ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1649 เมียน้อยเผชิญหน้าศัตรู
บทที่ 1649 เมียน้อยเผชิญหน้าศัตรู
ในตอนแรกจิงเหนียงก็จ้องมองผู้มาใหม่อย่างตกตะลึงจนตาค้างพูดอะไรไม่ออก จนกระทั่งผ้าห่มบนตัวถูกกระชาก ร่างกายเปลือยเปล่าปรากฏต่อหน้าผู้ชายเป็นกลุ่ม ท่ามกลางสายตาลามกของชายเหล่านั้น ทั้งยังมีลมหนาวที่พัดเข้ามาจากประตูด้านที่ถูกเปิดไว้ ไม่นานนางก็ตกใจจนได้สติขึ้น
“ว้าย” จิงเหนียงกรีดร้องเสียงแหลม ร้อนรนจนทำอะไรไม่ถูก พยายามดึงเสื้อผ้าปกปิดร่างกายตนเอง
แต่ทว่าร่างกายกลับไม่มีเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว
อย่างไรก็ตามมือคู่หนึ่งก็สู้ดวงตาหลายสิบคู่ไม่ได้
เซี่ยงหย่วนหลินเห็นคนมา
จิงเหนียงที่ไม่ยอมแพ้และมีแต่ความทะเยอทะยานในเมื่อครู่ ก็เหมือนร่วงหล่นราวกับน้ำค้างในฤดูใบไม้ร่วงที่กระทบใบไม้ทันที
“อาจิน อาจิน ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่ใช่…ข้าไม่ใช่คน” เซี่ยงหย่วนหลินคุกเข่าต่อหน้ากัวจิน ส่ายหน้าและร่ำไห้เสียงดังด้วยความรู้สึกผิด
กัวจินเห็นเซี่ยงหย่วนหลินมีท่าทางเช่นนี้ ก็นึกถึงเมื่อครู่ที่ชายคนนี้พูดว่าจะหย่ากับตน ไฟในใจก็ลุกพุ่งขึ้นทะลักออกมา พลันนางก็ง้างขาเตะไปหนึ่งที
“อยากหย่ากับข้าหรือ เซี่ยงหย่วนหลิน ตระกูลกัวของข้าให้เจ้าใช้ชีวิตที่ดีมากเกินไปแล้ว กล้าดีอย่างไรถึงจะหย่ากับข้า”
กัวจินเตะเซี่ยงหย่วนหลินซ้ำ ๆ เหมือนสุนัขจนตรอก เซี่ยงหย่วนหลินถูกเตะจนไม่กล้าแม้แต่จะปริปากส่งเสียง เข้ายกมือปิดหน้าและปล่อยให้กัวจินเตะตนเองอยู่อย่างนั้น
จนกระทั่งกัวจินเหนื่อย นางจึงหยุดจ้องมองเซี่ยงหย่วนหลิน และถุยน้ำลายลงพื้น “ยังไม่ไปใส่เสื้อผ้าอีก เสร็จแล้วก็ตามข้ามา”
เซี่ยงหย่วนหลินได้ยินก็นึกว่ากัวจินให้อภัยเขาแล้ว จึงรีบตอบและรีบหาเสื้อผ้ามาใส่ เห็นได้ชัดว่าจิงเหนียงยังเปลือยกายอยู่และถูกคนเห็นหมดแล้ว
จนกระทั่งกัวจินพาเซี่ยงหย่วนหลินออกไป กัวจินพูดขึ้น “หญิงผู้นี้ผิวงามนัก ให้รางวัลพวกเจ้าแล้วกัน”
เซี่ยงหย่วนหลินได้ยิน
ถึงรู้ตัวว่าจิงเหนียงยังอยู่ที่นี่
ไม่ได้
แตะต้องผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ “อาจิน อย่าแตะต้องผู้หญิงคนนี้ อย่าแตะต้องนาง”
“เหตุใดจะแตะต้องไม่ได้” กัวจินได้ยินก็ขมวดคิ้ว มือท้าวเอว ท่าทางยิ่งดูน่ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ “เซี่ยงหย่วนหลิน เจ้าน่ารำคาญเสียจริง ผู้หญิงเพียงคนเดียวกลับปกป้องไม่ให้ข้าแตะต้องนาง แต่เจ้าแตะต้องได้ เจ้าจะพานางเข้าบ้านตระกูลกัวหรืออย่างไร หรือเจ้าจะหย่ากับหญิงแก่อัปลักษณ์อย่างข้า แล้วไปแต่งกับนาง” เซี่ยงหย่วนหลินจะกล้าหย่ากับกัวจินได้อย่างไร
เขาถูกนางกดขี่มาหลายปี นางพูดคำเดียว เซี่ยงหย่วนหลินก็กลัวจนไม่กล้าพูดแม้แต่ครึ่งคำ เรื่องหย่ายิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย
เซี่ยงหย่วนหลินพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ร้อนรนจนกระวนกระวาย มองดูจิงเหนียงและหันไปมองกัวจินที่ดุร้าย
กำลังจะเอ่ยปากพูด แต่กัวจินไม่สนใจเขา และเอ่ยอย่างโหดเหี้ยม
“พวกเจ้าจัดการนางให้ข้า พร้อมกันทั้งหมด กล้าดีอย่างไรมาแย่งผู้ชายของข้า
จัดการเสร็จแล้วก็นำตัวไปขายในซ่องที ถ้านางอยากได้ผู้ชายนัก ก็ทำให้ความปรารถนาของนางเป็นจริงเถอะ”
