ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1299 แผนการร้าย
บทที่ 1299 แผนการร้าย
หงซื่อพรั่งพรูคำพูดต่าง ๆ นานาออกมาในคราวเดียว สิ้นประโยคสุดท้าย นางถึงกับต้องสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ แต่ก็ยังไม่วายพูดต่ออีกว่า “อวิ๋นเอ๋อร์ เจ้าเป็นคุณหนูเพียงคนเดียวในตระกูลจ้าว คนที่เจ้าควรแต่งด้วยจะต้องเป็นคุณชายผู้มั่งคั่ง เจ้าจงวางใจเถิด เจ้าคือบุตรสาวผู้ล้ำค่าของท่านพ่อเจ้า เขาไม่มีทางปล่อยให้เจ้าต้องน้อยเนื้อต่ำใจเป็นแน่ เจ้าจะต้องแต่งออกไปเป็นฮูหยิน อย่าลืมว่าตัวเจ้าเป็นคนงาม แม้อยากจะเข้าวังเป็นสนมก็ย่อมได้ แค่จะหาบุรุษรูปงามอกผายไหล่ผึ่งสักคนหนึ่งยิ่งไม่ใช่เรื่องยาก ขอเพียงเรามีเงินในมือ ถึงวันออกเรือนของเจ้า แม่จะจัดขบวนเกี้ยวเจ้าสาวยาวสิบลี้ ให้เจ้าแต่งออกไปอย่างยิ่งใหญ่สง่างามดีหรือไม่?”
ขบวนเกี้ยวเจ้าสาวยาวสิบลี้เมื่อนางแต่งออกไปอย่างนั้นหรือ?
จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์กำลังเฝ้าฝันถึงสิ่งที่พึ่งได้ยินเมื่อครู่ และหากมันเป็นเรื่องจริง นางคงอิ่มเอมใจไม่น้อย
แต่ว่า… หากได้แต่งกับท่านพี่ฉิน นั่นมันดีเสียยิ่งกว่าดีอีกไม่ใช่หรือ?
จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์รู้ดีว่าหงซื่อไม่เห็นด้วยเรื่องที่นางชอบพอฉินเย่จือ แต่ไม่ว่าอย่างไร นางก็ได้มอบหัวใจให้ฉินเย่จือไปจนหมดสิ้นตั้งแต่คราแรกที่พบกันแล้ว
ทุกวันคืนนางเฝ้าคิดถึงแต่ฉินเย่จือ หัวใจก็ยิ่งโหยหาเขา
คงจะดีไม่น้อย หากได้อยู่เคียงข้างท่านพี่ฉินทั้งวันทั้งคืน
จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์เฝ้าฝันถึงสายตาอ่อนโยนและใบหน้าที่หล่อเหลาของฉินเย่จือ ใบหน้านวลพลันแดงก่ำ ท่าทางขวยเขิน ก้มหน้าหน่อย ๆ หัวเราะคิกคัก
แต่ในใจนางกลับอยากแต่งให้ฉินเย่จือจนแทบทนไม่ไหวแล้ว
“ท่านแม่ ไม่ใช่ว่าท่านพอใจในตัวกู้เสี่ยวหวานหรอกหรือ? ถ้าเช่นนั้นก็ให้นางมาเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของข้า ไม่แน่ว่าหากเราได้นางมาเป็นสะใภ้ใหญ่ ทรัพย์สมบัติของนางก็จะต้องตกเป็นของตระกูลเราด้วย” จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ที่เฝ้าฝันหวานอยู่นาน จู่ ๆ ก็เงยหน้าขึ้นราวกับพึ่งนึกสิ่งใดออก ก่อนจะหันไปสบตากับหงซื่อแล้วบอกสิ่งที่นางคิดออกไป
หงซื่อย่อมอยากได้กู้เสี่ยวหวานเป็นสะใภ้อยู่แล้ว นางมีทั้งเงิน มีทั้งฐานะ แถมยังเฉลียวฉลาดมีความสามารถ
เพียงแต่มันติดอยู่ที่นายท่านคงไม่ยอมให้นางไปทาบทามกู้เสี่ยวหวานแน่ แต่คงจะให้ยายแก่นั่นเป็นคนไปทาบทามให้ลูกชายตนเองแทน
เฮอะ! ของดีขนาดนี้ จะปล่อยให้ยายแก่นั่นฉกไปหน้าตาเฉยได้อย่างไรกัน
“แน่นอนว่าแม่อยากให้มันเป็นเช่นนั้น เพียงแต่ยังทำได้แค่ฝัน เพราะยายแก่นั่นก็อยากได้กู้เสี่ยวหวานเป็นลูกสะใภ้เหมือนกัน ถ้าหากแม่เอาชนะยายแก่นั่นได้ นางคงแทบกระอักเลือดตาย หลายปีมานี้ นางกีดกันแม่ทุกทาง ไม่ว่าท่านพ่อของเจ้าจะพูดกับนางอย่างไร นางก็ไม่ยอมให้แม่เข้าจวน”
