ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1700 ไม่ได้รับเชิญ
บทที่ 1700 ไม่ได้รับเชิญ
“โปรดนำทาง เราจะไม่แตะต้องสิ่งของที่นี่อีกต่อไป เพราะนี่คือบ้านของเสี่ยวหวานและก็เป็นของข้าด้วย” กู้ซินเถาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อระงับความไม่พอใจ และกล่าวเคล้ารอยยิ้ม
เมื่อซุนซีเอ๋อร์ได้ยินเช่นนี้ จึงยิ้มกว้าง “ใช่ใช่ใช่ บ้านของเสี่ยวหวานก็เหมือนบ้านของเราไม่ใช่เหรอ?”
โค่วไห่ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินสิ่งนี้ แต่ก็พาสองแม่ลูกไปยังห้องโถงใหญ่โดยไม่ได้พูดสิ่งใดอีก
“โปรดรอสักครู่ คุณหนูของข้าจะมาที่นี่ในไม่ช้า”
หลังจากพูดจบเขาก็ไม่สนใจสองแม่ลูกนั้นอีก ชายหนุ่มหมุนกายเดินออกไปอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นเขาออกไป ซุนซีเอ๋อร์ก็เห็นว่าไม่มีสาวใช้ในห้องโถงนี้ออกมาปรนนิบัติตนเอง จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นด้วยความไม่พอใจ “กู้เสี่ยวหวาน กำลังทำอะไรอยู่กัน ให้พวกเราเข้าทางประตูข้างก็มากพอแล้ว คนรับใช้ที่นำทางก็ไม่สุภาพ ตอนนี้ยังไม่มีคนมาปรนนิบัตเราอีก มันจะมากเกินไปแล้วนะ”
ใบหน้าของซุนซีเอ๋อร์เต็มไปด้วยความโกรธและความไม่พอใจ
กู้ซินเถาไม่ได้จริงจังและมองไปรอบ ๆ ห้องโถงใหญ่
ห้องโถงใหญ่มีขนาดใหญ่กว่าบ้านหลังเก่าของตระกูลกู้และบ้านในเมืองหลิวเจียรวมกัน และห้องโถงใหญ่เพียงห้องเดียวก็มีขนาดใหญ่มาก นางไม่อาจจินตนาการได้ว่าสวนชิงนี้จะมีขนาดใหญ่แค่ไหน
จากนั้นก็เห็นโต๊ะสูงสามชุ่นบนโต๊ะไม้จันทร์สีแดงในห้องโถง และภาพวาดทิวทัศน์โดยจิตรกรผู้มีชื่อเสียงแขวนอยู่บนผนัง
มีเก้าอี้เท้าแขนสองตัวที่ส่วนบนของห้องโถงหลัก เก้าอี้สี่ตัวที่ด้านซ้ายและขวาอยู่ส่วนล่าง และโต๊ะเตี้ยระหว่างเก้าอี้เท้าแขนสองตัว
หน้าต่างกระจกใสมีแสงส่องสว่างไสวไปทั่วห้องโถง ด้านซ้ายและขวาติดกับผนัง มีชั้นวางของเก่าสองตู้ มีของเก่ามากมายบนชั้นวางซึ่งแต่ละชิ้นดูสวยงามและประเมินค่าไม่ได้
ห้องหลักทั้งหมดดูเรียบง่าย แต่หรูหรา
ที่นี่คือสถานที่ที่กู้เสี่ยวหวานอาศัยอยู่ เรียบง่ายมาก แต่ในความเรียบง่ายนี้ ทุกสิ่งล้วนมีมูลค่าไม่ว่าใครก็จินตนาการได้ว่าชีวิตของกู้เสี่ยวหวานในตอนนี้ช่างหรูหรา และสะดวกสบายแค่ไหน
กู้ซินเถามองไปที่การตกแต่งที่หรูหราในห้องโถงใหญ่ด้วยสายตาเย็นชา ความอิจฉาและความแค้นในใจเพิ่มมากขึ้น
ทุกอย่างในห้องนี้หรูหรามาก ไม่เพียงแต่นางไม่เคยเห็นมัน นางไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อของสิ่งของมีค่าเหล่านี้เลยด้วยซ้ำ
ทั้งหมดนี้เป็นของผู้หญิงจากชนบทที่นางไม่เคยแม้แต่จะเหลียวแลมาก่อน มันไม่ใช่ของนาง ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้นางยังเป็นอันผิงจวิ้นจู่ และชื่อเสียงอันสูงส่งทำให้นางโดดเด่น
ทำไมสิ่งเหล่านี้ถึงไม่ใช่ของนาง
หลังจากความอิจฉาริษยาก็มีความแค้นอยู่ลึก ๆ
กู้ซินเถาพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “ท่านแม่ ถ้าทุกสิ่งที่นี่เป็นของเราก็คงจะดีมาก”
ทันทีที่ซุนซีเอ๋อร์ได้ยินเสียงของกู้ซินเถา นางรู้สึกหวาดกลัวกับน้ำเสียงเย็นชาลูกสาว หลังจากฟังทุกอย่าง ซุนซีเอ๋อร์ก็พยักหน้าและพูดว่า “ใช่แล้ว ทุกอย่างควรเป็นของเราถึงจะดี”
ซุนซีเอ๋อร์มองไปที่ทั้งหมดนี้ด้วยความอิจฉาริษยา
