ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1539 ทำให้คนตกตะลึง
บทที่ 1539 ทำให้คนตกตะลึง
…………….
บทที่ 1539 ทำให้คนตกตะลึง
“ท่านพี่”
เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานเต็มไปด้วยความมั่นใจ ถานอวี้ซูก็รู้สึกปราบปลื้มยินดีเป็นอย่างมาก เป็นไปได้ไหมที่ท่านพี่คิดหาวิธีที่จะเล่นงานซูหมิ่นกลับ?
เมื่อซูหมิ่นได้ยินสิ่งนี้ นางขมวดคิ้วเล็กน้อย หัวใจพลันเต้นระรัว
หรือว่า….
“โปรดเตรียมฉินให้ข้าที ให้เสี่ยวหวานแสดงฝีมือเสียหน่อย”
“ฉินหรือ?” ซูหมิ่นมองมือของตนเองอย่างไม่ใส่ใจ “เจ้าเล่นเป็นด้วยหรือ? หมู่บ้านชนบทของเจ้ามีท่านอาจารย์สอนฉินด้วยหรือ”
“ไม่มี” กู้เสี่ยวหวานตอบตามความจริง
“อุ๊บ…” ซูหมิ่นหลุดหัวเราะ “ไม่มีท่านอาจารย์สอนฉิน แล้วเจ้าไปเรียนฉินมาจากที่ใด อย่าเล่นจนทำให้พวกข้ารู้สึกแสลงหูล่ะ”
ครั้นเห็นรอยยิ้มพึงพอใจของซูหมิ่น กู้เสี่ยวหวานก็คร้านที่จะคุยกับนางอีกต่อไป หญิงสาวลูบมือของถานอวี้ซูที่กำลังประหม่าอยู่ และคลี่ยิ้มกว้างอย่างมั่นใจ
การทดสอบเสียงทำให้คุณหนูบางคนมีสายตาเย้ยหยัน เมื่อมองท่าทีไม่คุ้นเคยของกู้เสี่ยวหวาน แค่มองก็รู้แล้วว่านางเล่นฉินไม่เป็น
หลังจากทดสอบเสียงแล้ว โทนเสียงอันนุ่มนวลและไพเราะก็เริ่มบรรเลงขึ้น
กู้เสี่ยวหวานไม่ได้เล่นฉินมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่นางมาที่โลกนี้ นางก็ไม่ได้แตะต้องฉินอีกเลย
แต่จำได้ว่าตนเองเรียนฉินตั้งแต่ยังเด็ก แม่จะไปส่งนางตลอดและจะรออยู่ข้างนอกจนกว่านางจะเลิกเรียน ในเวลานั้นนางเริ่มรู้ความแล้ว จึงไม่อยากทำให้แม่ผิดหวัง นางเล่นฉินมาตลอดจนกระทั้งถึงวัยทำงาน ทักษะของนางดีมาก ไม่ว่าเพลงอะไรก็สามารถเล่นได้ ถือว่าการเรียนของนางนั้นไม่เสียแรงเปล่า
ตอนนี้เมื่อได้สัมผัสฉินอีกครั้ง หัวใจของกู้เสี่ยวหวานนอกจากความคิดถึงแล้วก็รู้สึกว่ามีความรู้สึกบางอย่างที่หายไป
นางยกมือขึ้นวางลงบนฉิน นึกถึงท่าทางประหม่าเคอะเขิน
ดูเหมือนนางจะนึกถึงท่าทางประหม่าและตื่นเต้นของแม่ที่ยืนอยู่นอกหน้าต่างตอนที่นางหัดเล่นฉินครั้งแรก
เสียงที่ถูกเล่นออกไป ฉินที่เรียนอย่างอุตสาหะมานาน โชคดีที่สนิมยังไม่เกาะฝีมือ นางใช้นิ้วอย่างชำนาญ และทั้งลานก็เงียบลงทันที
กู้เสี่ยวหวานกำลังเล่นเพลงคืนจันทร์งามริมน้ำฉางเจียงยามวสันตฤดู
เดิมทีเป็นเพลงที่นางชอบที่สุด นางสามารถทั้งร้องและเล่นมันได้ ปรากฏว่าเพลงนี้ทำให้นางคว้ารางวัลชนะเลิศกลุ่มเยาวชนแห่งชาติได้
ด้วยความลึกซึ้งของเพลงและความนุ่มนวลของการร้อง มันเหมือนมีมือเล็ก ๆ คู่หนึ่งจับความคิดของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นไว้แน่น
กู้เสี่ยวหวานไม่เพียงแต่มีทักษะการเล่นฉินที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังมีเสียงร้องชั้นหนึ่งอีกด้วย
ที่สำคัญคือ ไม่มีใครเคยได้ยินเพลงที่นางเล่นและร้องเลย
ท่วงทำนองนี้ไร้กาลเวลาและไพเราะ ดูเหมือนภาพวาดม้วนที่งดงามสำหรับผู้คน
ทุกคนหลงใหลในการฟังและดูผู้หญิงที่อยู่ตรงกลางเล่นและร้องเพลงอย่างลืมตัว ผงกศีรษะและเงยหน้าขึ้น นางเต็มไปด้วยความสามารถซึ่งทำให้ผู้คนอิจฉา
นิ้วที่ขาวราวกับหิมะเหล่านั้น การใช้นิ้วอย่างชำนาญจนดูเหมือนจะผสานเข้ากับฉิน
ทักษะการเล่นฉินแบบนี้ เสียงร้องแบบนี้ เกรงว่าจะไม่มีใครในต้าชิงสามารถเอาชนะได้
มีความสามารถ แต่ไม่แสดงตัว
ซูเฉี่ยนเยว่รู้สึกงุนงงมาก ปัญหาที่นางสร้างไว้ในเวลานั้นทำให้หัวใจเต้นระรัว ความประหลาดใจในวันนี้จะทำให้นางล้มลงอย่างสมบูรณ์
ผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์ที่จิตใจใสซื่อ สง่าผ่าเผย ใจกว้าง จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่มีเสน่ห์ได้มากเช่นนี้อีก
บุคคลเช่นนี้เกิดมาได้อย่างไร ช่างมหัศจรรย์
ซูจือเยว่จ้องมองผู้หญิงตรงหน้าเขาอย่างหลงใหล หัวใจของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ทุกท่วงท่าของนางทำให้หัวใจของเขาอิ่มเอมในทันที
เพียงหลับตาลงก็มองเห็นหญิงสาวในชุดขาวพระจันทร์ นางช่างบอบบางและน่าหลงใหลกว่าดอกไม้ที่ประดับอยู่บนเรือนร่าง ซึ่งครอบครองทั้งหัวใจและชีวิตของเขา
ไม่มีใครอื่นแล้วที่สามารถหยั่งรากที่หัวใจของเขาได้
ในขณะนี้ มีอีกคนหนึ่งจ้องมองมาที่เขาอย่างหมกมุ่น ซูหมิ่นก็ตกตะลึงเช่นกันเมื่อกู้เสี่ยวหวานขึ้นไปบนเวที เมื่อนางรู้ว่ากู้เสี่ยวหวานกำลังซ่อนความสามารถบางอย่างไว้ ไม่มีอะไรนอกจากความแค้นและความโกรธในใจของนาง
กู้เสี่ยวหวานคนนี้เป็นอันตรายอย่างที่นางคิดไว้เลย นางควรจะสังเกตเห็นตั้งแต่งานเลี้ยงครั้งแรกแล้วไม่ใช่หรือ?
ความรู้และความสามารถอันยอดเยี่ยมของนางช่างน่าอัศจรรย์ และตอนนี้การเล่นฉินนั้นน่าทึ่งยิ่งกว่า
เดิมทีถ้าเป็นบ้านของนาง นางยังมีวิธีปิดปากทุกคนไม่ให้ใครแพร่งพรายออกไปได้ คนที่วิเศษและมีความรู้เพียบพร้อมแบบนี้ ถ้านางบอกให้คนอื่นรู้เรื่องนี้ เกรงว่าจะกลายเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งของคนไม่น้อย เมื่อลองคิดดูก็รวมถึงตัวนางด้วย
ซูจือเยว่จ้องมองกู้เสี่ยวหวานอย่างหลงใหล และซูหมิ่นก็มองไปที่เขาเช่นกัน
ความโกรธในดวงตาคู่นั้นกำลังจะระเบิดออกมา
เมื่อการแสดงเสร็จสิ้น กู้เสี่ยวหวานกลับไปที่ที่นั่งของนาง ทว่าทุกคนก็ยังไม่หายจากอาการตกใจ
จนกระทั่งฮูหยินซูรู้สึกตัว นางจึงพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่คาดฝันว่าท่านเสี้ยนจู่อันผิงจะมีทักษะการเล่นฉินและการร้องเพลงที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ช่างน่าประทับใจจริง ๆ”
ใช่แล้ว เมื่อครู่มีหญิงสาวคนหนึ่งที่แสดงฉิน แต่เมื่อนางเห็นกู้เสี่ยวหวาน ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
ซูจือเยว่อุทาน “ข้าขอถามเสี้ยนจู่ เมื่อครู่เจ้าร้องเพลงอะไรหรือ?”
กู้เสี่ยวหวานตอบทันที “เพลงคืนจันทร์งามริมน้ำฉางเจียงยามวสันตฤดู”
“มันยอดเยี่ยมจริง ๆ ทักษะการเล่นฉินของเสี้ยนจู่นั้นยอดเยี่ยมมาก ทำให้จือเยว่อดไม่ได้ที่จะชื่นชม”
ผู้หญิงคนนี้ไม่แยแสและสง่างาม ทั้งมีความดื้อรั้นและความโดดเด่น
ซูจือเยว่มองไปที่กู้เสี่ยวหวานด้วยความชื่นชม และดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ทว่ากู้เสี่ยวหวานกลับรีบหลบตาและไม่มองเขาอีก
เมื่อเห็นว่าซูจือเยว่ยังคงมองกู้เสี่ยวหวานอยู่ ซูหมิ่นก็โกรธอยู่ในใจ แต่นางไม่สามารถแสดงออกได้
เมื่อครู่นางทำให้กู้เสี่ยวหวานลำบากใจ แต่นางไม่คาดคิดว่ากู้เสี่ยวหวานจะปิดบังความลับของตัวเองไว้ นี่เป็นการตบหน้านาง แล้วนางจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
“ทักษะการเล่นฉินของเสี้ยนจู่นั้นยอดเยี่ยมมาก ข้าไม่รู้ว่าท่านเป็นลูกศิษย์ของท่านอาจารย์คนไหน” เมื่อฮูหยินซูเห็นว่าบรรยากาศในงานเลี้ยงเงียบลง จึงอดไม่ได้ที่จะทำลายความเงียบ
กู้เสี่ยวหวานส่ายหน้าอย่างไม่เต็มใจที่จะตอบ “ข้าได้เรียนมาจากท่านอาจารย์คนหนึ่งในเมือง”
ปุ่มที่ 4 ใน 4 ตอนถัดไป
ปุ่มที่ 2 ใน 4 ความคิดเห็น
ปุ่มที่ 3 ใน 4 ตอนก่อนหน้า
0
…………….