ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1743 ข้อตกลงของทั้งสอง
บทที่ 1743 ข้อตกลงของทั้งสอง
ว่านถิงชุนพยักหน้า “คราวก่อนที่มาสองรอบชีพจรของฮูหยินยังไม่มั่นคงนัก ครั้งนี้ก็เป็นเวลาสามเดือนกว่าแล้ว หลังจากที่จับชีพจรเสร็จ สามารถบอกฮูหยินได้อย่างมั่นใจว่าลูกในท้องของท่านเมื่อคลอดออกมาต้องเป็นบุตรชายอย่างแน่นอน”
หลิวเนี่ยนโหรวฟัง ดวงตาก็เป็นประกายด้วยความยินดี “เจ้าแน่ใจหรือ”
“ไม่พูดว่าสิบส่วนก็คือเก้าส่วน” ว่านถิงชุนโอ้อวดความสามารถในการจับชีพจรของตัวเอง เขาจับแล้วไม่มีทางผิดพลาดอย่างเด็ดขาด
เมื่อเห็นเขามั่นใจมากเช่นนี้ หลิวเนี่ยนโหรวลูบท้องของตัวเองด้วยสีหน้าตื่นเต้น ปากก็พึมพำอย่างไม่หยุดว่า “เป็นบุตรชายก็ดี เป็นบุตรชายก็ดี”
เหมือนว่านางจะมองเห็นตำแหน่งภรรยาเอกของฟางเจิ้งสิงโบกมือให้ตัวเองอีกครั้ง เมื่อถึงเวลานั้นบุตรชายและบุตรสาวตนเองก็จะเป็นทายาทสายตรงที่ถูกต้องของตระกูลฟาง
นางก็จะไม่ใช่อนุภรรยาที่ต่ำต้อยอีกต่อไปแล้ว แม้แต่งานเลี้ยงของพวกฮูหยินในเมืองหลวงก็ไม่สามารถไปเข้าร่วมได้ หลูเหวินซินแค่ไปไม่ได้ แต่นางนั้นไม่อาจไปได้เลย
เพียงเพราะฐานะของนางเป็นอนุภรรยา อาศัยแค่อยู่ในจวนตระกูลฟางใช้อำนาจข่มเหงเหยียบย่ำหลูเหวินซินอย่างชั่วร้าย ฐานะของนางข้างนอกก็เป็นเพียงอนุภรรยาไปตลอดแค่เท่านั้น
ในใจหลิวเนี่ยนโหรวยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น แม้แต่ปลายนิ้วก็ยังสั่นเทาเล็กน้อย
ถ้าหากหวงหรูซื่อไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้จะดีแค่ไหนกัน ตำแหน่งฟางฮูหยินนั้นก็จะกลายเป็นจริงสำหรับนางแล้ว
หลิวเนี่ยนโหรวคิดเช่นนี้และคิดอยากจะพูดประโยคที่คิดไว้ในใจเนิ่นนานแล้วออกมา แต่ว่าสุดท้ายก็กลืนกลับลงไป นางยังคงนึกถึงฟางเจิ้งสิง
แม้ว่าหวงหรูซื่อจะให้กำเนิดไม่ได้ แต่ว่าฟางเจิ้งสิงนั้นสามารถทำได้ ไม่มีหวงหรูซื่อก็ยังมีหลันหรูซื่อ จื่อหรูซื่อ ขอเพียงแค่เป็นสตรีที่สามารถให้กำเนิดได้ ฟางเจิ้งสิงก็สามารถแต่งงานใหม่และให้พวกนางกำเนิดบุตรชายให้แก่เขาได้
เมื่อนึกถึงตรงนี้ความคิดของหลิวเนี่ยนโหรวก็ล้มเลิกทันที
ถ้าหากหวงหรูซื่อไม่สามารถให้กำเนิดได้ก็ดี อย่างน้อยหลังจากผ่านไปสามปีที่นางมั่นคงแล้วก็จะถูกยกให้เป็นภรรยาเอก แต่ว่าถ้าหากในอนาคตเล่า
