ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1664 ต่อรองราคา
บทที่ 1664 ต่อรองราคา
“คุณหนูท่านนี้ ของในร้านหล่านเยว่ ทุกฝีเข็มและด้ายล้วนปักโดยช่างปักของร้านหล่านเยว่ ท่านดูสิ ความละเอียดของตุ๊กตาตัวนี้รวมถึงการออกแบบของตุ๊กตา ในทั่วเมืองหลวงมีเพียงร้านหล่านเยว่เท่านั้น แม้ว่าราคาจะแพงไปหน่อย แต่ของสิ่งนี้ทั่วเมืองหลวงมีเพียงร้านหล่านเยว่เท่านั้น ถึงแม้การปักของที่อื่นจะลอกเลียนแบบร้านเรา แต่จริง ๆ มีเพียงที่นี่”
“ดูแล้วไม่มีอะไรต่างกันเลย ที่อื่นมีขายตั้งมากมาย” ผู้หญิงคนนั้นบ่นพึมพำ อยากจะวางมันลง แต่ก็อาลัยอาวรณ์
กู้เสี่ยวหวานมองดูผู้หญิงคนนั้น เสื้อผ้าที่สวมใส่ดูหรูหราสง่างาม แม้แต่ทองประดับบนหัวก็ดูใหม่เอี่ยม ฐานะก็ดูดี ไม่น่าจะขาดแคลนเงินเพียงเล็กน้อยนี้
แต่ก็เห็นเพียงเจี่ยงปู้หวนยิ้มแล้วพูดว่า “เมื่อพูดถึงความแตกต่าง ในต้าชิงมีแค่ร้านหล่านเยว่ ในใต้หล้านี้ก็มีเพียงร้านหล่านเยว่ที่มีตุ๊กตาเช่นนี้และตุ๊กตานี้ก็เป็นหนึ่งในใต้หล้า ความต่างกันมากเช่นนี้ คุณหนูคิดว่าเป็นของธรรมดาทั่วไปหรือไม่”
หญิงสาวคนนั้นพยักหน้า “ไม่ธรรมดา แต่ว่า…พอดูแล้วการปักของมันก็เหมือนกับของที่อื่น”
“ทองประดับบนหัวคุณหนูเป็นของร้านเตี่ยนชุ่ยฟางหรือไม่” เจี่ยงปู้หวนจ้องมองปิ่นปักของอีกฝ่ายแล้วถามขึ้น “ปิ่นปักผมทองนี้สง่างามและมีความละเอียดมาก แค่มองก็รู้ว่ามาจากร้านที่เชี่ยวชาญ”
“อืม แน่นอน ของทุกสิ่งของข้าล้วนมาจากร้านเตี่ยนชุ่ยฟาง ร้านเตี่ยนชุ่ยฟางเป็นร้านทองที่ดีที่สุดในเมืองหลวง ใครไม่รู้จะซื้อทองประดับที่ไหนก็ไปซื้อที่ร้านเตี่ยนชุ่ยฟาง” หญิงสาวคนนั้นเห็นเจี่ยงปู้หวนชื่นชมเครื่องประดับของตน ก็พูดขึ้นอย่างดีใจ
เจี่ยงปู้หวนยิ้มแล้วพูด “จริงสิ คุณหนูรู้ว่าทองประดับที่ดีที่สุดในเมืองหลวงมาจากร้านเตี่ยนชุ่ยฟาง เครื่องประดับหยกมาจากร้านหน่วนอวี้ แต่ก็น่าจะเคยได้ยินว่า ตุ๊กตาที่ดีที่สุดในทั่วเมืองหลวงมาจากร้านหล่านเยว่”
“อืม เคยได้ยิน” น้ำเสียงของนางอ่อนลงเล็กน้อย ราวกับว่าถูกชักจูง
