ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1350 เอาคืน
บทที่ 1350 เอาคืน
(Content Warning : นิยายเรื่องมีเนื้อหาเกี่ยวกับ Incest มีการบรรยายถึงความสัมพันธ์เชิงชู้สาวระหว่างเครือญาติหรือสายเลือดเดียวกัน)
จ้าวจื่อเจี๋ยจับแขนของหญิงสาวมาแนบแก้มของเขา อย่างน้อยฝ่ามือเย็นเฉียบก็ทำให้ร่างกายของเขารู้สึกเย็นขึ้นเล็กน้อย
แต่แค่นั้นจะไปพอได้อย่างไร?
จ้าวจื่อเจี๋ยพึมพำด้วยความไม่พอใจ จากนั้นดึงจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์เข้าสู่อ้อมแขนของเขา จากนั้นพลิกตัวแล้วกดจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ให้อยู่ใต้ร่างของตนเองราวกับลืมความเจ็บปวดไปหมดสิ้น
ใบหน้าของจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์แดงก่ำ ดวงตาพร่ามัว ตอนนี้นางรู้สึกถึงความกระตือรือร้นและความต้องการอะไรบางอย่าง หากแต่นางไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไร
ครั้นลมหายใจร้อนแผ่วของจ้าวจื่อเจี๋ยพ่นรดจมูกของนาง จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ก็รู้สึกราวกับว่าความอบอุ่นแล่นผ่านร่างกายของนาง ร่างกายสั่นสะท้าน ทำให้เกิดความรู้สึกพึงพอใจราวกับถูกเติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหายไป นางเผลอหลุดเสียงครวญครางออกมา แต่เพียงแค่ส่งเสียงออกมา นางพลันรู้สึกพึงพอใจยิ่งนัก
การกระทำทั้งหมดก็ทำให้ร่างกายที่ร้อนรุ่มของนางรู้สึกดีขึ้น ทว่ามันก็ยังไม่เพียงพอ นางต้องการรู้สึกมากกว่านี้
สัญชาตญาณทำให้นางพยุงร่างขึ้นโดยเลียนแบบท่าทางของจ้าวจื่อเจี๋ย พลางยกแขนโอบรอบคอของจ้าวจื่อเจี๋ย แล้วกดศีรษะของเขาลงมาประกบจูบ
ตอนนี้ดูเหมือนจะเกิดความวุ่นวายขึ้น
บรรยากาศข้างนอกเงียบสงบ ไม่มีใครกล้าเหยียบย่ำเข้ามารบกวน และทั้งสองก็ดูเหมือนดื่มด่ำอยู่ในความอบอุ่น จึงไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวที่ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ
คนกลุ่มใหญ่กำลังมุ่งหน้ามาทางลานบ้านของจ้าวจื่อเจี๋ย
ผู้นำของคนกลุ่มใหญ่นั้นคือฮูหยินจ้าวอย่างไม่ต้องสงสัย นางเชิดหน้าขึ้นด้วยความภาคภูมิใจท่างกลางฝูงชน โดยมีจานหงอวี้เดินตามมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล
ฮูหยินจ้าวเกลียดจ้าวจื่อเจี๋ยยิ่งนัก เขาปล่อยให้คนอย่างจานหงอวี้ผู้ที่มีชื่อเสียงแปดเปื้อนเข้าออกบ้านตระกูลจ้าวได้อย่างไร สิ่งนี้ถือเป็นความอัปยศอย่างยิ่งสำหรับบ้านตระกูลจ้าว
วันนี้นางต้องคุยกับจ้าวจื่อเจี๋ยให้รู้เรื่อง ศักดิ์ศรีครึ่งหนึ่งของตระกูลจ้าวถูกทำลายไป มันจะเป็นไปได้หรือไม่ที่ศักดิ์ศรีที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งกำลังจะหายไป
ถ้าหากว่าวันนี้นางไม่ว่างและไม่ได้เดินเล่นอยู่ภายในลานบ้านตนเอง เช่นนั้นนางก็คงไม่รู้จริง ๆ ว่าจานหงอวี้อยู่ที่นี่
นางจะปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ครั้นเดินมาถึงลานบ้านของจ้าวจื่อเจี๋ย ยังไม่ทันที่จะได้ผลักประตูบานนั้นเปิดเข้าไป ทุกคนก็ได้ยินเสียงครวญครางอย่างสุขสมดังออกมา
“อ่า… อืม… อ๊า…!”
