ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1324 ฟ่านอวี้หายตัวไป
บทที่ 1324 ฟ่านอวี้หายตัวไป
บทที่ 1324 ฟ่านอวี้หายตัวไป
ในเวลานั้น ผู้ติดตามเซี่ยงผู้ซึ่งถูกฉินเย่จือเย้ยหยันในห้องขังยังคงไม่ยอมวางมือ ตอนนี้ไม่มีเจ้าเมืองคนใหม่ และเจ้าเมืองคนเก่าก็ถูกจับตัวไป สถานการณ์ในตอนนี้อาจเรียกได้ว่าไร้ผู้นำ
อย่างไรก็ตาม มีคำกล่าวโบราณว่า บนภูเขาที่ไม่มีเสือ ลิงจะเป็นราชา
คนแซ่เซี่ยงคือลิงตัวนั้น
“คุณหนู ฟ่านอวี้เป็นหนึ่งในคนของเรา ท่านหมายความว่าพวกเขาต้องการตัวฟ่านอวี้อย่างนั้นหรือ” อาจั่วเป็นคนฉลาดและอยู่กับฉินเย่จือมานาน นางจึงได้เห็นแผนการต่าง ๆ มามากมาย ยิ่งกว่านี้นางยังเคยเห็นเหตุการณ์รุนแรงและนองเลือดมากกว่านี้อีก
ด้วยท่าทีของกู้เสี่ยวหวาน อาจั่วก็เข้าใจได้ทันที
“ถูกต้อง ฟ่านอวี้เองก็ถือว่าเป็นครอบครัวของเรา พวกเขาไม่สามารถทำอะไรครอบครัวของเราได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไปทำร้ายครอบครัวฟ่าน ถ้าข้าเดาถูก ชายฉกรรจ์สองคนที่ทำร้ายพวกเขาจะต้องหนีไปแล้ว” กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้ว และแววตาไร้ซึ่งความปรานีก็ปรากฏขึ้นมา
เมื่อกลับมาที่โรงหมออีกครั้ง ฉือโถวก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมา เมื่อฟ่านหลิงที่รออยู่ด้านข้างเตียงของฉือโถวเห็นกู้เสี่ยวหวานกลับมา นางก็รีบเข้าไปไถ่ถามถึงสถานการณ์ของฟ่านอวี้
“เสี่ยวหวาน เจ้าหาเสี่ยวอวี้เจอหรือเปล่า” ฟ่านหลิงดึงแขนเสื้อของกู้เสี่ยวหวาน หากนางออกแรงมากกว่านี้ เกรงว่าอาจฉีกผ้าออกเป็นสองส่วนได้
ในตอนแรก ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความหวัง แต่เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานไม่ได้ตอบอะไร ใบหน้าของฟ่านหลิงก็แปรเปลี่ยนเป็นโศกเศร้าทันที “เสี่ยวหวาน ฮือ ๆๆ”
ฟ่านหลิงปิดปากพยายามกลั้นเสียงร้องไห้ของตัวเอง เพราะกลัวว่าจะรบกวนสามีของนางที่กำลังพักฟื้นอยู่ อย่างไรก็ตาม น้องชายของนางถูกลักพาตัวไป และตอนนี้ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง
เขาเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิต
หญิงสาวทั้งโศกเศร้าและเจ็บปวดไปในเวลาเดียวกัน
เมื่อเห็นนางร้องไห้ กู้เสี่ยวหวานก็รีบยื่นผ้าเช็ดหน้าในมือให้พลางปลอบโยน “พี่สะใภ้ไม่ต้องกังวล เมื่อครู่พวกข้าไปที่ศาลาว่าการแล้ว แต่เราไม่เห็นเสี่ยวอวี้ หมายความว่าเสี่ยวอวี้อาจจะยังอยู่กับเจ้าหน้าที่สองคนนั้น ท่านไม่ต้องกังวล รอเรากลับบ้านแล้วค่อยคุยเรื่องนี้กัน”
