ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1313 หาเรื่องอีกแล้ว
บทที่ 1313 หาเรื่องอีกแล้ว
กู้ซินเถาพยายามประจบประแจงจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ นางคงไม่สามารถยืนหยัดได้อย่างแน่นอน ดังนั้นนางจึงรีบรุดขึ้นหน้าและรั้งจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ไว้ “อวิ๋นเอ๋อร์ อย่า…”
จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ถูกรั้งเอาไว้ นางจึงหันขวับกลับไปมองกู้ซินเถา ดังนั้นจึงไม่เห็นมือของอาจั่วที่กำแน่น เกรงว่าหากนางกล้าก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวเดียวล่ะก็…
จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์อาจจะไม่มองไม่เห็น แต่กู้ซินเถามองเห็นอย่างชัดเจน อาจั่วคนนี้มีหรือจะทนได้หากถูกทำร้าย
เมื่อเห็นว่าตนเองถูกกู้ซินเถารั้งไว้ จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก “เจ้ากำลังทำอะไร น้องสาวของเจ้าหยิ่งยโสเกินไปแล้ว เจ้าเป็นพี่สาวของนาง แต่นางไม่แม้แต่จะสนใจเจ้า ข้าจะสอนบทเรียนให้แก่นางเอง”
ตอนนี้นางเต็มไปด้วยอารมณ์คุกรุ่น เมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย กู้ซินเถายิ่งรู้สึกกังวล ใครบอกว่าจ้าวจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ไม่มีสมอง เห็นได้ชัดว่านางฉลาดมาก
เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินคำพูดของจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ มุมปากของนางก็กระตุกขึ้น ดูเหมือนว่าการอยู่กับคนงี่เง่าก็เป็นเรื่องสนุกเช่นกัน แค่ไม่ต้องสนใจและดูการแสดงสนุก ๆ ของพวกเขาเท่านั้น
เมื่อฉินเย่จือเดินเข้ามาก็เห็นจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์และกู้ซินเถากำลังโต้เถียงกัน
กู้ซินเถาไม่คาดคิดว่าจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์จะเฉลียวฉลาดถึงเพียงนี้ อีกฝ่ายจึงยกเรื่องนี้มาเป็นเรื่องของนาง ดังนั้นตัวเองจะยอมรับก็ไม่ดี ไม่ยอมรับก็ไม่ได้ หากนางไม่ตอบ ความเป็นพี่น้องระหว่างนางกับจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ก็อาจจะสิ้นสุดลง
แต่ถ้านางตอบไป จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ก็ระบายความโกรธใส่นาง หากนางได้รับบาดเจ็บ ความผิดทั้งหมดก็จะไม่ตกอยู่ที่ตัวเองหรอกหรือ?
โชคดีที่เมื่อครู่ตัวเองดึงนางกลับมาได้ทันเวลาพอดี
“ขอบคุณอวิ๋นเอ๋อร์ที่ยืนหยัดเพื่อข้า แต่นางเป็นเสี้ยนจู่ ด้วยสถานะแบบนั้น นางจะมาสนใจพี่สาวอย่างข้าได้อย่างไร” กู้ซินเถาเอ่ยอย่างเศร้าสร้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา
“ฮึ่ม! แค่เป็นเสี้ยนจู่ก็ยังกำเริบเสิบสานขนาดนี้ ถ้านางได้รับตำแหน่งพระชายา นางจะไม่ลอยขึ้นไปบนฟ้าเลยหรืออย่างไร” จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์มองกู้ซินเถาที่กำลังเศร้าโศก
กู้ซินเถาทำได้เพียงหัวเราะ โกรธใช่หรือไม่ ยิ่งโกรธมากเท่าไรก็ยิ่งดี ฉินเย่จือที่เพิ่งเปิดม่านเข้ามาได้ยินคำพูดของจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ทันที ถ้านางได้รับตำแหน่งพระชายา นางจะไม่ลอยไปบนท้องฟ้าเลยหรือ
ประโยคนี้ตรงใจเขาจริง ๆ
เมื่อจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์เห็นม่านถูกเปิดออก นางจึงเหลือบมองไปที่ประตู และเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาคือฉินเย่จือ นางก็รู้สึกได้ทันทีว่าร้านนี้ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยแสงแดดจากด้านนอก
กู้ซินเถามองตามสายตาของจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ออกไปข้างนอก เมื่อนางเห็นว่าเป็นฉินเย่จือ หัวใจก็พลันเต้นรัวเช่นกัน ใบหน้าของนางแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที
ในวันนี้ฉินเย่จือดูเหมือนจะอารมณ์ดีมาก เขามีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา หลังจากที่เขาเข้ามา แววตาของเขาก็เปล่งประกายราวกับดวงดาวท้องฟ้าในยามค่ำคืน
ฉินเย่จือทำเพียงเหลือบมองนางอย่างไม่ใส่ใจ และก็ไม่มองมาที่นางอีกเลย
สายตาของจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์จับจ้องใบหน้าของฉินเย่จือตาไม่กะพริบ ดังนั้นจึงมองเห็นการกระทำของฉินเย่จือได้โดยธรรมชาติ
นางตื่นเต้นมากจนแทบจะหมดสติอยู่ตรงนั้น “ซินเถา เจ้าเห็นหรือไม่ว่าเมื่อครู่พี่ใหญ่ฉินเพิ่งมองมาที่ข้า!”
