ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1627 ฝ่าฝืนราชโองการ
บทที่ 1627 ฝ่าฝืนราชโองการ
พวกเขารู้ดีว่าอาโม่และอาจั่วทีทักษะการต่อสู้ อีกทั้งทักษะของพวกเขานั้นไม่ธรรมดา นอกจากถานอวี้ซู ก็มีเพียงซูจือเยว่และซูหมิ่นแล้ว
ซูจือเยว่แสดงความหวังดี และจะช่วยนางตามหาฆาตกรตัวจริง เห็นได้ชัดว่าเขาจะไม่เอาสถานการณ์ของคนรอบตัวนางไปบอกเซี่ยงหย่วนหลินแน่นอน
อย่างนั้นคนที่พูดได้ก็มีเพียงซูหมิ่นแล้ว
“เสี้ยนจู่อันผิง” เซี่ยงหย่วนหลินเอ่ยเคร่งเครียด “คดีคนเสียชีวิตในร้านจิ่นฝูมีส่วนเกี่ยวข้องกับเสี้ยนจู่ หวังว่าเสี้ยนจู่จะไปกับข้าน้อยเพื่อตามหาตัวฆาตกร และให้ความยุติธรรมกับผู้เสียชีวิตทั้งสี่คน” ดูเหมือนเซี่ยงหย่วนหลินขอความช่วยเหลือจากกู้เสี่ยวหวาน แต่ทุกคนในนี้รู้ดีว่าถ้าเข้าไปในกองกำลังรักษาความสงบแล้ว หากตกอยู่ในกำมือของเซี่ยงหย่วนหลิน ถ้าไม่ตายก็คงถูกถลกหนัง
ถานอวี้ซูจับมือกู้เสี่ยวหวานและพูดอย่างปวดใจ “ไม่นะ ท่านพี่อย่าไป”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ฟางเพ่ยหยาจับมืออีกข้างของกู้เสี่ยวหวานไว้ กัดฟันและกระซิบข้างหูกู้เสี่ยวหวานเบา ๆ “ท่านพี่ ทำอย่างไรดี ท่านรีบหนีไปก่อนเถอะ พวกข้าจะปกป้องท่านเอง”
ถานอวี้ซูได้ยินก็พยักหน้าตกลง “ท่านพี่”
สายตาที่อ้อนวอนราวกับว่าให้กู้เสี่ยวหวานรีบหนีไป “อาจั่วและอาโม่มีทักษะการต่อสู้ท่านรีบไปเถอะ ข้าเป็นถึงจวิ้นจู่ พวกเขาไม่กล้าทำอะไรข้าหรอก”
ตอนนี้อาจั่วและอาโม่ยืนอยู่หน้ากู้เสี่ยวหวาน ในมือถือดาบเล่มคมไว้ เพื่อป้องกันความปลอดภัยของกู้เสี่ยวหวาน หลังจากได้ยินคำพูดของถานอวี้ซู อาจั่วก็หันกลับมาพูดด้วยเสียงเบา “คุณหนู ท่านฟังที่จวิ้นจู่พูดเถอะ พวกเราไปเถอะ”
แม้ว่าสีหน้าอาจั่วจะดูนิ่งสงบ แต่ในใจกลับเหมือนได้ลิ้มรสชาติทั้งห้า
เหตุใดนายท่านยังไม่มาช่วยคุณหนูอีก
เกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ นายท่านไม่ได้บอกพวกเขาว่าต่อไปจะทำเช่นไร
ไม่รู้ว่าพวกเขาควรปล่อยให้คุณหนูหนีไป หรือว่าปล่อยให้คุณหนูถูกจับตัวไป
อาจั่วและอาโม่มองหน้ากัน พวกเขาต่างเห็นความสับสนในสายตาของกันและกัน แต่หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะไม่ปล่อยให้คุณหนูถูกจับตัวไป แม้ว่าจะต้องฝ่าฝืนราชโองการ เขาก็เต็มใจที่จะทำ