ทั้งคู่มองดูสิ่งนี้ด้วยความอิจฉา ไม่รู้ว่าพวกนางรออยู่ตรงนี้มานานแค่ไหนแล้ว ครั้นยังไม่เห็นว่ามีผู้ใดมาสักที แม้แต่สาวใช้ปรนนิบัติก็ไม่ดี กู้ซินเถาจึงอดโกรธเคืองไม่ได้ “กู้เสี่ยวหวานกำลังทำอะไรอยู่ เรารอมานานมากแล้วนะ ถ้านางไม่มาก็ไม่เป็นไร แต่นี่ไม่มีแม้แต่ชาให้พวกเราสักแก้ว ข้ายังเป็นลูกพี่ลูกน้องของนางอยู่หรือไม่”
ริมฝีของปากซุนซีเอ๋อร์แห้งผากเล็กน้อย และพูดเสริม “ใช่แล้ว นางให้พวกเรารอมานานมากแล้ว”
“ไปที่จวนหมิงอ๋องกันเถอะ หมิงตูจวิ้นจู่คงไม่ให้เรารอนานขนาดนี้ กู้เสี่ยวหวานผู้นี้หลังจากกลายเป็นจวิ้นจู่อันผิงก็มีนิสัยเย่อหยิ่ง แต่ไม่ว่าตำแหน่งจะใหญ่โตแค่ไหน นางก็ยังเป็นหลานสาวของข้า และข้าก็เป็นผู้อาวุโสของนางด้วย” ซุนซื่อเอ่ยเสียงเบาให้กู้ซินเถาได้ยินคนเดียว
“ท่านป้า ไม่เจอกันนานเลย” หลังจากที่ซุนซีเอ๋อร์พึมพำ นางได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ จากข้างนอก กู้ซินเถาหันศีรษะไปและเห็นกู้เสี่ยวหวาน ดวงตาของนางก็ฉายแววอิจฉามากขึ้นไปอีก
กู้เสี่ยหวานตรงหน้าพวกนางสวมอาภรณ์สีแดง บริเวณเอวคาดด้วยผ้าสีขาว มีจี้หยกสีเขียวมรกตห้อยอยู่ตรงเอว ทันทีที่เข้าใกล้ก็จะรู้สึกถึงความอบอุ่น นางสวมเสื้อคลุมกันลมขนสุนัขจิ้งจอกสีขาวราวกับหิมะ และแก้มที่ขาวเนียนราวกับหยก
ผมของนางถูกเกล้าขึ้นอย่างประณีตและประดับด้วยปิ่นหรูอี้หยกขาวฝังด้วยไข่มุกสีแดง และต่างหูสีแดงห้อยอยู่บริเวณหู การแต่งหน้าเบาบาง แม้ว่าจะไม่หรูหราแต่ก็งดงามมาก และทำให้ผู้คนไม่กล้าดูถูก
ใบหน้ารอยยิ้มจาง ๆ แต่มีความถือตัวอยู่
ไม่ได้เจอนางมาหลายปีแล้ว แต่เด็กสาวในหมู่บ้านที่ผอมแห้งแรงน้อยผู้นั้น ตอนนี้กลายเป็นหญิงสาวสวยสง่า สิ่งนี้ยิ่งทำให้ กู้ซินเถาเกลียดนางมากขึ้น และอยากจะฉีกรอยยิ้มของคนตรงหน้า
กู้ซินเถารู้ว่ากู้เสี่ยวหวานไม่มีความรู้สึกอยากต้อนรับนางแน่นอน และนางไม่ต้องการมาที่สถานที่ผีสิงแห่งนี้เพื่อดูว่า กู้เสี่ยวหวานแต่งตัวสวยงามแค่ไหน และชีวิตความเป็นอยู่ของนางเป็นอย่างไร แต่นางหวังว่าทั้งหมดนี้จะเป็นของนาง
มันบังเอิญมากที่นางยังคงสามารถช่วยหมิงตูจวิ้นจู่ได้ ตราบใดที่หมิงตูจวิ้นจู่พอใจ ทุกสิ่งที่นางต้องการก็เป็นของนางไม่ใช่หรือ
นางยังสามารถเหยียบย่ำคนที่น่ารำคาญตรงหน้าจมดินได้
ความชั่วร้ายและความอิจฉาในดวงตาฉายชัดออกมา กู้ซินเถาคิดว่าตัวเองควบคุมอารมณ์ได้ดี แต่ไม่คาดคิดว่าเมื่อมองไปที่กู้เสี่ยวหวาน กู้เสี่ยวหวานจะเห็นความเกลียดชังในดวงตาของอีกฝ่ายได้ชัดเจน
“เสี่ยวหวานไม่เจอกันนาน เจ้าสวยขึ้นเรื่อย ๆ” กู้ซินเถาระงับความรู้สึกไม่พอใจ เมื่อนางคิดถึงผลประโยชน์ที่นางจะได้รับจากการทำสิ่งนี้ นางเดินหน้าไปจับมือกู้เสี่ยวหวานเพื่อแสร้งทำเป็นพี่น้องที่รักใคร่
กู้ฟางสี่และกู้เสี่ยวอี้เองก็ตามมาด้วย เมื่อเห็นซุนซีเอ๋อร์และกู้ซินเถา พวกนางก็ไม่รู้สึกมีความสุขเลย ตรงกันข้าม พวกนางรู้สึกถึงความอันตรายจากสิ่งที่มาจากใจของพวกเขา
พังพอนมาอวยพรปีใหม่ไก่ ไม่มีเจตนาดีแน่
ก่อนหน้านี้ซุนซีเอ๋อร์และกู้ซินเถามักจะสร้างเรื่องยุ่งยากให้อยู่เสมอ ตอนนี้พวกนางมาที่นี่โดยไม่ได้รับเชิญ ไม่ว่าอย่างไรก็รู้สึกว่าพวกนางคงไม่มีเจตนาที่ดี
กู้ซินเถาเข้าหากู้เสี่ยวหวาน อย่างอบอุ่นเหมือนพี่สาวที่แสนดี จับมือกู้เสี่ยวหวานและยิ้ม