หากฟางเจิ้งสิงแต่งงานกับสตรีอื่นมีชาติตระกูลที่ดีอีกเล่า
หลังจากนางครุ่นคิดอยู่นาน ทันใดนั้นก็นึกอีกวิธีหนึ่งได้
นางกัดฟันและหยิบถุงเงินของตัวเองวางไว้ตรงหน้าของว่านถิงชุน เหมือนว่าจะตัดสินใจอย่างมากที่จะถามว่า “หมอว่าน ข้ายังอยากให้ท่านช่วยเหลือข้าอีกเรื่องหนึ่ง นี่เป็นเงินค่ารักษา”
ว่านถิงชุนรีบเปิดถุงเงิน พอเห็นสิ่งที่ยัดไว้ข้างในจนเต็ม เขาก็ตกตะลึงจนหุบปากไม่ลง
ข้างในเต็มไปด้วยเงินก้อนตำลึงและยังเป็นสีเหลืองทองอร่าม
“ในนั้นมีหนึ่งร้อยตำลึงทอง ถ้าหากว่าเจ้าสามารถช่วยได้ เงินหนึ่งร้อยตำลึงทองทั้งหมดนี้ก็จะเป็นของเจ้า หลังจากจบเรื่องเจ้าก็นำเงินหนึ่งร้อยตำลึงทองนี้ออกจากเมืองหลวงไปได้ทันที เจ้าไปที่ใดก็สามารถเปิดโรงหมอเองและเป็นเจ้าของเองได้”
หลิวเนี่ยนโหรวพูดอย่างชักจูง
หลังจากที่ว่านถิงชุนฟังก็อึ้งจนอ้าปากกว้าง
หนึ่งร้อยตำลึงทองนี้อย่าว่าแต่โรงหมอหนึ่งแห่งเลย เป็นโรงหมอสองแห่งเขาก็สามารถเปิดได้
ทุกคนพอเห็นก็เงินเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นมา ว่านถิงชุนเองก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน
เขาโอ้อวดวิชาความรู้อย่างเต็มอก เดิมทีคิดว่าหลังว่าหลังจากมาที่โรงหมอเสวียนหูแล้วจะสามารถอาศัยความรู้ความสามารถของตนเองหาเงินได้มากมาย แต่ว่าหลังจากที่รอมานานกว่าหนึ่งเดือน เขาจึงพบว่าที่แท้ในโรงหมอเงินก็ไม่ได้หาได้ง่ายดายเช่นนั้น
คนป่วยเหล่านั้นไม่มารักษากับเขาเลย แม้ว่าค่ารักษาของตนนั้นจะต่ำที่สุดในโรงหมอเสวียนหู แต่ว่าพวกเขาก็ไม่มากัน
อย่างไรเสียคนป่วยที่สามารถมารักษาที่โรงหมอเสวียนหูได้ ถ้าไม่ใช่ผู้ที่มีเงินก็เป็นผู้สูงศักดิ์ แต่ไหนแต่ไรพวกเขาก็ไม่สนใจค่ารักษาเพียงแค่ไม่กี่ตำลึง
ความกระตือรือร้นของว่านถิงชุนในตอนแรกกลายเป็นหดหู่ขึ้นมาทันที หลังจากที่เผชิญเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งฮูหยินท่านนี้มาถึงห้องโถงของเขา
เขาไม่รู้สถานะตัวตนที่แท้จริงของฮูหยินท่านนี้ แต่เมื่อเห็นนางแต่งตัวหรูหราเช่นนี้ พอคิดดูแล้วจะต้องเป็นฮูหยินของตระกูลไหนที่ร่ำรวยแน่นอน ครั้งแรกที่มา นางมีอายุครรภ์เพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น สิ่งที่นางต้องการนั้นก็สัมผัสไม่ได้