เมื่อนางกลับไปที่สวนกู้ ป้าจางที่เห็นฉือโถวในสภาพนั้นก็แทบจะเป็นลมล้มพับ และหลังจากฟังคำพูดของกู้เสี่ยวหวานที่บอกว่าฉือโถวจะฟื้นขึ้นระยะหนึ่ง และจะไม่มีปัญหาร้ายแรง ดังนั้นนางจึงรู้สึกโล่งใจ
ฟ่านต้าฉวีเองก็ออกจากบ้านตระกูลฟ่านไปที่สวนกู้เพื่อพบกับฟ่านหลิง และบอกว่าในวันนี้ฟ่านอวี้จะเข้าไปในเมืองเพื่อขายของ คำพูดของเขาทำให้กู้เสี่ยวหวานรู้สึกงุนงง
ฉินเย่จือเพิ่งจะกลับมาถึงบ้าน เมื่อได้ยินเรื่องของฉือโถวและฟ่านอวี้ เขาก็รู้สึกงงงวย “คนเหล่านั้นรังแกฟ่านอวี้ที่หน้าประตูร้านจิ่นฝูหรือ”
ตอนนี้ในห้องมีเพียงฉินเย่จือและกู้เสี่ยวหวานอยู่ พวกเขาจุดเทียนสองสามเล่มเพื่อให้แสงสว่าง “ข้าคิดว่ามันแปลกมาก ข้าได้ยินจากลุงฟ่านว่าวันนี้ฟ่านอวี้จะไปขายของในเมือง พูดตามเหตุผล เส้นทางที่เขาใช้ไม่ใช่ทิศทางเดียวกับร้านจิ่นฝู แล้วเขาจะไปร้านจิ่นฝูได้อย่างไร”
“บางทีเขาอาจถูกชายสองคนนั้นไล่ล่าและทำร้าย และการที่เขาไปร้านจิ่นฝูก็เพื่อขอความช่วยเหลือ” ฉินเย่จือขมวดคิ้วแน่น
นั่นไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
“อีกอย่าง ในวันนี้ข้ากับอาจั่วไปที่ศาลาว่าการ แต่กลับไม่มีใครอยู่ที่นั่นเลยนอกจากชายชราที่ดูแลนักโทษ” กู้เสี่ยวหวานยังเล่าถึงสิ่งที่เห็นในศาลาว่าการให้ฉินเย่จือฟัง
“ถ้าเจ้าเมืองคนใหม่ไม่มารับตำแหน่ง และเจ้าหน้าที่คุมขังเหล่านั้นไม่มีอะไรทำ แล้วทำไมเจ้าหน้าที่สองคนนั้นถึงอยู่ที่นั่นเมื่อฟ่านอวี้ถูกทำร้าย อีกทั้งยังพาตัวฟ่านอวี้ไป แต่กลับไม่ได้พาไปที่ศาลาว่าการ แล้วพวกเขาจะไปที่ไหนกัน” ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานดำขลับราวกับน้ำหมึก
ฉินเย่จือพยักหน้าพลางเคาะนิ้วบนโต๊ะเบา ๆ
หลังจากอยู่เคียงข้างฉินเย่จือมาเป็นเวลานาน กู้เสี่ยวหวานก็รู้โดยธรรมชาติว่านี่เป็นการกระทำที่ฉินเย่จือทำเพราะเขากำลังคิดเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ
กู้เสี่ยวหวานไม่เพียงแค่รอคำพูดของฉินเย่จือ แต่นางก็พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อคิดหาวิธีการตอบโต้
“เจ้าหน้าที่สองคนนั้นรู้จักกันหรือไม่” ฉินเย่จือถามกู้เสี่ยวหวาน
กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า “หนิงผิงจำพวกเขาได้ พวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ของศาลาว่าการ”
