ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1680 องค์หญิงตำหนิ
บทที่ 1680 องค์หญิงตำหนิ
ซูเฉี่ยนเยว่ได้ยินก็พยักหน้าเห็นด้วย
ร้านหล่านเยว่มีกฎเช่นนี้ ของทุกประเภทที่ขายมีเพียงชิ้นเดียวไม่ซ้ำใคร แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยมีชิ้นที่สอง หากพบเจอที่อื่นนั้นล้วนเป็นของปลอม
แต่ว่า…
ซูเฉี่ยนเยว่เห็นคนเหล่านั้นแย่งตุ๊กตากัน ในใจก็ยังคงลังเลเล็กน้อย
ถึงแม้จะไม่ใช่ของร้านหล่านเยว่ แต่ทำออกมาได้ประณีตขนาดนั้น มันดีกว่าของร้านอื่นมาก
กู้เสี่ยวหวานเอาตุ๊กตามนุษย์มาสี่ตัว และยื่นให้องค์หญิงลี่หัว “องค์หญิง ท่านเลือกสักตัวสิ”
องค์หญิงลี่หัวมองดูตุ๊กตาที่สวยงามก็รู้สึกดีใจมาก โชคดีที่ครั้งก่อนกู้เสี่ยวหวานเอาให้นางสองตัว ครั้งนี้นางจึงเลือกตุ๊กตาที่ยังไม่มีและพูดด้วยรอยยิ้ม “ตุ๊กตานี้น่ารักมาก
ข้าชอบมากจริง ๆ”
หลังจากที่นางเลือกเรียบร้อยแล้วสีหน้าซูหมิ่นก็แสดงความรังเกียจออกมาอย่างปิดไม่มิด และหยิบมั่ว ๆ ออกมาหนึ่งตัว สีหน้าเต็มไปด้วยท่าทางที่รังเกียจเดียจฉันท์ แต่เพราะองค์หญิงลี่หัวรับมาแล้ว หากนางจะไม่รับไว้ก็คงเห็นทีว่าจะไม่ได้
มันเป็นเพียงของลอกเลียนแบบ แต่ก็คุ้มค่ากับการเชิญคนมามากเช่นนี้
หลินจิ้งหรูยืนเงียบ ๆ อยู่ข้าง ๆ มาตลอด กู้เสี่ยวหวานเอาสองตัวสุดท้ายมายื่นหน้านางและถามว่า “เจ้าชอบตัวไหน”
แม้ว่าครอบครัวหลินจิ้งหรูจะเข้มงวดมาก แต่ตุ๊กตาที่สวยงามอยู่ตรงหน้านางจะไม่รับมาได้อย่างไร ดังนั้นจึงเลือกมาหนึ่งตัวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มและลุกขึ้นขอบคุณทันที
“ขอบคุณอันผิงจวิ้นจู่มาก”
กู้เสี่ยวหวานจ้องมองหลินจิ้งหรูแล้วหัวเราะออกมา จากนั้นยื่นตัวสุดท้ายให้ซูเฉี่ยนเยว่
ซูเฉี่ยนเยว่ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะให้ตุ๊กตานาง ดังนั้นจึงดีใจจนแก้มแดง หลังจากได้มาก็พลิกดูไปมาซ้ำ ๆ ในใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข
ซูหมิ่นชำเลืองมอง ก็เห็นรูปลักษณ์ของตุ๊กตาที่ไม่ได้ดูดีอะไร จากนั้นก้มดูตุ๊กตาในมือ ทันใดนั้นก็หันไปหัวเราะเยาะกู้เสี่ยวหวาน “อันผิงจวิ้นจู่ นี่เจ้าซื้อตุ๊กตาจากที่ใดมาหลอกข้ากัน”
กู้เสี่ยวหวานมองซูหมิ่นอย่างเฉยเมย และเห็นคุณหนูคนอื่น ๆ ก็หยิบตุ๊กตาในมือขึ้นมามองซ้ำ ๆ อย่างประหลาดใจ
หลอกลวง
“หมิงตูจวิ้นจู่ หลอกลวงหมายถึงอะไร” กู้เสี่ยวหวานไม่เข้าใจความหมายของซูหมิ่น
แต่นางรู้ว่าคนผู้นี้หากวันนี้ไม่ส้รางเรื่อง นางคงไม่ปล่อยวางความเกลียดชังทั้งหมดที่มีในใจ
“เจ้าซื้อตุ๊กตามาจากที่ใดไม่รู้มาให้พวกข้า เจ้าหมายความว่าอย่างไร เพื่อเป็นของขวัญแทนคำขอบคุณหรือ” ซูหมิ่นถือตุ๊กตากับกล่องไม้ไว้ในมือและยิ้มเยาะเย้ย “ตุ๊กตาหนึ่งตัว ปิ่นปักผมหนึ่งชิ้น ทำไมของที่พวกข้าให้เจ้าไม่ได้มีค่าแค่หลายสิบตำลึง แต่ราคาเป็นร้อยตำลึง แต่ดูสิ่งที่เจ้าตอบแทนพวกข้าสิ มันควรจะดีกว่านี้ไม่ใช่หรือ เจ้าเอาของซอมซ่อเช่นนี้มาเป็นของตอบแทน แต่ไหนแต่ไรมาตลอดราชวงศ์ชิงไม่เคยมีคนไหนเอาตุ๊กตาและปิ่นปักผมมาเป็นของตอบแทนมาก่อน” ซูหมิ่นหัวเราะเยาะ