“อาจิน” เซี่ยงหย่วนหลินได้ยินคำนี้ก็ตกใจจนเหงื่อตก จึงรีบไปข้างหน้าและดึงกัวจินไว้
“พวกเจ้ากล้างั้นหรือ? ข้าเป็นคนของซื่อจื่อ ใครกล้าแตะต้องข้า” เมื่อเห็นมือน่าขยะแขยงกำลังจะเอื้อมไปแตะต้องตัวนางและเห็นเซี่ยงหย่วนหลินนั้นเหมือนจะทนไม่ได้ที่จะออกตัวแทนนาง จิงเหนียงก็ทนต่อไปไม่ไหวและตะโกนขึ้น
เมื่อได้ยินคำว่าซื่อจื่อ
ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ก็ตกตะลึงและหันไปมองกัวจิน
แต่กัวจินหันกลับมามองเซี่ยงหย่วนหลิน เห็นเขาพยักแล้วก้มหน้าหน้าพูด “อาจิน
นางเป็นคนของซื่อจื่อ” ทั้งเมืองหลวงมีซื่อจื่อเพียงคนเดียว
ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันเป็นเสด็จอาของซูหลินที่เป็นลูกภรรยาเอกของหมิงอ๋อง ซึ่งเป็นญาติของฮ่องเต้
ฐานะสูงส่งจนคนอย่างพวกเขาเกินจะเปรียบเทียบได้
จิงเหนียงเป็นคนของซื่อจื่อ กัวจินจะกล้าลงมืออีกได้อย่างไร หากจิงเหนียงวิ่งไปร้องเรียนซื่อจื่อขึ้นมา เช่นนั้นไหนเลยจะรับผิดชอบไหว
กัวจินรีบหยุดทันที และไม่นานทุกคนก็แยกย้ายกันไป
และนางก็รีบเอาจดหมายที่มีคนให้นางออกมาให้เซี่ยงหย่วนหลิน
เซี่ยวหย่วนหลินเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
เนื้อความที่เขียนในจดหมาย บอกกัวจินว่าสามีของนาง ซุกเมียน้อยอยู่ข้างนอก
และสถานที่ซ่อนนั้น เซี่ยงหย่วนหลินเป็นคนเลือกเอง นอกจากเขาแล้วก็มีเพียงจิงเหนียงที่รู้ ใครกันที่สามารถหาสถานที่แห่งนี้พบได้
“มีคนตามข้ามา” เซี่ยงหย่วนหลินขยำจดหมายในมือและพูดด้วยความโกรธ
ตอนนี้จิงเหนียงก็ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยและออกมานอกห้อง เห็นเซี่ยงหย่วนหลินยืนอยู่ข้างกัวจิน กำลังพูดคุยบางอย่าง
ท่าทางไม่มีแม้แต่ความกล้าหาญและความสง่างามเวลาที่พูดอยู่เคียงข้างนางวันนี้เลย
ดูเหมือนเซี่ยงหย่วนหลินเกรงกลัวชื่อเสียงของภรรยา
จิงเหนียงถือแก้วมาหาเซี่ยงหย่วนหลินด้วยท่าทางที่สง่างาม ยื่นถ้วยชาในมือให้เซี่ยงหย่วนหลินและพูดขึ้นว่า “นายท่าน ในนี้มีน้ำ หิวน้ำแล้วหรือไม่ ท่านดื่มน้ำก่อน”
จิงเหนียงไม่แม้แต่จะสนใจกัวจินที่กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
รูปร่างที่มีสัดส่วน เอวเล็กคอดกิ่วที่สามารถจับได้ เสียงที่ละเอียดอ่อนและดวงตาที่มีเสน่ห์ ทำให้กัวจินยิ่งกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ
นางจะลงไม้ลงมือกับอีกฝ่าย อยากจะตบทุบตีคนตรงหน้าให้ตายด้วยฝ่ามือเดียว ขอเพียงได้ตบนางด้วยฝ่ามือเดียวเท่านั้น หากนางผู้นี้ไม่ตายกระดูกก็ต้องหักเป็นแน่
กัวจินคิดและกำหมัดจนเห็นเส้นเลือดปูดโปดขึ้นมา แต่อย่างไรก็ไม่กล้าลงมือกับนาง
จิงเหนียงรู้นานแล้วว่ากัวจินไม่กล้าลงมือกับนาง นางจึงมองด้วยสายตาที่โอ้อวด และนั่งลงข้าง ๆ อย่างอิ่มเอมใจ ท่าทางยโสโอหังเย้ยหยัน ทำให้กัวจินโกรธจนเกือบทำถ้วยชาในมือแตก
“ถ้วยชานี้ ซื่อจื่อมอบให้ นายท่านเวลาที่ท่านดื่มต้องระวังหน่อย ของที่ซื่อจื่อมอบให้ ห้ามทำเสียหายเด็ดขาด”
กัวจินดึงมือกลับอย่างนิ่ง ๆ และไม่กล้าลงมืออีก
จิงเหนียงเห็นท่าทางที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟของกัวจิน ในใจก็ยิ่งรู้สึกภาคภูมิใจ นางเห็นกัวจินโกรธจนหน้ามืด แต่ไม่กล้าลงมือกับนาง
“เซี่ยงหย่วนหลิน ไปกับข้า” เมื่อกัวจินเห็นจิงเหนียงไม่มีท่าทางที่โอ้อวดแล้วจึงเดินออกไป
……….