เป็นเสียงครวญครางของหญิงคนหนึ่ง
สีหน้าของฮูหยินจ้าวมืดลงในทันใด และสัญชาตญาณทำให้นางนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นภายในห้องนั้นทันที ในขณะที่ประตูถูกผลักเปิดอย่างรวดเร็ว เหล่าสาวใช้ที่ล้อมรอบตัวฮูหยินเมื่อครู่พลันรีบเดินเข้าไปข้างใน แต่ทันใดนั้น สาวใช้ก็ต้องส่งเสียงร้องลั่น “ไอ๊หยา!”
จ้าวจื่อเจี๋ยกำลังนอนเปลือยกายอยู่บนเตียงโดยไร้ผ้าพันแผล ใต้ร่างมีหญิงสาวนางหนึ่งนอนเปลือยกายทอดร่างอยู่ใต้ร่างของเขา เมื่อมองใกล้ ๆ ก็พบว่าเป็น…จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์?!
ร่างกายของสองเกี่ยวกันแน่นราวกับเถาวัลย์
ดวงตาของฮูหยินจ้าวพลันเบิกกว้างในทันใด นางมองฉากนี้ด้วยความไม่เชื่อ
ทว่าชายหญิงบนเตียงเพิ่งจะรู้สึกว่ามีคนบุกรุกเข้ามาในห้อง หากแต่พวกเขายังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใด ๆ ทั้งยังหันไปมองตนตอของเสียง ทำให้เห็นดวงตาอันเต็มไปด้วยกามรมณ์
คนรับใช้บางคนรู้สึกเขินอายกับภาพตรงหน้า จึงรีบหันหลังหนีไม่กล้ามองอีกต่อไป หากแต่ยังมีบางส่วนกล้าเบิกตามองภาพตรงหน้าด้วยความสนใจ นี่มันคือการแสดงที่หาชมได้ยากยิ่งนัก!
นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างสองคนนี้คืออะไร?
เหอะ ๆ!
สองพี่น้องคู่นี้ ช่างไร้ยางอายเสียจริง!
ดวงตาของจ้าวอวิ๋นเอ๋อร์พร่ามัวและนางก็ยังไม่ได้สติ จนกระทั่งมีลมกระโชกแรงพัดเข้ามาทางประตูและหน้าต่างที่ถูกเปิดทิ้งไว้
ทันใดนั้น นางก็เห็นผู้คนมากมายยืนอยู่ข้างเตียงและต้องมองมาที่ร่างกายของตนเองอย่างหยาบโลน นางสัมผัสได้เพียงความเย็นที่เข้ามาปะทะร่าง จากนั้นก็กรีดร้องลั่น
ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้า กระโปรงตัวสวยถูกถกขึ้นมาจนถึงเอว เผยให้เห็นร่างกายส่วนล่างที่ไม่ควรเปิดเผย ผมเผ้าที่เคยหวีอย่างพิถีพิถันสยายยาวปกคลุมหน้าอกอวบอิ่ม อย่างน้อยก็ช่วยปกปิดส่วนขาวเนียนจากสายตาผู้คนได้บ้าง แต่ถึงจะปกปิดอย่างไรก็มีมือใหญ่คู่หนึ่งกอบกุมเอาไว้เต็มมือ ท่าทางตอนนี้ทำให้นางรู้สึกละอายใจ หากแต่ก็รู้สึกพึงพอใจกับสัมผัสที่ได้รับ
ความรู้สึกที่มาจากภายนอกร่างกายทำให้จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์รู้สึกเหมือนกำลังถูกสัมผัสด้วยบางสิ่งที่ร้อนจัด ความรู้สึกนี้ทำให้จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์แทบล้อมละลาย ในขณะนั้นจิตใจของนางก็โล่งขึ้น หญิงสาวมองการกระทำของตัวเองและจ้าวจื่อเจี๋ยด้วยความประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่านางกำลังถูกกดขี่อยู่บนเตียง
จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ไม่สามารถแก้ตัวอะไรได้ นางรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดเพื่อผลักจ้าวจื่อเจี๋ยที่กำลังคร่อมร่างกายของนางออกไป จากนั้นรีบคว้าผ้านวมมาคลุมร่างและกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง
“ท่านพี่ ท่านกำลังทำอะไร?”
