ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1679 อุดปากของเจ้าเสีย
บทที่ 1679 อุดปากของเจ้าเสีย
ทุกคนกำลังครุ่นคิด มีคนของหมิงตูจวิ้นจู่บางคนหวังว่าองค์หญิงลี่หัวจะเอาเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ไปรายงานต่อฮ่องเต้และไทเฮาได้ทราบ จากนั้นก็รอเหยียบย่ำอันผิงจวิ้นจู่ที่ดูหมิ่นความเมตตาของฮ่องเต้ในงานเลี้ยงขอบคุณ แล้วนางจะยังมีชีวิตอยู่ได้อีกนานเท่าไร
หลังจากที่ซูหมิ่นและซูเฉี่ยนเยว่ถูกองค์หญิงลี่หัวตำหนิ รอยยิ้มบนใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ไม่นานซูเฉี่ยนเยว่ก็ปรับสีหน้ากลับมาเป็นปกติ ทั้งสองก็หยิบเหล้าผลไม้ตรงหน้าขึ้นมาดื่มด้วยกัน
ใบหน้าซูหมิ่นมีรอยยิ้มตลอดเวลา แต่ซูเฉี่ยนเยว่ไหนเลยจะมีความตื่นตระหนกตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเหมือนเมื่อครู่ ตอนนี้กลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิมที่เป็นหญิงงามหวานหยาดเยิ้มต่อหน้าทุกคน
นี่เป็นเพียงการเดินหมากอีกขั้นหนึ่งของซูหมิ่นเท่านั้น นางแค่อยากเห็นท่าทีขององค์หญิงลี่หัว และคิดไม่ถึงว่าจะให้นางได้ลองทำจริง ๆ
กลับเห็นว่าองค์หญิงลี่หัวคล้ายจะเอ่ยปากตำหนิซูเฉี่ยนเยว่เพื่อกู้เสี่ยวหวาน แต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นคนที่ถูกตำหนิกันแน่
นางรู้แค่ว่าองค์หญิงลี่หัวกำลังโมโหและโกรธมาก
หลังจากซูเทียนซื่อครองบัลลังก์ตั้งแต่เด็ก ก็มีความอ่อนไหวต่อฮ่องเต้มาก สำหรับคนที่ดูหมิ่นความเมตตาของฮ่องเต้ นั่นหมายความว่าดูหมิ่นซูเทียนซื่อเช่นกัน
เมื่อมองดูองค์หญิงลี่หัวที่นั่งกินข้าวอยู่เงียบ ๆ ตั้งแต่เมื่อครู่จนถึงตอนนี้ ซูหมิ่นก็รู้สึกอิ่มเอมใจมากและในใจก็หัวเราะเยาะเย้ยกู้เสี่ยวหวานที่อยู่ตรงข้าม
กู้เสี่ยวหวาน มาดูกันว่าเจ้าจะอยู่ในตำแหน่งจวิ้นจู่และอยู่ที่สวนชิงได้นานแค่ไหนกันเชียว
ไม่แน่ว่าดวงตะวันในวันพรุ่งนี้ก็อาจจะมองไม่เห็น
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ซูหมิ่นก็รู้สึกมีความสุขอย่างมาก ทิ้งความทุกข์ทั้งหมดไว้ข้างหลัง หลังจากดื่มเหล้าผลไม้ไปสองจอก ทันใดนั้นพลันรู้สึกว่าใบหน้าตนเองเริ่มรู้สึกร้อนผ่าว
แม้แต่คำที่องค์หญิงลี่หัวพูดกับนางฟังยังไงก็ฟังไม่รู้เรื่อง