กู้ซินเถาเองก็เห็นเช่นนั้นเหมือนกัน และมันทำให้นางรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก
ตัวเองรู้จักกู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือมาหลายปีแล้ว ฉินเย่จือเป็นคนที่อยู่เหนือกว่าคนอื่นมาโดยตลอด ดวงตาคู่นั้นของเขามองเพียงกู้เสี่ยวหวานเท่านั้น แต่ตอนนี้นางเห็นได้อย่างชัดเจนว่าดวงตาของฉินเย่จือมองไปที่จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แต่นางก็มองเห็นมัน
ดูเหมือนว่ายังมีรอยยิ้มเล็กน้อยอยู่ในสายตา
นางไม่เคยถูกมองด้วยสายตาอันอบอุ่นเช่นนี้มาก่อนเลย
กู้ซินเถารู้สึกเศร้า จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ถูกมองด้วยสายตาที่นางไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ร่องรอยของความอิจฉาฉายชัดดวงตาของกู้ซินเถา แต่นางไม่ต้องการให้จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์เห็นมัน
ฉินเย่จือก้าวมาหยุดด้านข้างของกู้เสี่ยวหวานและโอบเอวของนางไว้แน่น เมื่อกู้เสี่ยวหวานเห็นชายหนุ่มเข้ามา นางก็ยิ้มและพูดว่า “จัดการเสร็จแล้วหรือ”
“อืม เสร็จแล้ว” ฉินเย่จือตอบด้วยรอยยิ้ม
ลี่เหนียงมองไปยังชายหญิงสองคนตรงหน้า และนางก็รู้สึกว่าหลังจากใช้ชีวิตมาสามสิบปี แต่ในขณะนี้หัวใจของนางเต้นรัวไม่หยุด ช่างเป็นภาพที่สวยงามจริง ๆ!
นางมองดูมันด้วยความอิจฉาเล็กน้อย
ชายผู้นี้หล่อเหลายิ่งนัก หญิงสาวก็อ่อนโยนและงดงาม ทั้งสองช่างเหมาะสมกันจริง ๆ
ลี่เหนียงยังพูดในสิ่งที่น่ายินดีออกมา “เสี้ยนจู่อันผิง ท่านและนายน้อยฉินช่างเป็นคู่ที่สวรรค์สร้างขึ้นจริง ๆ”
วันนี้ช่างเป็นวันที่ดี หลายคนพูดแต่เรื่องดี ๆ
ฉินเย่จือขมวดคิ้วพลางชี้ไปที่ชาดและเครื่องประทินผิวในตู้แถวหนึ่ง และพูดด้วยความกระตือรือร้น “เอาสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด”
ลี่เหนียงผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็คลี่ยิ้มหวาน “ตกลง ตกลง ข้าจะห่อให้ท่านตอนนี้เลย”
เมื่อเห็นฉินเย่จือทำเช่นนั้น กู้เสี่ยวหวานก็เยาะเย้ย “ทำไมท่านถึงซื้อของพวกนี้ไปมากมายเช่นนั้นล่ะ ท่านก็ต้องการใช้มันหรือ”
ฉินเย่จือยิ้มเบา ๆ “สิ่งที่นางพูดนั้นไพเราะจริง ๆ”
“นางพูดว่าอะไร?” กู้เสี่ยวหวานแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
ฉินเย่จือจับมือนางไว้และพูดว่า “นางบอกว่าเราเป็นคู่ที่สวรรค์สร้างมา สิ่งที่นางพูดเป็นเรื่องน่ายินดี จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะให้รางวัลแก่นาง”
เมื่อใดที่อาจั่วและอาโม่เห็นท่าทางไร้ยางอายของฉินเย่จือ พวกเขาทั้งหมดก็ถอยหลังไปก้าวใหญ่ ปีศาจหน้าหยกคนก่อนหน้านั้นกับคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ อย่าบอกนะว่าพวกเขาเป็นคนเดียวกัน
ฉินเย่จือจับมือกู้เสี่ยวหวานไว้ในแน่นและประสานนิ้วเข้าด้วยกัน อุณหภูมิในฝ่ามือของเขาทำให้หัวใจของกู้เสี่ยวหวานอบอุ่นขึ้นทันที
แต่การกระทำของพวกเขากลับทิ่มแทงสายตาคนอื่น
กู้ซินเถามองไปที่มือของกู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือที่สอดประสานกันด้วยสายตาไม่พอใจ ทว่าก็ไม่พูดอะไรออกไปสักคำ
………………………………………………….