“ตุ๊กตาในร้านหล่านเยว่มีชื่อเสียงทั่วเมืองหลวง แม้ราคาจะแพงหน่อย แต่ดูจากฝีมือ การออกแบบ ไม่ว่าจะจ่ายเงินไปเท่าไหร่ก็คุ้มค่า” เจียงปู้หวนพูดโน้มน้าวต่อ “อีกทั้งยังเป็นของแท้ตามมาตรฐาน มีเพียงร้านหล่านเยว่เท่านั้นที่มี เครื่องประดับทองในร้านอื่นจะมีราคาถูกเพียงใดก็ไม่สามารถเทียบกับเครื่องประดับทองจากร้านเตี่ยนชุ่ยฟาง เครื่องประดับหยกจากร้านหยกอื่น ๆ ก็ไม่สามารถเทียบกับเครื่องประดับหยกจากร้านหน่วนอวี้ได้ เช่นเดียวกัน ร้านปักเย็บอื่น ๆ แม้จะมีตุ๊กตา แต่ของพวกนั้น เมื่อเทียบกับร้านหล่านเยว่ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คำขวัญของร้านหล่านเยว่เราคือ หนึ่งเดียวเท่านั้น ของที่คุณหนูซื้อในเมืองหลวงมีเพียงชิ้นเดียว หากครั้งหน้าเห็นอันอื่น ล้วนเป็นของเลียนแบบเท่านั้น”
น้ำเสียงของเจี่ยงปู้หวนอ่อนโยน ไม่เร่งไม่รีบ พูดจนหญิงสาวคนนั้นก็พยักหน้าไม่หยุด “ที่เจ้าพูดมีเหตุผล หนึ่งเดียวที่นี่ หากข้าซื้อแล้ว หนึ่งเดียวในเมืองหลวงแห่งนี้ก็คือข้า”
คนข้าง ๆ หญิงสาวที่แต่งตัวเหมือนสาวใช้พูดขึ้น “คุณหนู หากพวกเราซื้อกลับไปละก็
ต่อไปถ้าคุณหนูไปงานเลี้ยง แล้วเอาของชิ้นนี้ออกมาก็เป็นเกียรติและมีหน้ามีตา”
ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้าและพูดด้วยความพึงพอใจ “ถูกต้อง ตุ๊กตานี้ที่มาจากร้านหล่านเยว่ถึงจะเป็นของแท้ แม้ตุ๊กตาร้านอื่นจะทำออกมาเช่นเดียวกัน แต่ของร้านหล่านเยว่ก็คือของร้านหล่านเยว่ ของที่อื่นเทียบไม่ได้กับร้านหล่านเยว่”
เหล่าสตรีทั้งหลายในเมืองหลวง รู้สึกเป็นเกียรติเพราะตุ๊กตาจากร้านร้านเยว่ชิ้นเดียว หากมีคนซื้อจากที่อื่นต้องขายหน้าแน่นอน
หญิงสาวผู้นี้ฐานะน่าจะสูงส่ง ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป นางจึงให้สาวใช้ซื้อมันด้วยตั๋วเงินที่พกมา เต็มเปี่ยมไปด้วยท่าทางที่ชอบมากจนวางไม่ลง ราวกับว่าได้สมบัติล้ำค้า
“เถ้าแก่ ตุ๊กตาพวกนี้ล้วนมีแบบไม่ซ้ำกัน ซ้ำยังไม่พอขาย มีหลายคนจองไว้จนเกินครึ่งปีแล้ว” กู๋ไห่พูดด้วยรอยยิ้ม
“เหตุใดคุณหนูจึงไม่ทำเพิ่มอีกหน่อย” กู๋ไห่ถามด้วยความสงสัย “ตุ๊กตาในร้านพวกเราขาดตลาด แต่ตุ๊กตาทุกแบบมีเพียงชิ้นเดียว หากเป็นเช่นนี้ ก็จะเสียลูกค้าไปไม่น้อยเลยละสิ”
กู๋ไห่พูดด้วยใบหน้าที่น่าเสียดาย
เมื่อเห็นเขาเช่นนี้กู้เสี่ยวหวานก็ไม่ได้พูดอะไร แต่รอให้หญิงสาวคนนั้นจากไปแล้ว ถึงค่อยเปิดม่านออกมา