หงซื่อพูดอย่างโกรธจัด
จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ไม่สนใจและพูดอย่างเมินเฉย “ท่านแม่ เหตุใดถึงอยากกลับเข้าไปอยู่ที่เรือนเก่า เรือนที่เราอยู่ทุกวันนี้ก็ไม่ได้แย่ไปกว่าที่นั้นสักเท่าไรเลย อีกอย่างท่านพ่อก็ใช้เวลาอยู่กับเรามากกว่าที่เรือนเก่าเสียอีก”
หงซื่อถอนหายใจเฮือกใหญ่ แม้ว่าอยู่ข้างนอกจะดีกว่า แต่นางคิดว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับนาง
“เฮ้อ… แม้ว่าการอยู่ข้างนอกจะสบาย แต่สุดท้ายเจ้าก็คือคนในตระกูลจ้าว มีเลือดของตระกูลจ้าวไหลอยู่ในกายเจ้าครึ่งหนึ่ง เจ้ายังต้องกลับไปที่จวนของบรรพบุรุษเพื่อคารวะบรรพบุรุษของเจ้า” พูดจบ หงซื่อก็ถอนหายใจอีกครั้ง หากกลับเข้าไปในจวนบรรพบุรุษได้ ทรัพย์สมบัติครึ่งหนึ่งในจวนตระกูลจ้าวก็ต้องตกเป็นของเจี๋ยเอ๋อร์ นางจะต้องหาทางกลับเข้าไปให้ได้
อีกอย่าง นางจะไม่ทนอยู่ข้างนอกอย่างไร้ชื่อไร้เสียงให้คนอื่นหัวเราะเยาะอีกต่อไป ทั้งเจี๋ยเอ๋อร์และอวิ๋นเอ๋อร์ต่างก็เป็นคุณหนูคุณชายของตระกูลจ้าว ความจริงข้อนี้ไม่มีผู้ใดลบล้างได้
แม้ว่านางจะเป็นเพียงอนุ แต่ก็ดีกว่าอยู่อย่างไร้ชื่อไร้ฐานะเช่นนี้
ดังนั้นในใจของหงซื่อจึงต้องมีแผนการอยู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยเฉพาะ นายท่าน…
ทันทีที่นึกถึงหน้าจ้าวสวิ่น ในใจหงซื่อแทบลุกเป็นไฟ
ยามนี้ นางรับรู้ได้ว่าจ้าวสวิ่นใช้เวลาอยู่ที่บ้านน้อยลงเรื่อย ๆ แม้กระทั่งในยามที่ตัวเขาอยู่กับนาง ใจของเขาก็ยังเอาแต่เหม่อลอย
หงซื่อไม่ใช่คนโง่…
เมื่อก่อนจ้าวสวิ่นปฏิบัติต่อนางอย่างอ่อนหวานปานขี้ผึ้งลนไฟ ตามติดนางไม่เว้นว่างสักวัน
ทว่าจู่ ๆ ความเสน่หากลับกลายเป็นเย็นชา คนที่ความรู้สึกไวเช่นหงซื่อมีหรือจะไม่รู้สึกได้
เพียงแต่นางไม่อาจมีปัญหากับจ้าวสวิ่น หลายปีแล้วที่นางกุมหัวใจของเขาไว้แน่น เพราะนางไม่เหมือนผู้หญิงในจวนเก่าที่วัน ๆ เอาแต่ทำหน้าอมทุกข์และพูดจาถากถางสามี หญิงเช่นนี้ดูไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย จะไม่ให้สามีออกไปหาความสุขนอกบ้านได้อย่างไร
หงซื่อจะไม่เอาอย่างยายแก่นั่นเด็ดขาด นายท่านยังเคยบอกว่านางเป็นดอกเจี๋ยอวี่*[1]
แต่ไม่ว่าอย่างไร ดอกไม้ย่อมต้องมีวันโรยรา แม้แต่ดอกเจี๋ยอวี่ที่เบ่งบานมานานก็เช่นกัน
ยิ่งนึกถึงท่าทีเฉยชาของจ้าวสวิ่น แผนการในใจของหงซื่อยิ่งผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด
ขอเพียงแผนการทำให้กู้เสี่ยวหวานกลายมาเป็นสะใภ้ของนางสำเร็จ จ้าวสวิ่นจะต้องพูดสิ่งใดไม่ออกเป็นแน่ อีกทั้งเขายังชื่นชมกู้เสี่ยวหวานอยู่มาก เขาย่อมต้องพาพวกเรากลับไปที่จวนเก่าอย่างแน่นอน
