ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1414 เก้าสิบเก้าอักษรมงคลแห่งความโชคดี
กู้เสี่ยวหวานเห็นท่าทางเศร้าหมองของหลี่ฝานก็รีบปรบมือและพูดว่า “ลุงหลี่ ท่านอย่าเศร้าไปเลย พวกเราเป็นคนธรรมดา ไม่คุ้มที่จะทำเรื่องแบบนี้ คนผู้นั้นคือหมิงอ๋อง อย่าพูดถึงคนที่พยายามประจบสอพลอหมิงอ๋องเลย เกรงว่าบางคนแม้เป็นคนธรรมดาก็ต้องการใช้ข้ออ้างนี้เพื่อพบหมิงอ๋อง” กู้เสี่ยวหวานพูดด้วยรอยยิ้ม
เหมือนดูลิง คนไม่เคยเห็นลิง เจ้าไม่ไปดูหรือ
นอกจากนี้ เขาไม่ได้เสียหายอะไร กินข้าวหนึ่งมื้อ ถ้าพบท่านอ๋องถือว่าเป็นกำไร ถ้าไม่พบก็ไม่เป็นไร อย่างไรเสียก็กินอาหารในร้านของท่านอ๋องสักมื้อ ไม่ใช่เกียรติที่ทุกคนจะสามารถมีได้
หลี่ฝานได้ยินคำพูดของกู้เสี่ยวหวานแล้วก็คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน “คงจะไม่ใช่เช่นนั้น เขาต้องหาเงิน จึงต้องปรากฏตัวในวงสังคม อาหารไม่อร่อยก็ไม่พูด ราคาก็แพงปานนั้น…”
หลี่ฝานไม่ได้พูดต่อ กู้เสี่ยวหวานยิ้มอย่างเข้าใจและพยักหน้ารับรู้
กำแพงมีหู ประตูมีช่อง พูดถึงท่านอ๋อง ถือเป็นโทษร้ายแรง
“ลุงหลี่ อาหารของเขามีเยอะกว่าของเราไหม” กู้เสี่ยวหวานถามซ้ำอีกครั้ง กิจการไม่ดีและไม่สามารถขัดแข้งขัดขาคนอื่นได้ อยากหาสถานที่ที่ไม่มีคนและชกเขาสักหมัด “เยอะกว่า พอเราออกอาหารจานใหม่ ๆ ทางเขาก็ออกอาหารแบบนั้นเหมือนกัน แขกมาที่นี่เพื่อลองชิมอาหารจานใหม่ของเรา จากนั้นก็จะไปรายงานที่ซุ่ยอวี้กู่ไจ” หลี่ฝานยิ้มออกมาแล้วพูดอย่างหมดหนทาง
“จริงหรือ” กู้เสี่ยวหวานยิ้มเยาะ จากนั้นมองไปที่หลี่ฝานแล้วพูดว่า “ทำไมเราไม่ทำอาหารเพิ่มอีกสักสองสามอย่าง ให้พวกเขาไม่รู้ว่าทำอย่างไร อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ไม่รู้วิธีการทำของเรา”
กู้เสี่ยวหวานพูดให้เข้าใจ เพราะในใจมีวิธีทำอาหารหลายอย่าง
ครั้นหลี่ฝานได้ยิน ใบหน้าก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง “เสี่ยวหวาน เจ้ามีอาหารจานใหม่หรือ”
กู้เสี่ยวหวานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พวกเราเปิดกิจการ มักจะอิจฉาคนอื่นที่เหมือนเราที่สุดไม่ใช่หรือ และกลัวคนอื่นมาขโมยความคิดของเรา เราต้องทำออกมาให้พวกเขาไม่รู้ว่าวัตถุดิบคืออะไร ทำให้พวกเขาไม่สามารถหาทางลอกเลียนแบบได้”
ถ้าเอาชนะด้วยอาหาร อย่างน้อยในช่วงเวลาสั้น ๆ ก็สามารถเอาชนะซุ่ยอวี้กู่ไจได้
ยิ่งไปกว่านั้น ได้ยินมาว่าอาหารในซุ่ยอวี้กู่ไจไม่อร่อย ทุกคนกินอาหารที่ซุ่ยอวี้กู่ไจเพื่อไปหาหมิงอ๋อง แต่อาหารเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกินสามมื้อต่อวันเพียงเพื่อพบกับหมิงอ๋อง ที่ทำไปนั้นล้วนทำลายกระเพาะอาหารตัวเอง
กู้เสี่ยวหวานทำสิ่งที่พูดโดยเดินไปที่ห้องครัวทันทีและบอกสิ่งที่ตัวเองคิดกับหลี่ฝาน หลี่ฝานจึงมีความสุขมาก ทันใดนั้นก็หาคนทำอาหารที่ไว้ใจได้ไปทำอาหารกับกู้เสี่ยวหวาน
กู้เสี่ยวหวานและหลี่ฝานอยู่ในครัวเป็นเวลาครึ่งวันก่อนที่พวกเขาจะออกมา เมื่อเห็นผลงานของตัวเอง หลี่ฝานรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
