ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1355 ขอแต่งงาน
บทที่ 1355 ขอแต่งงาน
เนื่องจากกู้เสี่ยวหวานไม่มีพ่อแม่ กู้ฟางสี่ในฐานะท่านอาของนางจึงต้องการตัดสินใจแทนกู้เสี่ยวหวานโดยธรรมชาติ
เมื่อดูฤกษ์ดีที่ฉินเย่จือใช้เวลาหาในพริบตาหลังจากขอแต่งงาน กู้ฟางสี่ก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย
“เสี่ยวหวานเป็นลูกคนแรกของกู้ฉวนฟู่ แม้ว่าจะเป็นแค่งานหมั้น ไม่ใช่การแต่งงานอย่างเป็นทางการ แต่ยังเหลือเวลาอีกห้าวัน มันเร่งรีบเกินไปและข้ายังไม่ได้เตรียมอะไรเลย”
คิ้วของกู้ฟางสี่ขมวดเข้าหากัน เมื่อมองไปที่กระดาษสีแดงสดที่มีตัวอักษรตัวใหญ่สองสามตัวเขียนไว้ วันที่ 9 เดือน 7 เหมาะสำหรับการแต่งงาน
นี่เหลืออีกแค่ห้าวันไม่ใช่หรือ?
ยังไม่ได้เตรียมอะไรเลย แล้วจะจัดงานหมั้นได้อย่างไร?
กู้เสี่ยวหวานเป็นลูกคนแรกของพี่รอง และตอนนี้นางเป็นเสี้ยนจู่ หากนางทำการหมั้นอย่างเร่งรีบ หากนางตายและไปเจอท่านพี่รองและพี่สะใภ้ในอนาคต พวกเขาจะต้องโทษตัวเองอย่างแน่นอน
ไม่ ไม่มีทาง เร็วขนาดนั้นไม่ได้
“ข้าควรขอให้ท่านอาจารย์คำนวณดูว่าในเดือนหน้าจะมีฤกษ์ดีหรือไม่ ในกรณีนี้เราก็จะมีเวลาเพียงพอในการเตรียมตัว” ป้าจางที่อยู่ด้านข้างก็ขมวดคิ้วเอ่ยขึ้น
หากหมั้นกันหลังจากนี้ห้าวัน ถ้าอย่างนั้นการแต่งงานครั้งนี้ต้องหยาบคายมาก
อย่าพูดว่าเขาคู่ควรกับเสี้ยนจู่หรือไม่ แต่เขาจะคู่ควรกับกู้เสี่ยวหวานได้อย่างไร
ไม่ ตอนนี้กู้เสี่ยวหวานตกลงที่จะหมั้นแล้ว นางคงอายเกินกว่าจะพูดออกมาในฐานะครอบครัว นางต้องต่อสู้เพื่อเสี่ยวหวาน
ป้าจางและกู้ฟางสี่เห็นตรงกันว่าต้องการเลื่อนเวลาออกไปอีกเล็กน้อยเพื่อที่พวกนางจะได้จัดการอย่างระมัดระวัง และทำให้งานหมั้นของกู้เสี่ยวหวานเป็นไปได้อย่างสวยงาม
“ท่านอา ท่านป้า ข้าไม่สนใจเรื่องอื่น ข้าไม่สนว่าจะยิ่งใหญ่หรือไม่ อย่างไรมันก็แค่งานหมั้นเท่านั้น เมื่อถึงเวลา ทั้งครอบครัวจะมารวมตัวและรับประทานอาหารร่วมกัน นั่นก็จะถือว่าเป็นการหมั้นหมายแล้ว” กู้เสี่ยวหวานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ในชาติที่แล้วเมื่อชายหญิงได้หมั้นกัน ทั้งสองตระกูลของชายหญิงจะมารวมตัวกันเพื่อรับประทานอาหารและทำความรู้จักกับญาติของอีกฝ่าย ซึ่งเป็นการประกาศให้ทุกคนรู้ว่าทั้งสองหมั้นกันอย่างถูกกฎหมาย
ดังนั้นกู้เสี่ยวหวานจึงไม่คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
ใครจะไปรู้ว่าเมื่อนางพูดจบ สามเสียงก็พูดขึ้นพร้อมกันว่าจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร?
ป้าจางพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ “เสี่ยวหวาน การหมั้นครั้งนี้ก็เหมือนกับการแต่งงานและไม่ควรละเลย”
“ถูกต้อง เสี่ยวหวาน ท่านป้าของเจ้าพูดถูก ถึงเจ้าจะไม่สนใจ แต่ข้าเป็นห่วง ไม่ว่าอย่างไรข้าอยากให้เจ้ามีงานหมั้นที่สมเกียรติ” นี่คือสิ่งที่กู้ฟางสี่พูด
เสียงทุ้มอีกเสียงเป็นของฉินเย่จือ เขายืนอยู่ข้างกู้เสี่ยวหวาน หลังจากฟังคำพูดของกู้เสี่ยวหวาน เขาก็กุมมือนางเบา ๆ และไม่อายที่จะสัมผัสใกล้ชิดกับกู้เสี่ยวหวานต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสอง
ฉินเย่จือจับมือกู้เสี่ยวหวานอย่างแผ่วเบา เขามองนางตั้งแต่พวกเขาสองคนเข้ามา นอกจากการพูดคุยกับกู้ฟางสี่และป้าจาง ดวงตาของเขาไม่เคยละจากกู้เสี่ยวหวานเลย
ก่อนที่เขาจะพูด เขามองเห็นถึงความกังวลของกู้ฟางสี่และป้าจาง
ใช่แล้ว ฤกษ์นี้เร็วเกินไป
เหลือเวลาอีกเพียงห้าวัน หากเริ่มเตรียมการตั้งแต่ตอนนี้ พิธีหมั้นจะเรียบง่ายมากอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เพื่อวันนี้ เขาจะเริ่มเตรียมตัวตอนนี้ได้อย่างไร?
