ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1603 พูดคุยกับเขาด้วยถ้อยคำสุภาพ
บทที่ 1603 พูดคุยกับเขาด้วยถ้อยคำสุภาพ
……….
บทที่ 1603 พูดคุยกับเขาด้วยถ้อยคำสุภาพ
อู๋เทียนเลือกที่จะบินเกาะกิ่งสูงก่อน
จากนั้นร้านจิ่นฝูเกิดเรื่องขึ้น ดังนั้นที่อู๋เทียนรอดพ้นจากหายนะในครั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าไม่ได้ทำงานอยู่ร้านจิ่นฝู
“ในเมื่อเป็นพ่อครัวคนเดิมที่ทำงานอยู่ร้านจิ่นฝู เช่นนั้นทานที่ไหนก็คงเหมือนกัน เจ้าก็จัดอาหารแนะนำทั้งหมดของร้านเจ้าได้เลย ข้าก็จะทานให้อร่อยเพื่อคลายความอยากอาหาร” กู้เสี่ยวหวานหัวเราะเสียงดัง
ลูกจ้างคนนั้นยิ้มอย่างนอบน้อม “แม่นางวางใจได้ ขอเพียงแค่ท่านได้ทานครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งหน้าท่านก็จะอดไม่ไหวจนไม่ไปที่อื่นอีกเลย ต่อไปจุ้ยอวี้กู่ไจของเราก็จะเป็นที่แรกที่ท่านนึกถึงในเมืองหลวง”
ลูกจ้างคนนั้นยิ้มอย่างประจบและเดินลงไป และในห้องก็ตกอยู่ภายใต้ความเงียบทันที
กู้เสี่ยวหวานลูบถ้วยชาในมือและไม่ได้กล่าวอะไรเป็นเวลานาน
หลังจากที่อาจั่วและอาโม่ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันแล้ว ก็มองไปที่กู้เสี่ยวหวาน รอให้นางตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป
อู๋เทียนจากไปก่อนที่ร้านจิ่นฝูจะเกิดเรื่อง ดังนั้นเมื่อร้านจิ่นฝูเกิดเรื่องจึงไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อเขา
สิ่งที่จุ้ยอวี้กู่ไจทำนั้นเป็นแผนการที่ดี
แย่งพ่อครัวใหญ่ของร้านจิ่นฝูไป ร้านจิ่นฝูถูกโค่นลงแล้ว ในเมืองหลวงนี้ยังมีใครที่สามารถเป็นคู่แข่งกับจุ้ยอวี้กู่ไจได้อีก
ที่แท้แล้วทั้งหมดนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นฝีมือของจุ้ยอวี้กู่ไจ
“อาโม่ ตอนกลางคืนเจ้าติดตามอู๋เทียนไว้ ดูว่าอู๋เทียนนั้นได้ประโยชน์อะไรจากจุ้ยอวี้กู่ไจ จนทำให้เขาทรยศร้านจิ่นฝู”
“อาจั่ว เจ้าไปที่จวนแม่ทัพถามอวี้ซู่ว่าจะสามารถเข้าไปกองกำลังรักษาความสงบอีกครั้งได้หรือไม่ ข้าจะต้องถามลุงหลี่ให้ชัดเจน”
ทั้งสองตอบรับตาม ๆ กัน จากนั้นก็ยืนอยู่ด้านข้างไม่ได้พูดคุยกันอีก
ตรงหน้ากู้เสี่ยวหวานมีถ้วยชาวางอยู่ มือข้างหนึ่งเท้าคาง มืออีกข้างวางไว้อยู่บนโต๊ะและเคาะบนโต๊ะเบา ๆ อย่างเป็นจังหวะ ในสมองนั้นหมุนแล่นอย่างรวดเร็ว
อู๋เทียนออกจากร้านจิ่นฝู ก่อนหน้านั้นเคยมีเรื่องทรยศหักหลังร้านจิ่นฝูหรือไม่ ลุงหลี่นั้นรู้หรือไม่รู้