“ข้าได้ยินเสด็จพี่บอกว่าไม่กี่วันก่อนได้มอบหยกหรูอี้เป็นรางวัลให้เจ้า ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ใด” ในที่สุดองค์หญิงลี่หัวก็รู้สึกว่าตัวเองอิ่มแล้ว ได้ยินมานานแล้วว่าอาหารที่ร้านจิ่นฝูเอร็ดอร่อยและมีชื่อเสียง แต่นางเป็นองค์หญิงจึงไม่สามารถออกจากวังได้อย่างตามอำเภอใจ แต่ถึงอย่างไรตอนนี้นางก็ได้กินแล้ว
รสชาติอาหารนี้ดีกว่ารสชาติในห้องเครื่องมาก
ความทุกข์ที่สะสมอยู่ในใจเมื่อครู่ ตอนนี้ได้หายไปในคราวเดียวเพราะได้กินอาหารอร่อย ในขณะที่เช็ดปากก็ได้ถามประโยคหนึ่งกับซูหมิ่นด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ
ซูหมิ่นดื่มเหล้าผลไม้ไปไม่น้อย ทำให้รู้สึกเมามายเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำว่าหยกหรูอี้ที่ได้รับมาอยู่ที่ใด ก็เงยหน้าแดง ๆ ขึ้นมาและพูดด้วยความมึนเมา “หยกหรูอี้นั้นเสด็จพี่ให้ข้า ของที่ล้ำค้าเช่นนั้นจะเอาออกมาตามใจได้อย่างไร ข้าเก็บรักษาไว้ในห้องอย่างระมัดระวังและทะนุถนอม”
“โอ้” สีหน้าองค์หญิงก็เปลี่ยนไป “ของที่เสด็จพี่ให้ด้วยตนเอง เจ้าไม่นำออกมาเก็บดี ๆ แต่กลับเอาไปซ่อนไว้ เจ้ากำลังตำหนิว่าหยกหรูอี้ที่เสด็จพี่ประทานให้นั้นไม่ดีพอ เทียบไม่ได้กับของสิ่งอื่นในจวนเจ้าใช่หรือไม่”
เนื่องจากซูหมิ่นเริ่มมึนเมาเล็กน้อยอีกทั้งยังเลอะเลือน เมื่อได้ยินคำนี้ ก็รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า ร่างกายราวกับถูกบดขยี้ หลังจากนั้นนางก็เข้าใจว่าองค์หญิงลี่หัวหมายถึงอะไร
นี่คือกำลังโยนความผิดมาให้นาง
นางก็ได้รับพระราชทานของขวัญ เหตุใดเจ้าจึงเก็บมันไว้ในห้องและใช้ของชิ้นอื่น หรือเจ้ารู้สึกว่าของขวัญที่ได้รับพระราชทาน มันเทียบไม่ได้กับของชิ้นอื่นหรือ
หลังจากปัดความผิดของกู้เสี่ยวหวานทิ้งเรียบร้อย ซูหมิ่นก็ฟื้นคืนสติขึ้นมาทันที
นางมององค์หญิงลี่หัวด้วยใบหน้าแดงก่ำ เพิ่งจะรอดูกู้เสี่ยวหวานพบเจอกับความโชคร้าย เพียงดื่มเหล้าผลไม้ไปไม่กี่จอกกลับทำให้อารมณ์ของนางสับสนวุ่นวาย
ซูหมิ่นพูดอะไรไม่ออก นางโกรธแทบตายแต่ก็ทำเป็นไม่ได้ยินอะไร
องค์หญิงลี่หัวเห็นนางเอาแต่นิ่งเงียบก็ไม่ได้โกรธเคืองและคิดว่านางคงดื่มมากไป
ถึงแม้ว่าเมื่อครู่ซูหมิ่นจะแสดงความอาฆาตที่ดุดันออกมาเพียงชั่วพริบตา แต่กู้เสี่ยวหวานและองค์หญิงลี่หัวก็เห็นมันอย่างชัดเจน