“ท่านอากับท่านป้าไม่ต้องห่วง ข้าเตรียมงานหมั้นไว้ให้หมดแล้ว พวกท่านไม่ต้องเตรียมอะไรมาก ไม่ต้องห่วง ขอให้วันฤกษ์ดีมาถึง แค่สัญญากับข้าและหวานเอ๋อร์” ใบหน้าฉินเย่จือเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขารอวันนี้มานานมากแล้ว
“ท่านกำลังพูดถึงเรื่องไร้สาระอะไรอยู่” กู้เสี่ยวหวานหน้าแดงอย่างเขินอายเมื่อได้ยินสิ่งนี้และก้มศีรษะของนางลงด้วยสีหน้าเขินอาย
“ไม่จำเป็นต้องเตรียมอะไรเลย แล้วจะจัดงานได้อย่างไร” ป้าจางและกู้ฟางสี่มองหน้ากันด้วยสีหน้างุนงง
ทุกอย่างพร้อมแล้ว
“ใช่แล้ว ข้ายังไม่ได้ทำชุดแต่งงานและรองเท้าที่เสี่ยวหวานจะใส่ในวันนั้น และมันจะใช้เวลามากกว่าหนึ่งหรือสองวัน” กู้ฟางสี่เต็มไปด้วยความกังวล
“สำหรับชุดแต่งงาน ข้าก็เตรียมพร้อมไว้แล้วเช่นกัน” ฉินเย่จือพูดอย่างใจเย็น “ของขวัญ สินสอดทองหมั้น ชุดแต่งงาน ทุกสิ่งที่จำเป็นทั้งหมดนั้น ข้าเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว”
“ชุดแต่งงานพร้อมแล้ว?” กู้เสี่ยวหวานงุนงง “ท่านรู้สัดส่วนของข้าได้อย่างไร”
กู้เสี่ยวหวานเอ่ยปากถาม ทว่าทันใดนั้น ราวกับว่านางคิดอะไรบางอย่างได้ นางจึงถามขึ้นว่า “ชุดสีขาวที่ข้าเพิ่งทำ ท่านเอาไปใช่หรือเปล่า”
ฉินเย่จือพยักหน้าด้วยความเสน่หา
กู้เสี่ยวหวานถอนหายใจอย่างเย็นชาและมองอาจั่วที่อยู่ข้าง ๆ “ดี… ดี… เกลือเป็นหนอนจริง ๆ ข้าบอกว่าข้าอยากใส่เสื้อผ้า แต่เจ้าเกลี้ยกล่อมให้ข้าเก็บมันไว้ กลายเป็นว่าพวกเจ้าสองคนร่วมมือกันหลอกข้า เมื่อกลับไปมา ดูว่าข้าจัดการกับเจ้าอย่างไร”
กู้เสี่ยวหวานพูดด้วยรอยยิ้มและสาปแช่ง หากแต่แววตากลับเต็มไปด้วยความสุข
อาจั่วปิดปากของนาง แสดงท่าทางเหมือนจะกลัว แต่คิ้วและตาของนางเลิกขึ้น ทำให้รู้ว่านางกำลังมีความสุข
คุณหนู… ท่านยังไม่รู้ว่าใครเกลือเป็นหนอน
ข้าหวังว่าทานจะไม่ตำหนิข้าอีกในอนาคต
“อย่าโทษนางเลย ข้าขอให้นางเอามันมาเอง” ฉินเย่จือพูดอย่างเคอะเขิน “ข้าเอาชุดแต่งงานมาแล้ว และตอนนี้มันอยู่ในห้องของเจ้า เจ้าอยากลองไปดูไหม”
“จริงหรือ” กู้เสี่ยวหวานดูไม่เชื่อ
อย่างไรก็ตาม ในใจมีความรู้สึกว่าตนเองกำลังถูกหลอก ราวกับว่ากลัวจะถูกฉินเย่จือหลอกอีกครั้ง
“อืม เจ้าลองกลับไปดูสิ ข้าจะคุยกับท่านป้าและท่านอาต่ออีกสักหน่อย” ฉินเย่จือพูดด้วยรอยยิ้ม และอาจั่วที่อยู่ข้าง ๆ รีบพากู้เสี่ยวหวานกลับไปที่ห้อง
ตอนนี้เหลือเพียงฉินเย่จือและคนอื่น ๆ อยู่ในห้อง
“ท่านอา ท่านป้า ข้าต้องการแต่งงานกับเสี่ยวหวานของตระกูลกู้อย่างจริงใจ ขอให้ท่านอาและท่านป้ายินยอม” หลังจากพูดแบบนี้ ฉินเย่จือก็สะบัดเสื้อคลุมและคุกเข่าลงบนพื้น
ทันทีที่เขาคุกเข่า อาโม่ที่อยู่ข้างหลังเขาก็เบิกตากว้างด้วยสีหน้าไม่เชื่อ
อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงคนนั้นไม่มีพ่อแม่ ตอนนี้กู้ฟางสี่และป้าจางจึงเป็นญาติผู้ใหญ่ของกู้เสี่ยวหวาน ถ้าเขาต้องการแต่งงานกับกู้เสี่ยวหวาน เขาจึงต้องไปสู่ขอนางจากกู้ฟางสี่และป้าจาง