จ้าวจื่อเจี๋ยได้สติขึ้นมาทันที สายตาจับจ้องไปที่จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ ทันใดนั้นก็ตะโกนขึ้นราวกับเห็นผี “เราถูกจัดฉาก เราถูกจัดฉาก”
“ถูกจัดฉากหรือ” ฮูหยินจ้าวฟื้นจากอาการตกใจเช่นกัน และตะโกนด้วยความโกรธเคือง หากแต่ก็มีความสุขมากในเวลาเดียวกัน
นางโกรธมากที่คนไร้ยางอายสองคนนี้ทำให้ตระกูลจ้าวเสียหน้าต่อหน้าผู้คนมากมาย การกระทำนี้ช่างน่าเกลียดจริง ๆ
แต่เรื่องที่ที่น่ายินดีคือ หากนายท่านรู้ว่าสองคนนี้ทำอะไรกัน เขาไม่มีทางไว้ชีวิตสองคนนี้แน่ ๆ
แม้ว่าจะมีการกล่าวว่าตระกูลจ้าวเสียหน้าจากเหตุการณ์นี้ แต่ก็เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ที่ชงเอ๋อร์จะสามารถใช้สิ่งนี้เพื่อกำจัดคู่ต่อสู้เรื่องทรัพย์สินของครอบครัว
ฮูหยินจ้าวรู้สึกมีความสุขอยู่ในใจ ทว่าใบหน้าของนางกลับแสร้งทำเป็นเคร่งขรึมพลางกล่าวว่า “เจ้าสารเลวสองคนกำลังให้ตระกูลจ้าวเสื่อมเสีย ข้าต้องรายงานเรื่องนี้กับนายท่าน เพื่อให้เขาดูว่าลูกของเขาทำอะไรลับหลังตนเอง”
ตอนนี้จ้าวจื่อเจี๋ยหวาดกลัวมาก แต่จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์หวาดกลัวมากกว่าเขาเสียอีก
เรื่องน่าอับอายนี้เกิดขึ้นแล้ว และในฐานะเหยื่อ นางคือคนที่ต้องทนทุกข์ทรมานมากที่สุด
“ท่านแม่ ท่านแม่” จู่ ๆ จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ก็คุกเข่าลงทั้งน้ำตา “ท่านแม่ ข้าถูกใส่ร้าย ข้ายังบริสุทธิ์”
จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ไม่เคยเรียกฮูหยินจ้าวว่าแม่ แต่คราวนี้เพื่ออนาคตของนางเอง จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์จึงเรียกอีกฝ่ายว่าแม่ โดยหวังว่าฮูหยินจ้าวจะยกโทษให้ตนเอง
“เป็นนาง นางอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก พี่ชายของข้าและข้าเป็นคนบริสุทธิ์ เราไม่ได้ทำอะไรเลย” จ้าวอวิ๋นเอ๋อร์ร้องไห้อย่างเจ็บปวดพลางชี้นิ้วไปทางจานหงอวี้ที่อยู่ด้านข้างฮูหยินจ้าว ดวงตาของนางคุกรุ่นไปด้วยไฟแห่งความโกรธ ในขณะนี้นางต้องการที่จะฆ่าจ้าวจื่อเจี๋ยและจานหงอวี้ให้ตายตกไปเสีย