ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1378 เจ้าสมควรได้รับมัน
บทที่ 1378 เจ้าสมควรได้รับมัน
เมื่อใต้เท้าจ้าวได้ยินก็ตะลึงราวกับว่าไม่เชื่อคำพูดของจานหงอวี้ แต่เมื่อเห็นว่าจ้าวสวิ่นและฮูหยินจ้าวไม่พูดอะไรสักคำ พวกเขาดูละอายใจและโกรธเคือง ใต้เท้าจ้าวจึงเชื่ออย่างไม่มีเงื่อนไข
“ใต้เท้า ในวันนี้ข้าถูกไล่ฆ่าและบังเอิญเข้าไปในบ้านทรุดโทรมหลังนั้น ด้านในมีคุณชายรองและคุณหนูตระกูลจ้าวกำลังทำเรื่องไร้ยางอาย ข้าเห็นมันกับตาตนเอง ไม่ใช่แค่ข้า ใต้เท้า ท่านลองถามผู้คนที่อยู่ตรงนั้นดูสิว่ามีคนเห็นกี่คน”
จานหงอวี้กล่าวเสียงดังกึกก้อง
จากนั้นก็ได้ยินเสียงซุบซิบมาจากคนรอบข้าง “ใต้เท้า สิ่งที่นางพูดไม่ผิด ทั้งหมดเป็นความจริงพวกข้าเห็นสภาพเตียงยับเยิน คุณหนูจ้าวและคุณชายรองทำเรื่องแบบนั้นจริง ๆ”
ตู้ม!
หัวใจของจ้าวสวิ่นราวกับถูกวางระเบิด
“ใต้เท้า พวกข้าเป็นคนไร้การศึกษา มันเป็นความผิดของพวกข้า พวกเขาต้องถูกคนอื่นยุยงทำให้เกิดความสับสนและทำเรื่องผิดมหันต์ ใต้เท้า ท่านต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบและให้ความยุติธรรมแก่ตระกูลจ้าว” จ้าวสวิ่นดูใบหน้ายับย่นเหมือนกับแก่ลงไปสิบปีในทันที
“จานหงอวี้ เจ้าหนีไปไหนไม่หนี แต่กลับหนีไปที่บ้านร้างหลังนั้น ข้าอยากถามเจ้าว่าทำไมถึงไม่วิ่งไปยังที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน แต่เจ้ากลับไปที่นั่น เจ้าไม่คิดว่ามันน่าสงสัยหรือ” ฮูหยินจ้าวไม่ใช่คนโง่ และเอ่ยสิ่งนี้ออกมาหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง
“น่าสงสัยหรือ” จานหงอวี้เย้ยหยัน “ฮูหยินจ้าว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้เห็นสิ่งน่ารังเกียจที่คุณชายรองและคุณหนูทำ พวกเราเคยอยู่ในบ้านตระกูลจ้าวมาก่อนจะไม่เคยเห็นสิ่งนี้ได้อย่างไร นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาสองพี่น้องถูกขัดจังหวะ ใครจะรู้เล่าว่าพวกเขาจะไปที่ไหนและทำอะไร ท่านคงไม่คิดว่าพวกเราจะวิ่งไปที่นั่น อย่างนั้นข้าก็อยากจะถามฮูหยินว่าทำไมพวกเขาถึงไปที่นั่นล่ะ ถ้าฮูหยินให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลแก่ข้าได้ ข้าก็จะให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลแก่ฮูหยินด้วยเช่นกัน”
คำพูดของจานหงอวี้เต็มไปด้วยความเย้ยหยันและผลักไสทุกอย่างให้ตระกูลเจ้า ครั้นฮูหยินจ้าวได้ยินก็โกรธมากจนแทบจะล้มลง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณชายรองและคุณหนูตระกูลจ้าวเคยทำเรื่องบัดสีมาก่อน
ตอนนี้ผู้คนรอบด้านเหมือนหม้อน้ำมันที่กำลังเดือดปะทุ บางส่วนที่คิดว่าพวกเขารู้อะไรบางอย่างจึงรีบกระซิบบอกเรื่องนี้กับคนข้าง ๆ “พวกเจ้าไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่จานหงอวี้พูดนั้นเป็นความจริง”
“ทำไมถึงมีสิ่งน่ารังเกียจเช่นนี้ในตระกูลสูงเช่นนี้” ผู้รอบด้านเริ่มรู้สึกตื่นเต้น
“ญาติห่าง ๆ ของข้าทำงานในบ้านตระกูลจ้าว นางเคยเห็นด้วยตาตนเองว่าสองพี่น้องคู่นั้นเคยนัวเนียกันอยู่ในห้อง ข้าได้ยินมาว่าเรื่องของคุณชายรองตระกูลจ้าวมีคนเห็นมากมาย และความลับนั้นยังแพร่งพรายออกมา”
มันเป็นเรื่องบนเตียงระหว่างสามีและภรรยา หากมีคนนำเรื่องนี้มาพูดสนุกปากก็คงจะรู้สึกละอายใจไม่น้อย นอกจากนนี้ทั้งสองยังเป็นชายหญิงที่ยังไม่แต่งงาน อีกทั้งยังเป็นสายเลือดเดียวกัน เมื่อมีคนพูดออกมาเช่นนี้ สีหน้าของจ้าวสวิ่นและฮูหยินจ้าวก็เปลี่ยนไป