“อาโม่ เจ้าลองไปดูด้านหลังห้องครัวที่นี่ว่าสามารถปะปนเข้าไปได้หรือไม่ ไปดูว่าอู๋เทียนผู้นั้นอยู่ที่นี่หรือไม่ ระวังด้วยอย่าให้ถูกคนพบเข้า” จู่ ๆ กู้เสี่ยวหวานก็กล่าวขึ้น
อาโม่ตอบรับจากนั้นก็ออกไป
โดยอ้างว่าอยากเข้าห้องน้ำ อาโม่ก็เดินตรงเข้าไปห้องครัวด้านหลัง
จุ้ยอวี้กู่ไจนี้ตกแต่งได้อย่างหรูหรามาก ทุกที่เผยให้เห็นถึงความรู้สึกหรูหรา
บนพื้นปูด้วยหินอ่อนสีขาว ซึ่งปูจากพื้นที่กว้างของทางเดินด้านหน้าร้านอาหารตรงไปจนถึงห้องครัวด้านหลัง ทั้งสองด้านยังมีระเบียงแกะสลัก ด้านบนแกะสลักด้วยลวดลายสัตว์ป่าที่หายาก มีดอกไม้และหญ้าที่แปลกตา ซึ่งเหมือนจริงราวกับมีชีวิต
ทางแยกและทางออกทั้งสองด้านเหมือนเช่นเดียวกับร้านจิ่นฝู มีรถเข็นขนาดเล็กวางอยู่ที่นั่นซึ่งแบ่งออกเป็นสามชั้นบนและล่าง หลังจากที่พวกพ่อครัวทำอาหารเสร็จ ก็จะเสียบกระดาษรายการอาหารของโต๊ะที่สั่งไว้ใต้ถ้วยชาม หลังจากนั้นก็จะมีคนเข็นรถจากด้านหลังครัวไปจนถึงร้านอาหาร
ภายในร้านอาหารมีลูกจ้างที่แต่งตัวดีรูปร่างสูงโปร่งหล่อเหลาทำหน้าที่จัดจานบนโต๊ะตามคำสั่งที่ได้จดไว้ ซึ่งมีการทำงานที่ว่องไวและแบ่งงานกันไว้อย่างชัดเจน
ร้านจิ่นฝูเองก็เป็นเช่นนี้ด้วยเหมือนกัน
พอยิ่งเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ตอนนั้นมีหลายคนที่เคยผ่านมือกับอาหารที่เป็นพิษเหล่านั้น ตั้งแต่พ่อครัวที่ส่งอาหารให้ลูกจ้างจนไปถึงลูกจ้างที่จัดจานอาหาร อย่างน้อยก็มีมากกว่าสามคนขึ้นไป ทุกคนล้วนเป็นผู้ต้องสงสัยว่าแท้จริงแล้วใครเป็นผู้วางยาพิษ
กู้เสี่ยวหวานก็ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นรอนานแค่ไหนแล้ว แค่รู้ว่าเวลานั้นผ่านไปนานราวครึ่งชั่วยามแล้ว ในที่สุดอาโม่ก็กลับมาพร้อมกับลูกจ้างที่สั่งอาหารเมื่อครู่นี้
ขณะที่เดินไปด้วยก็ได้ยินอาโม่ถามลูกจ้างไปด้วย “การตกแต่งจุ้ยอวี้กู่ไจพวกเจ้านี้ดูหรูหราร่ำรวยจริง ๆ ลานด้านหลังปูพื้นด้วยหินอ่อนสีขาวทั้งหมด งดงามมากจนข้าไม่กล้าที่จะเหยียบบนนั้นเลย เหตุใด…ก่อนหน้านี้จึงไม่พบร้านอาหารที่ดีเช่นนี้มาก่อน ครั้งหน้าพวกเราจะต้องมาหาพวกเจ้าเพื่อทานอาหารในที่หรูหราเช่นนี้แน่นอน อาหารยังน่าอร่อยเช่นนี้ ถ้าหากในอนาคตเชิญแขกมาทานอาหารก็รักษาหน้าตาไว้ได้ ร้านจุ้ยอวี้กู่ไจของพวกเจ้า ในอนาคตนั้นจะต้องเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดในต้าชิงนี้แน่”
อาโม่พูดส่วนลูกจ้างนั้นก็เบิกบานใจมาก “ใช่แล้ว ถ้าหากร้านอาหารดีแล้ว พวกเราที่เป็นลูกจ้างก็จะดีขึ้นด้วย ในทุก ๆ วัน ทำงานจนเหน็ดเหนื่อยที่แท้ก็ยังเทียบกับร้านจิ่นฝูไม่ได้ ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ร้านจิ่นฝูล้มลง กิจการของจุ้ยอวี้กู่ไจก็ดีขึ้น พวกเราเองก็ดีขึ้นด้วย”
