ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1693 หย่าร้าง
ฮูหยินหลูไม่กล้าคิดเรื่องนี้ต่อ เรื่องของลูกสาวนาง ก็มีแค่ลูกนางเท่านั้นที่เป็นคนตัดสินใจได้ นางเข้าไปยุ่งไม่ได้
เมื่อคิดถึงตอนนี้ ฮูหยินหลูจึงรีบพูดขึ้นว่า “วันนี้เจ้าอยู่ข้างนอกมาทั้งวันแล้ว กลับมาก็มาหายายทันที ถ้าหากว่าเจ้ายังไม่กลับไปแม่ของเจ้าคงร้อนใจไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เจ้ารีบกลับไปหาแม่เจ้าเถอะ ยังไงซะก็กลับไปคุยเรื่องนี้กับแม่เจ้าให้ดีเถอะ และไม่ว่าเจ้ากับแม่ของเจ้าจะเลือกทางไหน ยายก็จะอยู่ข้างพวกเจ้า ถ้าหากพวกเจ้าจะออกจากตระกูลฟาง ตระกูลหลูก็จะเป็นบ้านของพวกเจ้า ถ้าหากไม่ออกจากตระกูลฟาง เช่นนั้น ก็ต้องจัดระเบียบในตระกูลฟางให้ดี ๆ ต้องแสดงอำนาจของภรรยายเอกและลูกสาวคนโตออกมา”
ซ่งจวินหัวและเนี่ยอวี่หลังจากที่ได้ฟังอยู่ข้าง ๆ ก็ต่างพากันพยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่ ๆ ตระกูลหลูจะเป็นบ้านของพวกเจ้าตลอดไป”
ฮูหยินหลูพูดด้วยน้ำเสียงฮึกเหิม ฟางเพ่ยหยาพยักหน้าด้วยความหนักแน่น “ท่านยาย ป้าสะใภ้ใหญ่ ป้าสะใภ้รอง พวกท่านวางใจเถอะ ข้าจะไม่ทำให้พวกท่านผิดหวัง”
หลังจากที่ฟางเพ่ยหยารายงานท่านยายแล้ว ก็ตรงกลับไปที่ลานของตัวเอง เมื่อมาถึงจึงถามสาวใช้ที่ชื่อเนี่ยนหรูเรื่องสุขภาพร่างกายของมารดา หลังจากฟังเนี่ยนหรูรายงานว่าวันนี้มารดารนางกินข้าวได้เยอะ และยังออกไปเดินเล่นด้านนอก ใบหน้าของฟางเพ่ยหยาจึงเผยรอยยิ้มออกมา
ขอแค่ท่านแม่ยังอยู่ อะไรในโลกนี้ก็ล้วนไม่ใช่เรื่องสำคัญ
ส่วนตระกูลฟางนั้น หากนางอยากกลับไปก็ไม่ติดขัด หากนางไม่อยากกลับก็ไม่กลับ ฐานะคุณหนูใหญ่ของตระกูลฟางนั้น นางไม่สนใจอยู่แล้ว
แต่ไม่รู้ว่าในใจของท่านแม่นั้นจะคิดอย่างไร และไม่รู้ว่านางจะยอมเห็นด้วยเรื่องที่จะออกจากตระกูลฟางไหม
จริง ๆ แล้ว นางรักท่านพ่อขนาดนั้น ถึงแม้ท่านพ่อจะทรยศนาง แต่ตอนนั้นท่านแม่ก็ยอมละทิ้งทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่ด้วยกัน
ดูแล้วที่พี่เสี่ยวหวานพูดก็ไม่ผิด โลกใบนี้ใจนั้นช่างเปลี่ยนได้ง่ายดาย และง่ายที่สุดคือคนที่ได้รับผลประโยชน์
ฟางเพ่ยหยาคิดมาถึงตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าใจของท่านแม่นั้นจะคิดยังไงกับเรื่องนี้ คิดแล้วคิดอีกก็ยังคิดไม่ออกว่าท่านแม่จะตอบรับอย่างไร อย่างไรก็ตาม ใจของนางนั้นคิดไตร่ตรองมาดีแล้วหากมีแผนที่จะต้องอยู่ในตระกูลฟางต่อ
เมื่อนางก้าวเท้าเข้าไปด้านใน ก็มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น “หยาเอ๋อร์กลับมาแล้วเหรอ”