“เสี่ยวหวาน เจ้ายังมีอาหารที่ซับซ้อนอะไรอีกบ้างที่สามารถนึกถึงได้ จุ๊ ๆ ข้าชื่นชมเจ้าจริง ๆ” หลี่ฝานยกนิ้วให้และพูดว่า “โชคดีที่ตอนนั้นข้าอยู่กับเจ้า ถ้าเจ้ากลายเป็นผู้ช่วยของคนอื่น ข้าคงรู้สึกสูญเสียมากจริง ๆ”
หลี่ฝานพูดแบบนั้น แต่ยังคงตบหน้าอกตัวเองด้วยความกลัว สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
กู้เสี่ยวหวานเห็นเขาเป็นแบบนี้ก็ไม่พูดอะไรมาก ตอนนี้เราแค่ต้องตั้งตารอให้ถึงวันพรุ่งนี้ “ลุงหลี่ ตอนนี้ท่านก็สบายใจได้แล้ว”
คนทำอาหารคนนั้นเป็นคนที่หลี่ฝานเชื่อถือ เขาต้องปิดปากเงียบไม่บอกคนอื่นแน่นอน และถ้าเขาทำอาหารได้หลายอย่างแบบนี้ หลังจากนี้ต้องเลี่ยงคนของคนอื่น ไม่ให้บุคคลที่สี่รู้เด็ดขาด
หลังจากทำงานมาครึ่งวัน อาหารจานนี้ถูกยกออกมาจากครัวด้านหลัง และในที่สุดก็บอกลาหลี่ฝาน พอดีกับรถม้าที่กลับมาจากร้านหล่านเยว่ แล้วรับกู้เสี่ยวหวานกลับไปที่สวนชิง
ระหว่างทางกลับ กู้เสี่ยวอี้บอกเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นที่ร้านหล่านเยว่คร่าว ๆ “ท่านพี่ ของที่ร้านหล่านเยว่มีไม่มากนัก ช่วงนี้ข้ายุ่งกับเรื่องของขวัญวันเกิดไทเฮา ของที่ร้านจึงน้อยลง เกรงว่าจะกระทบต่อการขายครั้งหน้า”
“ไม่เป็นไร ทำไหวก็ทำ ทำไม่ไหวก็ไม่ต้องทำ ตอนนี้ความคิดของเจ้าทั้งหมดควรไปคิดเรื่องของขวัญวันเกิดให้ไทเฮา อย่าได้ประมาท” กู้เสี่ยวหวานเตือน
นับตั้งแต่ได้รับคำสั่งให้เข้าเฝ้าไทเฮาในวันคล้ายวันพระราชสมภพ กู้เสี่ยวหวานก็คิดเกี่ยวกับของที่จะมอบให้กับไทเฮา คิดไปคิดมา ในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะปักคำอวยพรหนึ่งร้อยอักษรมอบให้กับไทเฮา เพื่อถวายพระพรให้ไทเฮาอายุยืนยาวหมื่น ๆ ปี
กู้เสี่ยวอี้ทำเองทั้งหมด ทุกตัวอักษรแต่ละตัวถูกวางทีละตัวตามการออกแบบของกู้เสี่ยวหวาน
ออกแบบร่างเสร็จ ขั้นตอนต่อไปล้วนเลือกมาอย่างประณีตแล้ว
สำหรับผ้า กู้เสี่ยวหวานไม่ได้เลือกผ้าหนาเหล่านั้น แต่เลือกเส้นใยไหม ผ้าที่ทำมากจากเส้นใยไหมมีเนื้อผ้าบางราวกับปีกของจักจั่น ลื่นเหมือนน้ำไหล มันเรียบลื่นและบางเบา
จากนั้นเลือกด้ายปักสีทองซึ่งทำจากไหมที่ดีที่สุด ปักด้ายสีทองลงบนผ้าไหมสีขาวเนื้อบาง อักษรแต่ละตัววางเรียงกันอย่างสวยงามอยู่บนผ้าผืนเดียวกัน ตัวอักษรอวยพรทั้งเก้าสิบเก้าตัววางรวมกันเป็นตัวอักษรอวยพรขนาดใหญ่
กู้เสี่ยวหวานช่วยกันคิดกับกู้เสี่ยวอี้ แม้ว่าการหาผ้ากับเส้นด้ายจะเป็นเรื่องง่าย แต่ผ้าที่ต้องปักให้ได้ตัวอักษรเก้าสิบเก้าตัวกลับไม่ใช่เรื่องง่าย
ผ้าไหมยับง่าย หากปักตัวอักษรเยอะขนาดนั้น เกรงว่าผ้าจะยืดจนทำให้ผ้าไม่เรียบ สิ่งที่ทำมาจะสูญเปล่า
กู้เสี่ยวหวานและกู้เสี่ยวอี้รู้ว่าอาจเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ ดังนั้นกู้เสี่ยวอี้จึงเริ่มลองใช้ผ้าชิ้นเล็ก ๆ หลังจากยืนยันว่าตัวเองทำได้ ก็เริ่มเตรียมปักภาพร้อยโชค
ปักภาพร้อยโชค ทุกการลงเข็มและด้ายอย่าใช้แรงมากเกินไป แรงที่มากเกินไปจะทำให้ผ้าไหมเสียหายได้ และผ้าไหมนั้นบอบบางมาก ถ้าใช้แรงมากเกินไป ผ้าไหมจะเสียทรง