ซินเถาขึ้นมาอีก
กู้ซินเถาไม่เต็มใจที่จะช่วยเหลือซุนซื่อ นางพยายามอดทนต่อความเจ็บปวดและอยากจะหนีไปให้ไกล นางมองซุนซื่อเหมือนคนแปลกหน้า ไม่แม้แต่จะสนใจซุนซื่อเลยสักนิด
กว่าจะลุกขึ้นมาได้ไม่ง่ายเลย หากแต่ก็ยังไม่ยอมมองหน้าซุนซื่อ
ทำเพียงแค่มองฉินเย่จืออย่างคับแค้นใจ สายตาเต็มไปด้วยการตำหนิ ทว่าก็มีความหลงใหลจนโงหัวไม่ขึ้นแอบแฝงอยู่
ยามที่เขามองกู้เสี่ยวหวาน สายตานั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แต่คราวนี้เมื่อเขามองนาง มันกลับแปรเปลี่ยนเป็นดุร้าย สายตาดูเหมือนอาบไปด้วยยาพิษ ราวกับว่าต้องการฉีกนางออกเป็นชิ้น ๆ
จากนั้นก็ไม่สนใจซุนซื่อที่อยู่ข้างหลัง นางบิดเอวและเดินออกไปจากร้านจิ่นฝูทีละก้าว
พอหันหลังกลับมามองกู้เสี่ยวหวาน สายตาที่ดุร้ายนั้น กู้เสี่ยวหวานมองออกได้อย่างชัดเจน แต่เมื่อมองไปที่ฉินเย่จือก็เต็มไปด้วยความอ่อนโยน
กู้เสี่ยวหวานมุ่ยปากไม่พอใจ
ไม่ใช่ข้าที่ผลักเจ้า ทำไมต้องมองเหมือนข้าเป็นคนทำร้ายเจ้าอย่างนั้นแหละ! เกรงว่าแม้แต่ทิศตะวันออก ทิศใต้ ทิศตะวันตก ทิศเหนือ กู้ซินเถาก็คงจะแยกไม่ออกเสียแล้ว
ฉินเย่จือรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจของผู้คนที่อยู่รอบข้าง เขาขมวดคิ้วและยื่นมือ ออกมาจับมือเล็ก ๆ ของกู้เสี่ยวหวาน บีบมันเบา ๆ เหมือนปลอบใจกู้เสี่ยวหวาน แต่กลับเหมือนสาบานต่ออำนาจตนเอง
รอยยิ้มของฉินเย่จือทำให้สาว ๆ ที่ยังไม่แต่งงานที่อยู่รอบ ๆ เข้าหาเขาทันที แค่มองก็ทำให้ผู้คนหลงไหลได้ เป็นรอยยิ้มหวานจนทำให้ตายได้ แต่ละคนเหมือนพวกคลั่งไคล้ผู้ชาย ใครจะไปรู้ว่า คนผู้นี้จริง ๆ แล้วจะเป็นจ้าวนรกผู้เย็นชา
ทุกคนจ้องมองฉินเย่จือด้วยความคลั่งไคล้ หวังว่าฉินเย่จือที่มีเสน่ห์ดึงดูดสายตาคนจะหันมามองที่ตัวเอง เพียงมองมาแค่แวบหนึ่งก็ยังดี
ไม่เป็นไร เพียงกู้ซินเถาคนเดียวก็ทำให้กู้เสี่ยวหวานหึงหวงได้
ในขณะนี้หญิงสาวที่อยู่รอบ ๆ ล้วนหันไปขยิบตาใส่ฉินเย่จือ แต่ยังดีที่กู้เสี่ยวหวานโกรธไม่มาก นางหันหน้ามาจ้องมองที่ฉินเย่จือแวบหนึ่ง แววตาเต็มไปด้วยความโกรธ
ฉินเย่จือยิ้มเบา ๆ ราวกับว่ามีความสุขกับท่าทางที่โกรธขึ้งของกู้เสี่ยวหวาน เขาก้มหัวลงมา ไม่รู้ว่าพูดอะไรข้างหูกู้เสี่ยวหวาน แต่สีหน้าของกู้เสี่ยวหวานกลับดูดีขึ้นมาหน่อยแล้ว
เมื่อเห็นฉินเย่จือเงยหน้าขึ้น รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไป ไม่เหลือความอ่อนโยนน่าหลงใหล เห็นได้ชัดว่ายังคงเย็นชาราวกับก้อนน้ำแข็ง
เดิมทีกลิ่นอายในตัวฉินเย่จือนั้นสามารถข่มขู่คนได้อยู่แล้ว ในวันธรรมดาท่ามกลางผู้คนธรรมดา เขาจงใจปิดบังอำนาจของตนเอง เพราะเกรงว่าจะทำให้คนพวกนี้ตกใจ
………………………………………………….