นางชำเลืองมองปิ่นปักผมในกล่องเมื่อกี้ เหมือนซื้อมาจากร้านแผงลอยทั่วไปราคาไม่เท่าไร ครั้นมองดูคุณหนูคนอื่น ๆ อีกครั้งก็พบว่าทุกคนมองสิ่งของในมืออย่างประหลาดใจ
ทันใดนั้นทุกคนก็มองหน้าหันและกันแล้วเริ่มซุบซิบขึ้นมา
“พวกเจ้าดูสิ ของข้าธรรมดาเช่นนี้ ครั้งก่อนเหมือนข้าเคยเห็นสิ่งนี้ตอนที่บ่าวรับใช้ในบ้านเก็บกวาดทำความสะอาด”
“ของข้าอันนี้ก็ใช่ สิ่งที่ข้ามอบให้นางคือโสมล้ำค่า แม้ว่าอายุจะไม่ถึงร้อยปีแต่ราคาก็หลายร้อยตำลึง หึหึ หากไม่ใช่เพราะหมิงตูจวิ้นจู่มีสายตาที่เฉียบคม พวกเราก็ยังคงถูกนางหลอกต่อไป”
“แต่ไหนแต่ไรมาตลอดราชวงศ์ชิงไม่มีใครมอบของขวัญเช่นนี้ หรือนางไม่เข้าใจกฎการมอบของขวัญกันหรือ”
“นางจะรู้อะไรได้เล่า นางมาจากชนบท เดิมทีก็ไม่เคยมีใครให้ความรู้นางมาก่อน”
“บังอาจ” องค์หญิงลี่หัวได้ยินคำนี้สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความโกรธ “ไม่มีความรู้ ประโยคนี้ใครเป็นคนพูด เดินออกมาด้านหน้าเดียวนี้”
ทุกคนเห็นองค์หญิงลี่หัวโกรธเคืองก็เย็นวาบไปทั่วทั้งแผ่นหลัง และชี้นิ้วไปที่ผู้หญิงคนหนึ่ง ก็เห็นหญิงคนนั้นตกใจจนน่าซีด “องค์หญิง”
“เจ้ายืนขึ้น” วันนี้ครั้งนี้องค์หญิงลี่หัวตาสว่างแล้วจริง ๆ ทั้งยังยืนอยู่ข้างกู้เสี่ยวหวาน
แม้วันนี้นางจะอยู่ที่นี่ก็ยังมีคนคอยเหน็บแนมกู้เสี่ยวหวานเป็นครั้งเป็นคราว แล้วถ้าหากนางไม่มาล่ะ
ซูหมิ่นรวมกองกำลังจากคนเหล่านี้ เหยียบย่ำกู้เสี่ยวหวานให้อยู่ใต้ฝ่าเท้าตนเอง
คุณหนูผู้นั้นหวาดกลัวจนหน้าซีด ก้าวเดินด้วยขาสั่นระริกและหยุดลงตรงหน้าองค์หญิงลี่หัว ท่าทางหวาดกลัวราวกับพบสัตว์ดุร้าย
เดิมทีองค์หญิงลี่หัวไม่ต้องการลงโทษใคร แต่เมื่อเห็นคนผู้นี้ปากเสียเหยียดหยามจวิ้นจู่อย่างตามอำเภอใจ นั่นคือการดูถูกความเมตตาของฮ่องเต้จริง ๆ
“ที่แท้ก็เป็นคุณหนูรองหวง สิ่งที่เจ้าพูดมาก็ไม่ผิด อันผิงจวิ้นจู่มาจากชนบท
แต่ตอนนี้นางเป็นจวิ้นจู่ เป็นคนของราชวงศ์ เจ้าเอาแต่ย้ำตลอดว่านางเป็นหญิงสาวชนบท ถือเป็นการเหยียดหยามราชวงศ์เพราะยอมรับสาวชนบทคนหนึ่งมาเป็นจวิ้นจู่
แต่ไม่ได้รับเจ้ามาเป็นจวิ้นจู่”
องค์หญิงลี่หัวพูดเสียงราบนิ่ง หวงอวี๋เซียงตอนนี้ราวกับคนทำผิดมหันต์ ในที่สุดตอนนี้ก็ทนไม่ไหวแล้ว คุกเข่าลงพื้นเสียงดัง “องค์หญิง หม่อนฉันไม่ได้หมายความเช่นนั้น”
องค์หญิงเหลือบมองอีกฝ่ายเล็กน้อย “ในเมื่อเจ้าคิดว่าของสิ่งนี้ไม่ดี เช่นนั้นข้าขอก็แล้วกัน ตุ๊กตาและปิ่นปักผมนี้ข้าชอบมาก เจ้าก็เอามันให้ข้าแล้วกัน”
หวงอวี๋เซียงได้ยินก็รีบตอบตกลง “ได้ ได้ ได้ หากองค์หญิงชอบ หม่อนฉันขอมอบให้องค์หญิงเพคะ”
หลังจากที่เห็นหวงอวี๋เซียงเอาของออกมาแล้ว ก็เหมือนได้ชีวิตกลับคืนมา
พลางคิดในใจว่าไม่สามารถล่วงเกินกู้เสี่ยวหวานผู้นี้ได้ ดังนั้นครั้งนี้องค์หญิงไม่โกรธเพราะเป็นงานมงคล ถ้าเป็นอดีตหากการดูถูกเหยียดหยามเช่นนี้เกิดขึ้น องค์หญิงลี่หัวไม่มีทางเมตตาแน่นอน
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ก็รู้สึกเย็นวาบทั่วแผ่นหลัง จึงเหลือบมองคนที่ยืนนิ่งอยู่ด้านข้างองค์หญิงลี่หัว ร่างกายที่สง่างามราวกับแสงจันทร์สีขาวนวลที่ส่องกระจ่างบนฟากฟ้า
ทั้งร่างกายและท่วงท่านั้นดูไม่เหมือนมาจากชนบทอย่างที่พูดเลยแต่น้อย
……….