“ท่านแม่” ฟางเพ่ยหยาได้ยินเสียงของมารดาจึงรีบตอบรับ และก้าวเท้าเร็วขึ้น เพื่อเข้าไปด้านใน
ร่างกายของหลูเหวินซินนั้นดีขึ้นมากแล้ว สามารถลุกจากเตียงและออกไปเดินเล่นได้แล้ว ทันทีที่ได้ยินเสียงของฟางเพ่ยหยาที่ไม่ได้พบหน้ามาทั้งวัน ในใจก็รู้สึกเป็นห่วงและกังวล
สำหรับการเข้าวังของกู้เสี่ยวหวานครั้งนี้ จากตำแหน่งเสี้ยนจู่ได้เลื่อนขั้นเป็นตำแหน่งจวิ้นจู่ หลูเหวินซินนั้นรู้สึกประหลาดใจมาก แต่นางก็เข้าใจได้
“เด็กสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ จะหาคนเช่นนี้ได้สักคนบนโลกใบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งยังเป็นเพื่อนสนิทของเจ้า ตอนนี้ฐานะของนางไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว ถ้าจะให้ดีเจ้าก็ต้องปฏิบัติต่อนางให้ดี ตอนนี้เจ้าสวยมากแล้วก็อย่าลืมนึกความดีของผู้อื่นด้วย ทั้งยังสุขภาพร่างกายของข้า ถ้าไม่ใช่เพราะนาง เกรงว่าแม้แต่กระดูกของข้าก็คงจะไม่เหลือ นางคือคนที่ช่วยชีวิตแม่ อยากให้เจ้ารู้ไว้ว่าเจ้านั้นจะต้องตอบแทนทุกคนให้ดี ๆ”
“ท่านแม่ ข้ารู้ ท่านวางใจเถอะ ข้าไม่ใช่คนที่อกตัญญูแน่นอน พี่เสี่ยวหวานนั้นดีกับข้า ดีกับท่าน ทั้งชีวิตนี้ของข้า ไม่ว่าจะหนักหนาแค่ไหนข้าก็จะตอบแทนนางให้ดีที่สุด” ฟางเจิ้งสิงเป็นคนทรยศ แต่กลับให้กำเนิดลูกสาวที่มีใจกตัญญู นางกลับเหมือนหลูเหวินซินมาก นิสัยดี มีจิตใจเมตตา
ดังนั้น หญิงสาวที่ไร้เดียงสา ไม่รู้ทันเล่ห์เหลี่ยม บางครั้งยังทำตามคำพูดของฟางหลานซินและฟางจู๋อวิ๋น ยังดีที่ไม่เกิดเรื่องร้ายแรง ไม่เช่นนั้นแล้ว…
หลูเหวินซินมองไปที่ลูกสาวที่เฉลียวฉลาดและมีจิตใจดี ในใจนั้นก็ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไร
“ท่านแม่ข้ามีเรื่องจะพูดกับท่าน” เมื่อพูดเรื่องของฟางเพ่ยหยาจบ นางจึงรวบรวมความกล้าเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงแผ่วเบา
“มีอะไรรึ” หลูเหวินซินเห็นฟางเพ่ยหยามีท่าทางจริงจังขึ้นมา เมื่อคิดว่าลูกสาวของตนเพิ่งกลับมาจากลานของมารดาตนเองหรือว่า…
“ท่านแม่ ข้าได้ยินมาว่า ท่านพ่อส่งกราบทูลฮ่องเต้เรื่องที่จะแต่งตั้งให้หวงหรูซื่อเป็นเก้าหมิงฟูเหริน” ฟางเพ่ยหยาคิดอย่างถี่ถ้วนดีแล้ว จึงได้ตัดสินใจนำเรื่องนี้มาบอกกับหลูเหวินซิน
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เราไม่สามารถขัดขวางอะไรที่มันจะเกิดได้
ท่านแม่ต้องรู้เรื่องแผนของท่านพ่อ ดังนั้นจะได้เตรียมตัวถูกว่าควรทำอย่างไร?
