ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1312 เจอกันอีกแล้ว
บทที่ 1312 เจอกันอีกแล้ว
เยว่เหนียงกำลังห่อผ้าและรู้สึกได้ว่าอากาศรอบตัวเย็นขึ้น นี่เป็นช่วงฤดูร้อน แต่ว่าเหตุใดถึงรู้สึกเหมือนตกลงไปในธารน้ำแข็ง และกู้เสี่ยวหวานก็สัมผัสถึงสิ่งนี้ได้ นางหันไปมองฉินเย่จือที่อยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นสายตาเย็นชาของเขาจึงถามว่า “ท่านไม่ชอบหรอกหรือ”
“ชอบสิ” ดวงตาเรียวยาวที่เต็มไปด้วยความเย็นชาเหมือนเมื่อครู่สลายหายไป ตอนนี้สายตาของเขาเหมือนความอบอุ่นในฤดูใบไม้ผลิ สดใสราวกับดอกไม้ในเดือนสาม
เยว่เหนียงที่อยู่ด้านข้าง ครั้นเห็นรอยยิ้มของฉินเย่จือ การเคลื่อนไหวของนางจึงหยุดชะงักและต้องตกตะลึง ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา เกรงว่าชีวิตนี้คงได้เห็นเพียงครั้งเดียว
เยว่เหนียงจ้องมองอีกฝ่ายอย่างตกตะลึง และทันใดนั้นก็รู้สึกราวกับว่ามีคนจ้องมองที่ตนเอง ซึ่งสายตานั้นมาจากทิศทางตรงกันข้าม เมื่อนางมองไปก็เห็นฉินเย่จือที่กำลังฟังกู้เสี่ยวหวานพูดกับเขาเป็นครั้งคราว ท่าทางของสุภาพบุรุษราวกับว่าสายตาอาบยาพิษที่นางเห็นเมื่อครู่นั้นเป็นเพียงภาพลวงตา
เฮ้อ… ดูเหมือนว่าตัวเองจะแก่แล้วจริง ๆ และสายตาฝ้าฟาง
หลังจากห่อสิ่งของให้กู้เสี่ยวหวานแล้ว หญิงสาวก็จ่ายเงินและเตรียมจะออกไป เยว่เหนียงดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ และทันใดนั้นก็พูดว่า “เสี้ยนจู่ ข้าได้ยินมาว่าเดือนหน้าท่านกำลังจะไปเมืองหลวง”
กู้เสี่ยวหวานพยักหน้าตอบรับ “เป็นวันเกิดของไทเฮา มีรับสั่งให้สตรีระดับสูงเข้าเฝ้า ครั้งนี้ข้าจึงต้องไปด้วย”
“เมื่อไปเมืองหลวงจะมีเวลาว่างสักพักใช่หรือไม่” เยว่เหนียงยังคงถามต่อ
กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า “น่าจะเป็นเช่นนั้น”
เยว่เหนียงปรบมืออย่างดีใจ “จริงหรือ? เยี่ยมมาก ข้าคิดว่าท่านคงรู้ว่าข้ากับน้องสาวเคยเรียนวิชาปักผ้าจากช่างปักในวัง และนางเองก็อยู่ในเมืองหลวง เราไม่ได้เจอกันหลายปีแล้ว ข้าอยากเจอนางมาก แต่ข้าแก่เกินกว่าจะเดินทางไปแล้ว จึงคิดว่าถ้ามีใครไปเมืองหลวง ข้าจะขอให้นำของบางอย่างฝากไปให้น้องสาวคนนั้น เป็นเรื่องบังเอิญว่าท่านจะไปที่นั่นพอดี ไม่รู้ว่าเสี้ยนจู่จะช่วยข้าหน่อยได้หรือไม่”
กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า “แน่นอน”
ไม่ต้องพูดถึงเยว่เหนียง เมื่อนางมีปัญหา พี่ฝูก็ดูแลนางอย่างดี กู้เสี่ยวหวานจะไม่มีวันลืมบุญคุณนี้ เมื่อเยว่เหนียงเอ่ยปากขอ กู้เสี่ยวหวานพร้อมยินดีช่วยเหลือ
เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานตกลงช่วย เยว่เหนียงก็มีความสุขมาก “ดีจริง ๆ เลย เสี้ยนจู่ ข้าจะส่งจดหมายไปบอกน้องสาวของข้าทันที ถ้านางรู้ นางคงจะมีความสุขมาก เมื่อถึงเวลาพวกเราจะนำของไปมอบให้ท่าน ขอบคุณท่านมาก”
มันเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย กู้เสี่ยวหวานบอกนางว่าอย่าคิดมาก จากนั้นจึงไปยังร้านเครื่องประทินโฉม
ภายในร้านมีลูกค้าสตรีสองคนกำลังเลือกซื้อสินค้า สอบถามลี่เหนียงเป็นครั้งเป็นคราว และลี่เหนียงก็ตอบทีละคำถามอย่างใส่ใจ
“อวิ๋นเอ๋อร์ เจ้าดูสิ ชาดสีนี้เข้ากับสีผิวของเจ้าเป็นอย่างมาก หากเจ้าใช้มัน มันคงจะขับผิวให้ขาวยิ่งกว่าหิมะแน่นอน” เสียงประจบสอพลอนี้ฟังดูคุ้นเคย ครั้นกู้เสี่ยวหวานได้ยินก็รู้ได้โดยไม่ต้องคิดว่าคนคนนี้คือใคร ต้องเป็นกู้ซินเถาอย่างไม่ต้องสงสัย
และคนที่นางพูดด้วยก็คือชื่อของอวิ๋นเอ๋อร์ ในขณะนี้ก็พูดอย่างละเอียดอ่อนเช่นกัน “ชาดนี้ก็สวยมากเช่นกัน มันเหมาะกับเจ้ายิ่งนัก เหตุใดถึงไม่ลองดูล่ะ”
เมื่อกู้เสี่ยวหวานย่างเท้าเข้าไปก็พบกับสตรีสองคนที่นางไม่ชอบหน้า หญิงสาวไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับสองคนนี้ ดังนั้นนางจึงหันหลังกลับไปและจากไปทันที
ใครจะรู้ว่าลี่เหนียงจะเหลือบมาเห็นนางและกล่าวทักทายทันที “เสี้ยนจู่ ท่านมาที่นี่!”
จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์และกู้ซินเถากำลังลองของที่อยู่ในมือ ครั้นได้ยินว่ากู้เสี่ยวหวานมาที่นี่ การเคลื่อนไหวของมือก็หยุดชะงักทันที
เสี้ยนจู่? ใครคือเสี้ยนจู่? นอกเหนือจากกู้เสี่ยวหวานแล้วจะเป็นใครไปได้
จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์และกู้ซินเถารีบวางของในมือลง และเมื่อหันกลับไป บนหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มสอพลอ “โอ้! ท่านเสี้ยนจู่ ลมอะไรพัดท่านมาที่นี่กัน”
หลังจากทักทายลี่เหนียงแล้ว กู้เสี่ยวหวานก็ไม่ต้องการคุยกับสองคนนั้น นางจึงไปที่โต๊ะแสดงสินค้าเพื่อเลือกของบางอย่าง
ฟ่านหลิงกำลังจะแต่งงาน และนางกำลังคิดที่จะซื้อชาดและเครื่องประทินผิวให้ฟ่านหลิงสักหน่อย เดิมทีตัวนางเองไม่ค่อยชอบใช้ของพวกนี้เท่าไรนัก ยกเว้นจะใช้ชาดในบางโอกาส
หลังจากที่จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์และกู้ซินเถาพูดเหน็บแนม พวกนางก็มองไปข้างหลัง จึงเห็นอาจั่วและอาโม่ที่หน้าตาไร้อารมณ์ตามมา ทั้งคู่ก็อิจฉาเล็กน้อย ดังนั้นคำพูดจึงออกมาจากปากพวกนางอีกครั้ง “ไม่คาดคิดว่าเสี้ยนจู่ที่งดงามจะมาซื้อเครื่องประทินผิวเหล่านี้ด้วย”
สมองของจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ผู้นี้ถูกโยนทิ้งไปตอนที่นางออกมาจากครรภ์มารดาหรือ? กู้เสี่ยวหวานไม่สนใจที่จะคุยกับนาง และจดจ่อกับการเลือกสิ่งของที่อยู่ตรงหน้า
กู้ซินเถารู้ถึงความแข็งแกร่งของกู้เสี่ยวหวาน และครั้งนี้นางไม่ได้ยื่นมือเข้าไปยุ่งกับกู้เสี่ยวหวานโดยตรง อย่างไรก็ตาม นางมีจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ที่ทรงพลังอยู่เคียงข้าง
ครั้นเห็นกู้เสี่ยวหวานไม่สนใจตัวเอง ใบหน้าที่ขาวเนียนของจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ “เฮ้อ ข้ากำลังคุยกับเจ้าอยู่นะ เหตุใดเจ้าถึงไม่ตอบเข้า อย่าคิดว่าเจ้าเหนือกว่าคนอื่นเพราะเป็นเสี้ยนจู่ ข้าจะบอกอะไรเจ้าให้นะ ครอบครัวของข้าไม่ใช่คนธรรมดา ท่านพ่อของข้าคือจ้าวสวิ่น”
กู้เสี่ยวหวานยังคงเพิกเฉยต่อนาง และคุยกับลี่เหนียงว่าควรใช้ชาดแบบไหนเพื่อให้ผิวของฟ่านหลิงดูดี ลี่เหนียงไม่ชอบจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์เพราะนางมีท่าทีหยิ่งยโส เมื่อนางมาที่ร้าน นางมักจู้จี้จุกจิกและอาศัยเงินในมือ นางไม่ชอบสิ่งนี้ นางไม่ชอบสิ่งนั้น พูดไร้สาระไปต่าง ๆ นานา
เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานไม่สนใจ ลี่เหนียงก็ไม่สนใจเช่นกัน
เมื่อนางคุยกับกู้เสี่ยวหวาน แต่กู้เสี่ยวหวานก็ไม่ตอบ ตอนนี้จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์รู้สึกหงุดหงิด นางก้าวไปข้างหน้า และต้องการยั่วโมโหกู้เสี่ยวหวาน
อาจั่วและอาโม่ต่างยืนอยู่ข้างกู้เสี่ยวหวาน และพวกเขาก็ไม่ได้สนใจจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์เลย
กู้ซินเถาเห็นจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์เดินไปข้างหน้า จากนั้นมองไปที่คนทั้งสองที่ขนาบข้างกู้เสี่ยวหวาน โดยรู้ว่าถ้าจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ไปทำอะไรก็ตามในตอนนี้ นางจะไม่ได้อะไรเลย ในทางกลับกัน นางอาจจะประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่