หลังจากทานข้าวเสร็จ งานเลี้ยงก็ถือว่าสิ้นสุดลง ในเทียบเชิญของกู้เสี่ยวหวานมีรายละเอียดงานเพียงสองรายการ คือชมใบเฟิงและรับประทานข้าวเท่านั้น ดังนั้น ทุกคนจึงไม่ได้พูดอะไร
หลังจากทานอิ่มแล้วทุกคนก็เริ่มร่ำราทยอยกันจากไป
กู้เสี่ยวหวานสั่งให้คนนำของขวัญออกมา ชิ้นแรกถูกบรรจุด้วยกล่องผ้า ทำให้ดูไม่ออกว่าของข้างในคืออะไร
ยังมีอีกหนึ่งชิ้นเป็นตุ๊กตาเล็ก ๆ ถูกบรรจุอยู่ในกล่องขนาดใหญ่
มันเป็นของที่กู้เสี่ยวอี้กับท่านอาใช้เวลาในช่วงนี้ทำออกมา โชคดีที่ก่อนหน้านี้เหลือตุ๊กตาบางส่วนอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหาซื้อฝ้ายหยกขาวไม่ได้จึงทำให้เกิดความล่าช้าในการทำงานและไม่สามารถทำของออกมาได้หรือไม่
คุณหนูเหล่านั้นอายุไม่มาก หลังจากที่เห็นตุ๊กตาที่สวยงามพวกนั้นก็ทยอยกันไปหยิบมาอย่างชื่นชอบ
“โอ้ ข้าเอาตัวนี้ ข้าเอาตัวนี้ ตัวนี้สวยมาก”
“ข้าเอาตัวนั้น ตุ๊กตาที่ตาโตโตตัวนั้น”
ในชั่วพริบตา กล่องตุ๊กตาที่นำมาก็ถูกหยิบไปจนหมดเกลี้ยงทั้งกล่อง
ตุ๊กตาพวกนี้ กู้เสี่ยวหวานเตรียมมาตามจำนวนคนที่มาร่วมงาน ที่บ้านยังเหลืออีกหลายตัว ดังนั้นเมื่อหมิงตูจวิ้นจู่ ซูเฉี่ยนเยว่และองค์หญิงลี่หัวมาถึงก็เหลือน้อยแล้ว
ซูเฉี่ยนเยว่เห็นทุกคนกำลังแย่งชิงตุ๊กตากันและเห็นว่าตุ๊กตานั้นน่ารักก็อยากจะเดินไปเอาสักตัว แต่เพิ่งจะขยับตัวก็ถูกซูหมิ่นเห็นและรีบดึงนางไว้
“เจ้าจะไปทำไม”
ซูเฉี่ยนเยว่พึ่งเข้าใจว่าเมื่อครู่นางเกือบจะทำผิดไปแล้ว จึงรีบหยุดเดินและกลับไปหยุดลงด้านหลังซูหมิ่น มองดูคนเหล่านั้นหยิบตุ๊กตาไปทีละตัว
ตุ๊กตาพวกนั้นช่างสวยงามจริง ๆ เหมือนของที่ร้านหล่านเยว่เลย
ซูเฉี่ยนเยว่มองดูแต่ละคนที่ถือตุ๊กตาคนละตัวอย่างอิจฉา ในใจรู้สึกคันยุบยิบอยากได้สักตัว ตุ๊กตาร้านหล่านเยว่ราคาแพงมาก บางตัวที่ใหญ่หน่อยก็ตัวละหลายพันตำลึง
แพงจะตายและมันถูกขายหมดอย่างรวดเร็ว ซูเฉี่ยนเยว่ยิ่งกังวลมากขึ้น พลางดึงแขนเสื้อซูหมิ่นและพูดขึ้น “พี่หมิ่น ตุ๊กตานั้นเหมือนของร้านหล่านเยว่ ข้าก็อยากได้สักตัว”
ซูหมิ่นได้ยินก็หัวเราะเยาะทันที “ใครบอกเจ้าว่าของนั่นเป็นของร้านหล่านเยว่ ของที่ร้านหล่านเยว่ขายมีเพียงอย่างละชิ้น เจ้าดูสิ หน้าตาซ้ำกันขนาดนั้น ยังบอกว่าเป็นของร้านหล่านเยว่อีกหรือ”
……….