“งั้นหรือ?” เมื่อหลูเหวินซินได้ฟังเรื่องนี้ก็มีท่าทีนิ่งเฉย “ในที่สุดเขาก็มีแผนที่จะแต่งงานใหม่”
“ท่านแม่” เมื่อฟางเพ่ยหยาเห็นแม่ของนางยังใจเย็นอยู่เช่นนี้ จึงคิดว่าในใจของนั้นต้องกำลังรู้สึกเสียใจมากอยู่แน่ จึงรีบเอ่ยปลอบใจ “ท่านแม่ ตอนนี้พวกเรายังสามารถกลับไปที่ตระกูลฟางได้ ท่านพ่อจะได้รู้ว่าร่างกายของท่านแม่นั้นดีขึ้นแล้ว ถึงตอนนั้นเขาจะต้องไม่แต่งงานกับหวงหรูซื่อแน่”
“จริงหรือ?” หลูเหวินซินเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ สายตาว่างเปล่าไร้ความรู้สึก “เขาคิดมาตลอดว่าข้านั้นตายไปแล้ว แล้วเขาจะอยากเจอข้าอีกได้อย่างไร เขาไม่อยากเห็นหน้าข้า ข้าก็ไม่อยากเห็นหน้าเขาเหมือนกัน” หลูเหวินซินเห็นฟางเพ่ยหยาร้องไห้จึงรีบนำผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้ลูกแล้วปลอบใจว่า “หยาเอ๋อร์ ถ้าหากเจ้าเห็นด้วย ข้าว่าจะหย่ากับพ่อเจ้า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”
แยกทางกัน และจากกันด้วยดี
แม่ของนางพูดว่าแยกทางกัน จากกันด้วยดีจริง ๆ งั้นเหรอ
ท่านแม่ต้องการหย่าใช่หรือไม่
“ท่านแม่ ท่าน…ท่านคิดดีแล้วหรือ” ฟางเพ่ยหยามองหลูเหวินซินด้วยความตกใจและไม่อยากจะเชื่อ
“หรือจะต้องรอให้เมียใหม่ของเขามาฆ่าข้าด้วยมือของนางเองก่อนหรือไง” หลูเหวินซินได้ฟัง จึงพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ข้าเกือบจะตายอยู่ในตระกูลฟาง ถ้ายังคิดว่าข้าจะกลับไปอีก เกรงว่าถ้ามีชีวิตเข้าไปก็คงจะไม่มีชีวิตรอดออกมา ไม่นานเขาก็คงเห็นว่าข้าดูขัดหูขัดตา ครั้งนี้ยิ่งไม่ต้องรอให้ข้าตาย ก็คงแอบเข้าไปขอรับสั่งจากฮ่องเต้ คราวนี้ข้าคงตายจริง ๆ แน่”
หลูเหวินซินเอ่ยเย้ยหยัน สายตาโกรธเคือง ความอ่อนโยนที่เคยมีไม่มีอีกต่อไป
โชคชะตาทำให้อดีตหญิงสาวที่มั่งคั่งมีฐานะสูงส่งคนหนึ่งต้องไร้ซึ่งความรู้สึกขนาดนี้ นางรักใครคนหนึ่งอย่างสุดหัวใจ แต่นางกลับไม่ได้รับความชมชอบใดใดจากเขาเลย แล้วนางจะเก็บความรักเช่นนี้ไว้เพื่ออะไร