ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1701 พังพอนมาอวยพรปีใหม่
บทที่ 1701 พังพอนมาอวยพรปีใหม่
กู้เสี่ยวหวานจับมือกู้ซินเถา หญิงสาวคลี่ยิ้มกว้างพลางตบมืออีกฝ่ายเบา ๆ และพูดอย่างมีความสุขว่า “นานแล้วที่ไม่ได้เจอท่านพี่กับท่านป้า”
กู้เสี่ยวหวานจงใจเน้นคำว่าท่านพี่และท่านป้าด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความหมาย ทำให้กู้ซินเถาและซุนซีเอ๋อร์ตัวสั่นเทิ้มโดยไม่ได้ตั้งใจ ราวกับว่ากู้เสี่ยวหวานล่วงรู้แผนการทั้งหมดของพวกนาง จึงทำให้พวกนางเกิดอาการหวาดกลัวขึ้นมา
“เสี่ยวหวานไม่เจอกันนานเลย ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะงดงามถึงเพียงนี้ งดงามเสียจนข้าเกือบจำไม่ได้” หลังจากที่ซุนซีเอ๋อร์พูดแบบนี้ นางก็หลุบตาลงไม่กล้าสบตากู้เสี่ยวหวาน และวิ่งไปที่ด้านข้างของกู้ฟางสี่เพื่อพูดคุยกับนาง
“ฟางสี่ ข้าได้เจอเจ้าแล้ว ดูเจ้าตอนนี้สิ ฮ่าฮ่า ข้าเกรงว่าแม้แต่สตรีผู้สูงศักดิ์ในเมืองรุ่ยเสียนก็เทียบเจ้าไม่ได้” ซุนซีเอ๋อร์เห็นว่ากู้ฟางสี่แต่งกายอย่างงดงาม และอาศัยอยู่ในจวนหลังใหญ่เช่นนี้ ปิ่นปักผมบนศีรษะเป็นสิ่งที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน และเพียงแค่มองก็รู้ว่าปิ่นปักผมนั้นมีราคาไม่ถูก
ซุนซีเอ๋อร์อิจฉาจนความริษยาในแววตาลุกโชน กู้ฟางสี่ที่เคยอยู่ในกำมือตนเอง แต่ตอนนี้นางกำลังใช้ชีวิตสุขสบาย จะไม่ให้โกรธเคืองได้อย่างไร?
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ซุนซีเอ๋อร์จึงพูดด้วยแรงอารมณ์ “ฟางสี่ เจ้าคงไม่รู้สินะ หลายปีมานี้พี่ชายของเจ้าพูดถึงเจ้าตลอดเวลา เขาบอกไม่ได้เจอเจ้ามานานและไม่รู้ว่าเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เป็นห่วงเจ้าทั้งวันทั้งคืนจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ตอนนี้ในที่สุดก็เจอเจ้าและก็พบว่าเจ้าสบายดี ข้าจะนำเรื่องนี้ไปบอกพี่ชายของเจ้า พี่ชายของเจ้าจะได้คลายกังวลเสียที”
คำพูดของซุนซีเอ๋อร์ดูเหมือนจะตำหนิกู้ฟางสี่กลาย ๆ
พี่ชายของเจ้ากังวลจนกินไม่ได้หรือนอนหลับ แต่เจ้ากลับกินหรูอยู่สบาย สุขสบายอยู่ที่นี่คนเดียวโดยไม่คำนึงถึงพี่ชายตนเอง
เห็นได้ชัดว่าคำพูดของซุนซีเอ๋อร์กำลังเสียดสี และพวกนางกำลังวิจารณ์กู้ฟางสี่ แต่พวกนางจะรู้ได้อย่างไรว่ากู้ฟางสี่คนปัจจุบันไม่ใช่กู้ฟางสี่คนก่อนอีกต่อไป
นางต้องทนทุกข์กับความยากลำบากก่อนหน้านี้จะโทษใครได้? ไม่ใช่เพราะพี่สะใภ้และพี่ชายเจ้าเล่ห์ตรงหน้าหรอกหรือ?
คิดถึงนางหรือ?