“คุณหนู พวกเราจะปกป้องท่านเอง แม้ว่าคราวนี้จะเกิดการนองเลือด พวกข้าก็จะไม่ยอมให้พวกเขาจับตัวท่านไปได้” อาโม่ชักดาบออกจากฝัก ดาบเล่มนี้ต้องแดดประกาย อาจั่วเองรีบชักดาบในมือออกจากฝัก และยืนขวางกู้เสี่ยวหวานเอาไว้
โค่วตันก็เช่นเดียวกัน ในมือถือดาบที่คมกริบและปกป้องความปลอดภัยทั้งซ้ายขวาของกู้เสี่ยวหวาน
เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดอย่างชัดเจน ก็รู้สึกซาบซึ้งใจที่พวกเขาพยายามปกป้องตนเองสุดชีวิต แต่นางไม่สามารถปล่อยให้คนเหล่านี้ตกอยู่ในอันตรายได้
ในเมื่อคนผู้นี้มาตามราชโองการของฮ่องเต้ ต่อให้วันนี้ถานอวี้ซูจะพูดอย่างไร เซี่ยงหย่วนหลินผู้นี้ก็ไม่มีทางยอมวางมือแน่ หากพวกนางขัดขืนอาจจะโดนเล่นงานเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง
การฆ่าคนเป็นเรื่องเล็ก แต่การฝ่าฝืนราชโองการนั้นเป็นเรื่องใหญ่
กู้เสี่ยวหวานส่ายหัวเบา ๆ “ไม่ต้อง ข้าจะตามพวกเขาไปสักครั้ง”
“คุณหนู อย่าไป” อาจั่วและอาโม่ตะโกนขึ้นมาด้วยความตระหนกตกใจ
“ท่านพี่” ถานอวี้ซูและฟางเพ่ยหยาตะโกนพร้อมกัน แล้วดึงมือกู้เสี่ยวหวานไว้อย่างเจ็บปวด
เซี่ยงหย่วนหลินเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานยินยอมไปกับเขา สีหน้าชั่วร้ายเมื่อครู่ก็เปลี่ยนเป็นภูมิใจ และเอ่ยขึ้น “จัดการซะ”
เพิ่งจะเก็บดาบไป เซี่ยงหย่วนหลินก็สั่งให้ทหารไปจับตัวกู้เสี่ยวหวาน พอกู้เสี่ยวหวานก้าวลงบันได อาโม่และอาจั่วก็ตามติดนางอย่างใกล้ชิด แม้ว่าดาบในมือจะเก็บเข้าฝักแล้ว หากแต่พวกเขาก็ยังคงไม่ไว้ใจ
ทหารไม่กี่คนเดินไปข้างหน้า หมายจะจับแขนกู้เสี่ยวหวาน อารณ์โกรธของอาโม่ก็ปะทุขึ้น เขายื่นมือเข้าไปจับแขนกู้เสี่ยวหวานอย่างรวดเร็ว จากนั้นนางก็รู้สึกเพียงร่างกายตัวเองชาวาบ และไม่สามารถขยับได้แล้ว
“อาโม่เจ้าปล่อยข้า” กู้เสี่ยวหวานตะโกนขึ้น
มืออาโม่จับมือของทหารคนนั้นไว้ ไม่สนใจที่กู้เสี่ยวหวานตะโกนดิ้นรน และหันไปพูดกับอาจั่ว “รีบพาคุณหนูไป”
อาจั่วรีบทำตามคำสั่ง แบกกู้เสี่ยวหวานขึ้นหลัง ภายใต้การคุ้มกันของอาโม่และโค่วตัน
เซี่ยงหย่วนหลินและทหารหลายร้อยคนงุนงงไปชั่วขณะหนึ่ง ต่อมาเซี่ยงหย่วนหลินก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “ใครก็ได้จับตัวพวกเขา จับเป็นเท่านั้น!”