ลูกจ้างคนนั้นถืออาหารมาสองจานวางไว้บนโต๊ะ และพยักหน้าให้กู้เสี่ยวหวานอย่างนอบน้อม “แม่นางท่านนี้ ท่านลองชิมดู อาหารสองอย่างนี้เป็นอาหารจานใหม่ของจุ้ยอวี้กู่ไจของพวกเราในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ท่านลองชิมดู”
รอจนลูกจ้างคนนั้นลงไป กู้เสี่ยวหวานก็ลองชิม หลังจากที่ชิมแล้วก็ตกใจจนหน้าถอดสี
เป็นไปตามที่นางคาดเอาไว้ รสชาติของอาหารนี้เหมือนกับฝีมือของอู๋เทียนอย่างกับแกะ
ผู้ที่อยู่ในครัวคนนั้นจะต้องเป็นอู๋เทียนแน่นอน
“แม่นาง ข้าหาคนผู้นั้นไม่เจอ ข้ามองไปรอบ ๆ ในห้องครัวใหญ่แล้ว ไม่เห็นอู๋เทียนเลย แต่ว่าในห้องครัวใหญ่นั้นมีหน้าต่างเล็ก ๆ บานหนึ่ง ข้าเห็นเหมือนกับว่ามีอาหารส่งมาจากข้างใน” อาโม่ตอบ “พอข้ายังอยากดูอีกสองสามครั้งก็ถูกลูกจ้างผู้นั้นพบเข้าแล้ว เห็นได้ชัดว่ามีศิลปะการต่อสู้อยู่ด้วย”
ทุกคนในห้องครัวด้านหลังมีฝีมือการต่อสู้
จุ้ยอวี้กู่ไจนี้ยอมลงทุนลงแรงมากเสียจริง
อู๋เทียนผู้นี้คาดไม่ถึงว่าจะหลบซ่อนอยู่ในจุ้ยอวี้กู่ไจและยังทำอาหารมากมายเช่นนี้ออกมาให้กับจุ้ยอวี้กู่ไจอีก เอาความเชื่อใจของนางกับหลี่ฝานในตอนนั้น มาทำเหมือนกับเป็นเรื่องไร้สาระ
เสียแรงเปล่าที่ตอนนั้นนางยังสอนวิธีทำอาหารมากมายให้อู๋เทียนผู้นี้ ฮึ่ม สุดท้ายแล้วก็เป็นหมาป่าตาขาวที่เลี้ยงไม่เชื่อง กลับกลายเป็นประโยชน์ที่คนอื่นได้ไป
นางจะต้องถามต่อหน้าอู๋เทียนผู้นี้ว่าทำไมต้องทรยศร้านจิ่นฝูและทรยศลุงหลี่
ขณะที่คิดเช่นนี้ลูกจ้างนั้นก็ถืออาหารสองสามจานเข้ามาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าอาหารบนโต๊ะนั้นไม่ขยับเลยก็สงสัยว่า “แม่นาง หรือว่าอาหารนี้ไม่อร่อยหรือ”
กู้เสี่ยวหวานได้สติกลับมารีบตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า “อร่อยมาก เพียงแต่ข้าชินกับการทานข้าวไปและทานอาหารไปด้วย ข้ากำลังรอข้าวอยู่”
“อ๋อ เช่นนั้นแม่นางรอสักครู่ ข้าวางอาหารพวกนี้ลงให้แม่นางก็จะไปตักข้าวให้แม่นางแล้ว ข้าวที่นี่ของข้ายังเป็นข้าวขาวชั้นดี ทั้งหอมทั้งนุ่มอร่อยมาก รับรองว่าท่านจะทานได้ครั้งละสองชามใหญ่เลยทีเดียว” ปากของลูกจ้างนั้นเหมือนกับทาน้ำผึ้งไว้ เอาแต่กล่าวชมอาหารของจุ้ยอวี้กู่ไจว่าเป็นของดี
กู้เสี่ยวหวานแค่ยิ้ม “เจ้านี่พูดเก่งเสียจริง จุ้ยอวี้กู่ไจมีลูกจ้างที่คิดถึงร้านอาหารเช่นนี้เหมือนเจ้า ก็คงจะต้องยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เป็นแน่ เพียงแต่มีปัญหาเรื่องของเวลาเท่านั้น”
……….