ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1752 สินสอดมากมาย
บทที่ 1752 สินสอดมากมาย
กู้เสี่ยวหวานอดไม่ได้ที่จะเสียใจ รู้ว่าตัวเองไม่ควรรับเงินมาสามเท่าของคำสั่งซื้อนี้
เห็นท่าทางเป็นกังวลของกู้เสี่ยวอี้ ทำให้กู้เสี่ยวหวานเสียใจ พลางถอนหายใจอย่างไร้หนทาง “เสี่ยวอี้ เจ้าไม่ต้องเสียใจ นี่ไม่ใช่ธุระของเจ้า เป็นข้าที่ไม่ถามความเห็นเจ้าก่อน นั่นคือเหตุผลที่ตัดสินใจแบบนี้ เจ้าทำส่วนอื่น ๆ ของตุ๊กตาให้เสร็จก่อน ข้าจะถามผู้อื่นดูว่าที่ไหนมีฝ้ายหยกขาวหรือไม่”
ณ ตอนนี้คือหนทางทั้งหมดที่มี
ตอนนี้ไม่อาจหาฝ้ายหยกขาวได้ ตุ๊กตาสองตัวที่ตกลงไว้ว่าจะส่งมอบในวันที่สิบห้าจะสามารถส่งมอบให้ผู้อื่นได้อย่างราบรื่นได้อย่างไร
กู้เสี่ยวหวานคิดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ แต่นางไม่สามารถนั่งนิ่งดูดายได้ หลังจากรู้ว่าเมืองหลินเป็นสถานที่ปลูกหยกขาว กู้เสี่ยวหวานจึงสั่งให้โค่วไห่เดินทางไปเมืองหลินทันที
กู้เสี่ยวอี้ทำส่วนอื่น ๆ เสร็จสิ้นแล้วรอแค่ฝ้ายหยกขาวมา
ดูเหมือนว่าความกังวลจะน้อยลงเรื่อย ๆ
อีกด้านหนึ่ง จวนฟางถูกประดับประดาด้วยโคมไฟ ทุกคนล้วนแต่งกายด้วยผ้าไหมสีแดงและผ้าไหมสีสันอื่น มีชีวิตชีวามาก สินสอดถูกเตรียมไว้เพียบพร้อม รวมเป็นแปดสิบแปดกล่อง มัดด้วยผ้าไหมสีแดงทั้งหมด และถูกวางไว้ในลานของจวนฟาง
ดูเหมือนไม่กี่วันที่ผ่านมา หวงหรูซื่อแสดงท่าทางราวกับสตรีที่เพิ่งสวมเฟิ่งกวานเสียะเพ่ย*[1] และทำตัวประหนึ่งตนคลอดบุตรชายให้กับฟางเจิ้งสิงแล้ว
ฟางเจิ้งสิงไม่อาจระงับความตื่นเต้นนี้ได้ มองสินสอดทองหมั้นตั้งหน้าหัวแถวไปจนถึงปลายแถวราวกับชื่นชมดอกไม้ ท่าทางของเขาดูเหมือนไม่ได้ใส่ใจนัก ครั้นเห็นสิ่งที่ตนอยากได้ ก็คืนรายการสินสอดให้กับหลิวเนี่ยนโหรว “เจวี้ยนเอ๋อร์ เจ้าทำให้ข้าวางใจนัก”
หลิวเนี่ยนโหรวรับรายการสินสอดเก็บไว้อย่างเรียบร้อย และใส่กลับเข้าไปในแขนเสื้อ มองฟางเจิ้งสิงแววตาตำหนิและกล่าวเคล้ารอยยิ้ม “นายท่าน ผู้คนมากมายท่านไม่กลัวพวกเขาหัวเราะหรอกหรือ”
“หัวเราะอันใดกัน ก็เพียงการแสดงออกของสองสามีภรรยาไม่ใช่หรือ โหรวเอ๋อร์ เจ้าวางใจเถอะ แม้ว่าฮูหยินจะถูกแต่งเข้ามา แต่เจ้ารักเดียวใจเดียว ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าเสียเปรียบแน่นอน”
ฟางเจิ้งสิงมองไปที่หลิวเนี่ยนโหรวและพูดด้วยความรักใคร่ ในใจเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความสุขสมหวัง
ขับไล่หลูเหวินซินที่เขาไม่ได้มีใจออกไป แต่งงานกับคุณหนูหวงที่ยังสาวและสวย ยังมีหลิวอี้เหนียงที่เข้าใจและอยู่เคียงข้าง ชีวิตฟางเจิ้งสิงทุกวันนี้ยิ่งดีขึ้นเรื่อย ๆ
คำพูดของฟางเจิ้งสิงไพเราะเสนาะหู หลิวเนี่ยนโหรวจึงพยักหน้าอย่างเขินอาย ความพึงพอใจในแววตาชัดเจนมากยิ่งขึ้น จากนั้นค่อย ๆ เอียงศีรษะซบลงบนไหล่ของฟางเจิ้งสิง สายตาสอดส่องไปที่ผู้สวมผ้าไหมสีแดง ผ้าไหมหลากสีสันและของหมั้นในลาน เมื่อลานจวนทั้งหมดถูกจัดอย่างเรียบร้อย แววตาที่อ่อนโยนของหลิวเนี่ยนโหรวก็หายไปแทนที่ด้วยความเย็นชา รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏขึ้นที่มุมปาก