“ชายสองคนที่ทำร้ายเขาล่ะ”
“ไม่รู้สิ ข้าได้ยินคนพูดว่าสองคนนั้นเป็นคนแปลกหน้า เลยคิดว่าสองคนนั้นอาจจะมาจากเมืองอื่น พวกเขาบังเอิญไปซื้อของจากฟ่านอวี้ แต่พวกเขาบอกว่าฟ่านอวี้ขายของปลอมและบอกว่าฟ่านอวี้โกหก” เมื่อรวมกับสิ่งที่กู้หนิงผิงและผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ในตอนนั้นเล่าให้ฟัง ดูเหมือนว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ธรรมดาเสียแล้ว
“พี่เย่จือ ข้าสงสัยว่าคนเหล่านี้ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ครอบครัวฟ่าน” กู้เสี่ยวหวานแสดงความสงสัยของนาง “ข้าคิดว่าพวกเขากำลังมุ่งเป้ามาที่ครอบครัวกู้ของเรา”
ฉินเย่จือพยักหน้า “ถูกต้อง คนต่างถิ่นสองคนกล้าที่จะทำร้ายผู้คนในเมืองหลิวเจีย จึงแสดงให้เห็นว่าสองคนนั้นมีความมั่นใจมาก หรือไม่ก็ถูกโกงอย่างน่าสงสารจริง ๆ แต่ฟ่านอวี้คนนั้นซื่อสัตย์และซื่อตรงเหมือนกับฉือโถว เขาจะหลอกลวงผู้คนอย่างนั้นหรือ? ข้าไม่เชื่อหรอก!”
“ถ้าอย่างนั้นก็เหลือทางเดียวคือ คนต่างถิ่นสองคนนั้นรู้ว่า ไม่ว่าตีใครก็เชื่อว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดังนั้นจึงไม่กลัวใช่ไหม”
กู้เสี่ยวหวานเอ่ยถาม หากแต่หัวใจของนางเต้นระรัว หากเป็นกรณีนี้ ทุกอย่างจะกระจ่างแจ้ง
ในตอนนั้นเอง อาจั่วก็เดินเข้ามาจากข้างนอก และนำข่าวกลับมาบอกเพื่อให้พวกเขาตัดสินใจได้มากยิ่งขึ้น “คุณหนู ผู้ติดตามเซี่ยงกลับมาแล้ว และยังพาเจ้าหน้าที่ชุดเดิมของศาลาว่าการมาด้วย แต่เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนที่จับกุมฟ่านอวี้ไปยังไม่ปรากฏตัว อาโม่ยังคอยสังเกตการณ์ผู้ติดตามเซี่ยงคนนั้นอยู่ เขาดูมีความสุขมาก ดื่มเหล้าและร้องรำทำเพลงไปตลอดทาง
เจ้าหน้าที่จากศาลาว่าการสองคนยังไม่ปรากฏตัว ซึ่งหมายความว่าพวกเขายังคงมีคนอยู่ในกำมือ
เจ้าหน้าที่จากศาลาว่าการคนอื่น ๆ ทั้งหมดปรากฏตัวข้างหลังผู้ติดตามเซี่ยง ซึ่งหมายความว่าวันนี้การคาดเดาของนางถูกต้อง พวกเขารวมตัวกันและแม้แต่คนรับใช้ของศาลาว่าการสองคนนั้นก็ยังอยู่ที่นั่น
ตราบใดที่หาเจ้าหน้าที่ศาลาว่าการสองคนนั้นเจอก็สามารถหาฟ่านอวี้พบได้
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ฉินเย่จือและกู้เสี่ยวหวานก็มองหน้ากันและยิ้มราวกับว่าพวกเขาคิดหาวิธีที่ดีได้
“ง่วงหรือไม่ หรือพวกเราจะไปที่ศาลาว่าการกันดี” ฉินเย่จือหัวเราะเบา ๆ
………………………………………………….