ดาบในมือของทหารถูกชักออกจากฝัก ถานอวี้ซูก็เดินลงบันไดพร้อมกับฟางเพ่ยหยาภายใต้การคุ้มครองซ้ายขวาของอาจั่ว เพราะกลัวว่าดาบของคนเหล่านั้นจะทำร้ายกู้เสี่ยวหวานได้
เมื่อเห็นการกระทำของพวกเขาเช่นนี้ กู้เสี่ยวหวานพลันรู้สึกซาบซึ้งใจ คนที่อยู่ข้างกายนางล้วนมีจิตใจที่ซื่อสัตย์และจงรักภักดี
เดิมทีมีเพียงไม่กี่คน อาโม่และโค่วตันยังรับมือและขว้างคนเหล่านั้นได้ แต่กว่าจะฝ่าออกไปได้ ก็แทบถูกทหารเหล่านั้นล้อมรอบไว้แล้ว สองหมัดยากจะสู้สี่มือ ยิ่งไปกว่านั้นจำนวนทหารยังเข้ามาร่วมตะลุมบอนมากขึ้นเรื่อย ๆ สายตาพวกนางจ้องมองสถานการณ์ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ขณะที่กู้เสี่ยวหวานกำลังเป็นห่วงความปลอดภัยของทุกคน ทันใดก็มีม้าควบเร็วมาถึง เสียงเท้าม้าไม่ได้ถูกกลบด้วยเสียงการต่อสู้เลย ทันทีหลังจากนั้นเสียงแหลมสูงก็ดังก้องเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ “พระราชโองการมาแล้ว พระราชโองการมาถึงแล้ว”
สายตาจ้องมองไปที่ดาบหลายร้อยเล่มที่กำลังต่อสู้กัน เมื่อได้ยินเสียงที่แหลมสูงนั้น เซี่ยงหย่วนหลินหันมามองทางทหารอย่างตกใจ จากนั้นตะโกนอย่างเสียงดังด้วยความรีบร้อนและตื่นตระหนก “ถอยถอยถอยกลับ”
ราชโองการมาแล้ว ราชโองการมาแล้ว ต้องเป็นพระราชโองการมาจับกุมเสี้ยนจู่อันผิงแน่นอน
เซี่ยงหย่วนหลินดีใจลิงโลดไปชั่วขณะ ทหารที่ใส่เสื้อเกราะเหล่านั้นเมื่อได้ยินคำสั่งจากเซี่ยงหย่วนหลินก็เก็บอาวุธฉับไว แล้วถอยหลังกรูด
อาจั่ว อาโม่และโค่วตันที่กำลังปกป้องกู้เสี่ยวหวาน เมื่อเห็นฝูงชนแน่นหนาถอยกลับไปด้านหลัง สายตาก็เต็มไปด้วยความสงสัย
เมื่อเซี่ยงหย่วนหลินเห็นแววตาที่สงสัยของกู้เสี่ยวหวาน ก็พูดขึ้นอย่างภูมิใจ “เสี้ยนจู่อันผิง เจ้าดูสิ พระราชโองการมาถึงแล้ว ครั้งนี้มันไม่ง่ายที่เจ้าจะขัดขืนการจับกุม นี่คงเป็นราชโองการจากฮ่องเต้ ตอนนี้เจ้ากำลังขัดพระราชโองการ”
การขัดพระราชโองการนั้นต้องมีโทษประหารเก้าชั่วโคตร ดวงตากู้เสี่ยวหวานค่อย ๆ หรี่ลง ไม่แม้แต่จะมองเซี่ยงหย่วนหลินที่มีท่าทางภาคภูมิใจ แต่มองไปที่ม้าเร็วสีขาวสูงตัวนั้น คนผู้หนึ่งที่แต่งตัวเหมือนขันที ร่างกายกำยำกระโดดลงจากหลังม้า ไม่นานก็มาถึงหยุดอยู่ต่อหน้าทุกคน
“ขันทีฉี” ถานอวี้ซูเห็นคนมาก็รีบตะโกนอย่างดีใจ