หลังจากกู๋ไห่และเจี่ยงปู้หวนส่งกู้เสี่ยวหวานกับกู้เสี่ยวอี้ขึ้นรถม้า กู้เสี่ยวหวานมองกู๋ไห่อีกและพูดเสียงเบา “ของที่หายากมีราคาแพง หวังว่าตระกูลกู๋จะไม่ลืมความตั้งใจเดิมของร้านหล่านเยว่”
ตอนที่ร้านหล่านเยว่เพิ่งเปิดสิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้พวกเขาคือหนึ่งเดียวเท่านั้น อยากจะสร้างชื่อเสียง แต่เป็นของที่หายากมีราคาแพง กู้เสี่ยวหวานไม่ได้สนใจว่าจะขายได้เงินเท่าไหร่ สิ่งที่นางสนใจคือของทุกชิ้นที่ขายออกไปต้องเป็นสินค้าชั้นเยี่ยม
นางไม่กลัวว่าความคิดสร้างสรรค์จะสูญหาย ชาติก่อนนางเคยเห็นตุ๊กตามามากมายหลายแบบ แต่ละชิ้นทำให้นางนึกถึงตุ๊กตาหลายประเภทที่ต่างกัน แม้ว่าวันหน้าหากจะสูญสิ้นปัญญา แต่นางก็สามารถใช้รูปแบบตุ๊กตาก่อนหน้านี้ได้อีกครั้ง และยังสามารถจำหน่ายได้ทั่ว
แต่มันเป็นเรื่องของอนาคต กู้เสี่ยวหวานก็ไม่ได้คิดไปถึงระยะเวลาที่ยาวนานขนาดนั้น
ตอนนี้ คนทำตุ๊กตาที่บ้านมีเพียงกู้เสี่ยวอี้กับท่านอา สองคนเท่านั้น ไม่สามารถผลิตได้เป็นจำนวนมาก ถึงแม้อาจจะทำได้ แต่กู้เสี่ยวหวานก็ทนไม่ได้ที่เห็นพวกนางนั่งทำงานอยู่ทุกวัน
เงินเป็นของนอกกาย อีกอย่าง ตอนนี้พวกนางก็ไม่ได้ขาดแคลน และไม่ต้องการมัน
ส่วนทางโค่วไห่ หลังจากส่งกู้เสี่ยวหวาน ก็ขับรถม้าตรงไปที่ร้านขายผ้าหลานชิง
เมื่อซื่อสี่พนักงานร้านขายผ้าหลานชิงเห็นลูกค้าประจำมาก็รีบมาต้อนรับอย่างอบอุ่น “พี่ใหญ่โค่ว ท่านมาแล้ว”
โค่วไห่พยักหน้า และเอาของในมือให้ซื่อสี่ดู และพูดว่า “นายท่านของข้าต้องการของสิ่งนี้ รบกวนพี่ซื่อสี่หามาให้ข้าที”
ซื่อสี่รับใบสั่งซื้อ เมื่อเห็นว่าเขาต้องการของมากขนาดนี้ อีกทั้งล้วนเป็นของที่มีคุณภาพ และมีราคาแพง ก็อดไม่ได้ที่จะดีใจและพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่ใหญ่โค่ว เชิญท่านนั่งรอสักครู่ข้าจะไปจัดการมาให้”
โค่วไห่ตอบรับ และนั่งลงพลางดื่มชารอ
ซื่อสี่กลับเข้าไปในหลังร้านเพื่อหยิบของตามรายการ แต่หลังจากหาอยู่นานก็หาไม่เจอ ดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะกังวลเล็กน้อย และรีบไปเคาะประตูห้องรับรอง ไม่นานก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างใน “เข้ามาสิ”
ซื่อสี่เอาใบสั่งซื้อเข้าไปก็เห็นหลีหยวนและเสิ่นเหวินเจวี้ยนทักทายกันอยู่หน้าประตู “คุณชายเสิ่น”
เสิ่นเหวินเจวี้ยนโบกมือให้เขาลุกขึ้น