กู้ฟางสี่ตะโกนอย่างเย็นชาในใจ พวกเขาอาจคิดว่าตอนนี้นางเป็นอิสระ แล้วกำลังคิดว่าจะขายนางให้ใครได้บ้าง
ซุนซีเอ๋อร์รอสักครู่ แต่ไม่เห็นความเคลื่อนไหวบนใบหน้าของกู้ฟางสี่ ดังนั้นนางจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกเล็กน้อย ขณะที่นางกำลังจะพูดนางก็ได้ยินกู้ฟางสี่หัวเราะเยาะ “ขอบคุณท่านพี่และพี่สะใภ้ที่คิดถึงข้า ข้าไม่คิดว่าการเป็นแม่ม่ายของข้าจะรบกวนท่านและพี่สะใภ้อย่างนี้ แต่คราวนี้ข้าเป็นแม่ม่ายชรา และหน้าตาก็อัปลักษณ์คงขายไม่ได้เงินมากมายแล้ว”
คำพูดของกู้ฟางสี่ทำให้ใบหน้าของซุนซีเอ๋อร์เปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที
สิ่งที่กู้ฟางสี่พูดเป็นความจริง กู้ฉวนลู่กำลังคิดเรื่องการแต่งงานของกู้ฟางสี่จริง ๆ
ก่อนหน้านี้ในเมืองรุ่ยเสียนมีพ่อม่ายที่ร่ำรวยจำนวนไม่น้อยเพิ่งสูญเสียภรรยาไป และต้องการใช้เงินเพื่อหาภรรยาใหม่ และเขาก็ยอมจ่ายเงินเป็นจำนวนมาก
กู้ฉวนลู่นึกถึงกู้ฟางสี่ขึ้นมาทันที แต่ก็น่าเสียดายในเวลานั้นกู้ฟางสี่ได้ติดตามกู้เสี่ยวหวานมาที่เมืองหลวงแล้ว นอกจากนี้ในตอนนี้กู้เสี่ยวหวานยังเป็นเสี้ยนจู่อันผิงระดับห้า การที่กู้ฉวนลู่จะพากู้ฟางสี่ออกไปนั้นไม่ใช่งานง่าย
ดังนั้นเขาจึงพูดถึงเรื่องนี้ทุกวันว่าเขาสูญเสียการแต่งงานที่ดีและเงินจำนวนมาก เมื่อกู้ฉวนลู่นึกถึงเรื่องนี้เขาเสียใจมากจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ
กู้ฟางสี่สามารถมองเห็นการหลบเลี่ยงและความลำบากใจในดวงตาของซุนซีเอ๋อร์ได้อย่างชัดเจน และหัวใจของนางก็จมดิ่งลง ดูเหมือนว่านางจะเดาถูกจริง ๆ
ดูเหมือนพวกเขาคงยากที่จะเปลี่ยนและไม่เคยคิดจะเปลี่ยน
นางเพียงต้องการปกป้องลูกของพี่รองให้มีชีวิตที่ดีเท่านั้น และนางไม่ต้องการคิดถึงเรื่องอื่นอีกต่อไป และอ้อนวอนคนเหล่านี้ว่าอย่ามายุ่งกับหลาน ๆ ของนางอีก เด็กเหล่านี้สามารถมีชีวิตที่ดีได้ ดังนั้นอย่านำความวุ่นวายมาสู่พวกเราเลย
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ กู้ฟางสี่ก็พูดอย่างเย็นชา “พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าไม่สนใจว่าท่านจะคิดยังไงกับข้า แต่เด็กเหล่านี้ล้วนเป็นหลานชายและหลานสาวของท่าน และมันไม่ง่ายเลยที่พวกเขาจะมีชีวิตที่ดีเช่นนี้ได้ ข้าอยากจะข้อร้องให้ท่านดูว่าทุกคนมาจากตระกูลกู้และเลือดของตระกูลกู้ก็กำลังไหลอยู่ในร่างกาย อย่าทำอะไรกับเด็กเหล่านี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะเป็นคนแรกที่จะจัดการกับพวกท่าน”
เสียงของกู้ฟางสี่เย็นชาแม้ว่าจะฟังดูเหมือนเป็นการเตือนสติ แต่ก็ฟังดูเหมือนเป็นการข่มขู่
ใบหน้าของกู้ซินเถาเปลี่ยนเป็นมืดมนทันที แต่ซุนซีเอ๋อร์ยังมีสีหน้านิ่งเฉย แต่กลับรีบก้มศีรษะลง
ทันทีที่กู้ซินเถาได้ยินสิ่งนี้ นางจึงพูดว่า “ท่านอา ท่านหมายความว่าอย่างไร พวกเรามาหาพวกท่าน แต่พวกท่านพูดกับเราแบบนี้ ไม่ผิดหรอก เราเคยทำเรื่องไม่ดีกับพวกท่านมาก่อน แต่มันจบไปแล้วทำไมถึงยังยึดติดมันไว้ เราก็ดีขึ้นแล้วเหมือนกัน”
ขณะที่พูดก็บีบน้ำตาให้ไหลออกมา
“ถ้าสามารถเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ ข้าก็ยินดี” กู้ฟางสี่ไม่ได้สนใจกูซินเถาที่กำลังหงุดหงิดและพูดทีละคำอย่างจริงจัง “ถ้าใครต้องการใส่ร้ายเด็กเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามข้าจะเป็นคนแรกที่ไม่ยอม”
เมื่อเห็นกู้ฟางสี่ดุลูกสาวของนาง ซุนซีเอ๋อร์ก็ไม่ยอมอีกต่อไป นางกอดอกและพูดประชดประชันว่า “ฟางสี่ เป็นเพราะเจ้าเสียดายการมีส่วนร่วมกับเกียรติยศและความมั่งคั่งนี้ใช่หรือไม่? เจ้าได้รับพรเช่นนี้แล้วจะยอมเสียมันไป ถูกต้องแล้ว ถ้าพวกเขาไม่มีทรัพย์สมบัตินี้ เจ้าก็จะยอมลำบากไปพร้อมพวกเขาหรือ?”
การเสียดสีของซุนซีเอ๋อร์ทำให้กู้ฟางสี่อ้าปากค้าง “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่าน…”
“ฟางสี่ เจ้าพูดถึงความเมตตากรุณาและความชอบธรรม แต่ในใจเจ้าคิดอะไรอยู่ เจ้าหวังดีต่อพวกเขาจริง ๆ หรือหวังให้ตัวเองมีชีวิตที่ดี เรื่องนี้ไม่มีผู้ใดรู้นอกจากตัวเจ้า”
“ท่านป้า ท่านพูดพอหรือยัง” กู้เสี่ยวหวานอดไม่ได้ที่จะรู้สึกรำคาญเมื่อเห็นท่านอาของตนเองถูกใส่ร้าย
นางไม่ต้องการให้กู้ซินเถาและคนอื่น ๆ เข้ามา แต่นางก็ต้องการดูว่าพวกนางมีแผนการอะไร ดังนั้นนางจึงปล่อยให้พวกนางเข้าไป
ใครจะคาดคิดว่าความรู้สึกที่แท้จริงของซุนซีเอ๋อร์จะถูกเปิดเผยด้วยคำพูดเพียงคำเดียวจากท่านอา
……….