หึ! ถึงตอนนั้นจะได้กลับจวนเก่าหรือไม่ก็ไม่สำคัญ ชื่อเสียงและฐานะของกู้เสี่ยวหวานก็ไม่ได้น้อยหน้าตระกูลจ้าวสักนิด แม้ไม่ได้กลับเข้าจวนตระกูลจ้าวก็ช่างปะไร เพียงมีกู้เสี่ยวหวาน ทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดี
หงซื่อพร่ำเพ้ออยู่ในใจ นึกถึงผลประโยชน์ที่จะได้หลังจากได้กู้เสี่ยวหวานมาเป็นสะใภ้ ใจนางก็ยิ่งร้อนรุ่ม อยากจะได้กู้เสี่ยวหวานมาเป็นสะใภ้ในทันทีทันใด
หากเป็นได้อย่างใจคิด หญิงเฒ่าที่จวนเก่ามีหรือจะกล้าทำกับนางอย่างเช่นทุกวันนี้ คงเห็นแก่ชื่อเสียงของกู้เสี่ยวหวาน และเชิญนางกลับจวนอย่างว่าง่าย
“ท่านแม่ ข้าคิดแผนการดี ๆ ออกแล้ว” ทันใดนั้น น้ำเสียงยินดีปรีดาของจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ พร้อมดวงตาคมขลับเปล่งประกายสดใสก็ปลุกผู้เป็นแม่ให้ตื่นจากห้วงแห่งความเพ้อฝัน
“แผนการอันใด บอกข้ามาเร็ว” หงซื่อได้ยินว่ามีหนทาง สีหน้าจึงเปี่ยมไปด้วยความหวัง หูทั้งสองข้างผึ่งขึ้นทันใด
จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์เห็นท่าทางดูมีความหวังของผู้เป็นแม่ นางก็ยกยิ้มกรุ้มกริ่ม แล้วค่อย ๆ กระซิบบอกว่า “ท่านแม่ อย่าพึ่งรีบร้อน แล้วก็อย่าได้กังวลไป เพียงท่านกับท่านพี่ทำตามที่ข้าบอก ก็จะต้องได้กู้เสี่ยวหวานมาเป็นสะใภ้อย่างแน่นอน”
พูดจบ สีหน้าของจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ก็เปลี่ยนเป็นดุร้าย แม้แต่หงซื่อที่อยู่ข้าง ๆ ยังไม่เคยเห็นท่าทางเช่นนี้ของนางมาก่อน ในใจพลันรู้สึกกังวล จึงเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจ “อวิ๋นเอ๋อร์ แผนการที่ว่าคือสิ่งใดกันแน่ อย่าคิดทำเรื่องอุจอาจเกินไป หากท่านพ่อของเจ้ารู้เข้า เราต้องแย่แน่”
ทว่าจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์กลับไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวใด ๆ กลับกันนางเพียงยกยิ้มน้อย ๆ นัยน์ตาฉายแววแห่งความมั่นใจ “ท่านแม่ ข้าบอกแล้วว่าอย่าได้กังวลไป อย่างคำกล่าวที่ว่า ‘ขี้กลัวไม่นับเป็นลูกผู้ชาย ไม่โหดเหี้ยมไม่นับเป็นชายชาตรี’ หากเราไม่ลงมือทำสิ่งใด แล้วนางจะเชื่อฟังเราได้อย่างไร ท่านวางใจเถอะ แผนการของข้าจะต้องสำเร็จ ถึงยามนั้น นางจะต้องยอมแต่งให้ท่านพี่อย่างแน่นอน”
จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์และหงซื่อมีใบหน้าที่คล้ายกันมาก ทั้งใบหน้ารูปเมล็ดแตงโม คิ้วเรียวยาว จมูกเชิดขึ้นเล็กน้อย คิ้วคมตาดำขลับ ช่างมีเสน่ห์ในตัวเอง
สายตาของหงซื่อจ้องมองจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ที่ดูเหมือนตนเองในวัยเด็ก หูทั้งสองข้างตั้งใจฟังสิ่งที่นางพูดออกมาอย่างหนักแน่น แม้ว่าจะไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร แต่หากแผนการที่ว่ามาสามารถเอาชนะใจกู้เสี่ยวหวานได้ ก็คงต้องลองดูกันสักตั้งแล้วล่ะ
*[1] ดอกเจี๋ยอวี่ เปรียบเปรยว่าเป็นดอกไม้แห่งความเข้าใจ หมายถึง ผู้หญิงสวยที่ฉลาด อยู่ด้วยแล้วรื่นรมย์ใจ