“ไร้สาระ ไร้สาระ” ใบหน้าของจ้าวสวิ่นแดงก่ำราวกับลูกหยางเหมย ทั้งสองเป็นลูกของเขา ทว่าตอนนี้กลับกระทำการน่ารังเกียจและยังถูกผู้อื่นล่วงรู้ เกียรติของตระกูลจ้าวกำลังจะพังลง หากแต่จ้าวสวิ่นก็คือจ้าวสวิ่น ในเมืองหลิวเจียนี้ เขายังคงต้องการเกียรติและชื่อเสียง
“นายท่านจ้าว เหตุใดท่านถึงไม่เต็มใจที่จะยอมรับว่าลูกชายและลูกสาวของท่านได้ทำสิ่งที่น่ารังเกียจเช่นนี้ เรื่องนี้สามารถพิสูจน์ได้ ลูกสาวของท่านไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์อีกต่อไป” จานหงอวี้โพล่งออกมาอย่างไม่สนใจผู้ใด
จ้าวสวิ่นหันศีรษะขวับไปมองอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว และจ้องมองจานหงอวี้อย่างดุดัน ดวงตาของเขาราวกับอาบยาพิษและต้องการปลิดชีพจานหงอวี้ทุกเมื่อ
อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีคำพูดใด ๆ มาหักล้างคำพูดของจานหงอวี้
เมื่อครู่ฮูหยินพูดใส่หูเขา ความจริงก็คือความจริง ไม่มีผู้ใดสามารถเปลี่ยนแปลงได้
ครั้นเห็นว่าจ้าวสวิ่นไม่มีการโต้แย้ง จานหงอวี้จึงพูดต่อไปด้วยความโกรธเกรี้ยว นิ้วเรียวยาวชี้ไปยังชายฉกรรจ์ที่ถูกจับด้วยความเศร้าสร้อย “ใต้เท้า ข้าคือหญิงที่เคยแต่งงานแล้ว สามีของข้าจากไปเพราะโรคร้าย ทำให้ข้าใช้ชีวิตอยู่เป็นแม่ม่ายมาหลายปี แต่ข้าก็รักษาชื่อเสียงของตนเองเสมอ แต่ลูกชายคนรองของตระกูลจ้าวมาเกี้ยวข้า ทำให้ข้าเสียการควบคุมไปชั่วขณะและเผลอมีความสัมพันธ์ทางกายกับจ้าวจื่อเจี๋ย ดังนั้นข้าจึงตั้งท้องเด็กผู้น่าสงสาร อย่างไรก็ตาม คนในตระกูลจ้าวต่างดูถูกข้าที่เป็นม่าย และปฏิเสธไม่ให้ข้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวตระกูลจ้าวอย่างเด็ดขาด ต้องการแม้กระทั่งฆ่าข้า ท่านใต้เท้าต้องตัดสินความอย่างยุติธรรมเพื่อข้า”
“จานซื่อ เจ้าอย่าได้พูดไร้สาระ รักษาชื่อเสียงของตนเองงั้นหรือ หึ” ครั้นฮูหยิบจ้าวได้ยินจานหงอวี้บอกว่านางปฏิบัติตัวอย่างดี และคำกล่าวหาที่ว่าตระกูลจ้าวทำสิ่งเลวร้ายทั้งหมดได้กระตุ้นโทสะของฮูหยินจ้าว นางก้าวไปด้านหน้า จากนั้นยกมือฟาดใบหน้าของจานหงอวี้จนมีเลือดไหลซิบออกมา
“จานหงอวี้ สามีของเจ้าเสียชีวิตด้วยอาการป่วยหรือเขาโกรธเจ้าจนตาย ทุกคนรู้ดีว่ามีผู้ชายกี่คนในเมืองนี้ที่มีความสัมพันธ์กับเจ้า ยังมีหน้ามาบอกอีกว่าคุณชายรองตระกูลจ้าวล่อลวงเจ้า เห็นได้ชัดว่าเจ้าที่ไม่มีศีลธรรมและมาล่อลวงคุณชายรองตระกูลจ้าว” ฮูหยินจ้าวชี้ไปที่จานหงอวี้อย่างโกรธเคือง
ใบหน้าของจานหงอวี้หันไปทางหนึ่ง มุมปากมีเลือดไหลซึมออกมาและส่งร้องโหยหวน “ใต้เท้า นางใส่ร้ายข้า คนจากตระกูลจ้าวล้วนไร้ค่า นายท่านเองก็มีนางบำเรอนอกบ้านมาหลายปี เมื่อไม่ต้องการก็เขี่ยนางทิ้ง ส่วนคุณชายรองตระกูลจ้าวไม่ยอมรับว่าลอบมีความสัมพันธ์กับน้องสาวตนเอง ใต้เท้า ท่านก็ได้ยินชัดเจนแล้วว่าตระกูลจ้าวซุกเรื่องสกปรกไว้มากแต่ไหน” จานหงอวี้มีวาทศิลป์เป็นเลิศ
ทุกคนต่างรู้สึกประทับใจกับคำพูดของจานหงอวี้ยิ่งนัก
พวกเขาทั้งหมดจ้องมองจ้าวสวิ่นด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
จ้าวสวิ่นมองสบทุกสายตา ทุกสายตาล้วนเต็มไปด้วยการเสียดสีและการดูถูกที่เขาสมควรได้รับ