พอมาครั้งที่สองก็ประมาณสองเดือน ก็ยังไม่อาจสัมผัสชีพจรออกมาได้เช่นกัน
ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามที่มาแล้ว ว่านถิงชุนสัมผัสชีพจรออกมานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่าในใจจะยังไม่แน่ใจมากนัก แต่เมื่อเห็นท่าทางที่รีบร้อนของฮูหยินท่านนี้ ว่านถิงชุนได้เพียงแต่หยิบยกคำพูดที่ดีอย่างสุภาพ
แม้ว่าในใจจะรู้สึกกังวลใจอยู่บ้าง แต่เมื่อเห็นเงินตำลึงทองมากมายเช่นนี้ ความหวาดกลัวในใจเมื่อครู่นี้ก็หายวับไปในทันที
ด้วยเงินตำลึงทองมากมายขนาดนี้ เขาไปที่ใดก็สามารถมีชีวิตที่ดีได้
ในใจว่านถิงชุนได้ตัดสินใจแล้ว เมื่อได้ยินหลิวเนี่ยนโหรวบอกว่าต้องการให้ช่วยนางอย่างหนึ่ง ว่านถิงชุนต่อสู้กับสีหน้าสักพักก็ตกลงทันที “ฮูหยินโปรดกล่าว ขอเพียงข้าน้อยสามารถทำได้ ข้าน้อยก็จะไม่เอ่ยปฏิเสธ”
ราวกับหลิวเนี่ยนโหรวจะล่วงรู้มานานแล้วว่าว่านถิงชุนจะช่วยเหลือตนเอง มุมปากของนางมีรอยยิ้มที่เย็นชา เมื่อมองไปรอบ ๆ แล้วเห็นว่าในห้องมีเพียงแค่ตัวเอง ก็ส่งสัญญาณให้ว่านถิงชุนเข้ามาและกระซิบข้างหูของเขาว่า “ข้าต้องการให้เจ้ามอบยาที่กินแล้วสามารถไร้ทายาท”
ไร้ทายาท
พอว่านถิงชุนได้ยินสมองก็อื้ออึงไปสักพัก เขามองหลิวเนี่ยนโหรวอย่างตกตะลึง ฮูหยินที่น่ารักอ่อนโยนผู้นี้ตอนที่เพิ่งจะได้ยินว่าตัวเองตั้งครรภ์บุตรชาย ท่าทางที่เต็มไปด้วยความรักใคร่นั้นในตอนนี้ไม่สามารถมองเห็นได้เลยแม้แต่น้อย ใบหน้าที่งดงามนั้นคับแคบราวกับปีศาจ
“ฮะ ฮูหยิน นะ นี่เป็นเรื่องที่ไร้มนุษยธรรม ข้า ข้า” ว่านถิงชุนลังเลเล็กน้อย แต่ว่านี่เป็นเรื่องที่ไร้มนุษยธรรม ทำให้ผู้อื่นไร้ทายาท กรรมจะต้องตามสนอง
หลิวเนี่ยนโหรวแค่นหัวเราะ “หมอว่าน แค่ทำให้คนผู้นั้นไม่สามารถมีบุตรได้อีกก็พอแล้ว ไม่ใช่ว่าจะให้เขาไร้ทายาทจริงเสียเมื่อไหร่ บุตรของเขาก็มีแล้วยังจะกลัวว่าเขาจะไม่มีหลานอยู่อีกหรือ”
หลิวเนี่ยนโหรวยิ้มอย่างนุ่มนวล เพียงแต่รอยยิ้มนั้นคับแคบเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
ว่านถิงชุนเพิ่งเข้าใจความหมายของหลิวเนี่ยนโหรว นางอยากให้เด็กในท้องของนางเป็นทายาทที่บิดาต้องการ
“แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ว่า…” ว่านถิงชุนยังคงขัดขืนเล็กน้อย “ทำร้ายผู้อื่นให้ไร้ทายาทสืบสกุล อย่างไรเสียก็เป็น…”