หวงหรูซื่อ เจ้าอยากยกสินสอดแปดสิบแปดกล่องเข้าไปในตระกูลฟางหรือ
ข้าจะให้ของขวัญชิ้นใหญ่แก่เจ้าเพื่อที่เจ้าจะได้แต่งงานกับตระกูลฟางโดยเป็นที่สนใจของคนทั้งเมือง
เนื่องจากงานมงคลใกล้เข้ามาแล้ว ตระกูลฟางจึงรีบเตรียมสินสอดแปดสิบแปดกล่องส่งไปตระกูลหวง และรอเกี้ยวที่ส่งไปรับเจ้าสาวดังเช่นปีก่อน
เมื่อเดินทางมาถึงตระกูลหวง คนรับใช้นับทวนรายการสินสอด ครั้นหวงหรูซื่อได้ยินสมบัติมากมายที่อยู่หลังม่านก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ในเวลาเพียงไม่กี่วัน ฟางเจิ้งสิงได้รวบรวมสมบัติมากมาย ดูเหมือนว่าทรัพย์สินของตระกูลฟางจะมีมากมหาศาล
ท่านแม่หวงตามหวงหรูซื่อเข้าไปข้างใน ได้ยินเสียงข้างนอกก็จับมือของหวงหรูซื่อด้วยความพึงพอใจและพูดว่า “หรูซื่อฟังนะ สมบัติมากมายขนาดนี้ ในช่วงเวลาสั้น ๆ ฟางเจิ้งสิงได้เตรียมสินสอดแปดสิบแปดกล่องเพื่อเจ้า ล้วนเป็นของเก่าที่หายาก ทองและหยก ซึ่งประเมินค่าไม่ได้ ฟางเจิ้งสิงพอใจเจ้ามาก เจ้าแต่งงานไปแล้วไม่ทนทุกข์ทรมานอย่างแน่นอน”
คนรับใช้ที่อยู่ด้านข้างก็พูดว่า “ใช่เจ้าค่ะ สินสอดแปดสิบแปดกล่องข้าได้ยินคนพูดว่าเมื่อสินสอดทองหมั้นถูกแห่ไปรอบ ๆ เมือง ผู้คนมากมายในเมืองหลวงจะออกมาดูด้วยความตื่นเต้น สินสอดมากมาย จะเว้นก็แต่เชื้อพระวงศ์และขุนนางไม่มีใครได้เงินสินสอดทองหมั้นมากขนาดนี้ ท่านมีวาสนาเหลือเกิน”
แม้แต่คำพูดของคนรับใช้ผู้นั้นก็ทำให้ท่านแม่หวงพยักหน้าด้วยความพอใจ “หรูซื่อ แม้ว่าใต้เท้าฟางจะแก่กว่าเจ้า แต่เขามีตำแหน่งเช่นเดียวกับพ่อเจ้า และได้รับการชื่นชมจากฝ่าบาท อนาคตของเขานั้นยาวไกล เจ้าเป็นฮูหยินอันดับรองหากเจ้าก้าวไปอีกขั้นเจ้าจะได้เป็นฮูหยินเอก ยกเว้นนางสนมและขุนนางในวัง ทั่วทั้งเมืองหลวงเจ้ามีหน้ามีตาที่สุด”
ท่านแม่หวงพูดไม่หยุด พูดจนหวงหรูซื่อหน้าแดงด้วยความเขินอาย ใบหน้าเล็ก ๆ ก้มลงจนแทบจะซบลงกับอก “ท่านแม่ ข้ารู้”
“ใต้เท้าฟางเป็นที่พึ่งพิงที่ดีที่สุดของเจ้าแล้วตอนนี้ ปล่อยวางสิ่งที่ไม่มีในอดีตได้แล้ว คนเราต้องมองไปข้างหน้าเสมอ รู้หรือไม่”
ก่อนหน้านี้นับรายการสินสอดจบแล้ว ท่านแม่หวงให้คนคัดลอกสำเนา และมอบให้กับหวงหรูซื่อ นอกจากนี้นางต้องการหยิบไปเป็นสินเดิม
หวงหรูซื่อเป็นพี่น้องต่างมารดากับหวงอวี๋เซียง ซึ่งตอนนี้ก็นั่งฟังรายการสินสอดต่าง ๆ
ยิ่งฟังในใจยิ่งอิจฉาขึ้น ปลายนิ้วที่อยู่ในแขนเสื้อแทบจะจิกลงไปบนเนื้อ
หวงอวี๋เซียงเป็นลูกที่เกิดจากอนุภรรยา ปีนี้อายุสิบหกสมควรหมั้นหมายได้แล้ว แต่ตอนนี้นางยังทำได้แค่รอ
เป็นเพราะหวงหรูซื่อพี่สาวคนโตยังไม่ได้แต่งงาน แม้ว่าหวงอวี๋เซียงหาคนดี ๆ เจอแล้ว แต่สองตระกูลตอนนี้ยังไม่มีการแลกเปลี่ยนวันเดือนปีเกิดของคู่หมั้น ทั้งสองครอบครัวยังไม่ได้ยืนยันการแต่งงาน
หวงอวี๋เซียงร้อนอกร้อนใจ
นางเป็นลูกอนุภรรยา นางพอใจกับการแต่งงานครั้งนี้มาก เพราะหวงหรูซื่อไม่ได้แต่งงาน จึงทำให้นางแต่งงานไม่ได้และผู้ชายก็แก่เกินไป หากยืดเยื้อไปมากกว่านี้หวงอวี๋เซียงกังวลมากว่าครอบครัวของฝ่ายชายจะเปลี่ยนใจ
ท้ายที่สุดกลัวว่าจะไม่ได้แลกเปลี่ยนวันเดือนปีเกิดกับคู่หมั้น
[1] เฟิ่งกวานเสียะเพ่ย หมายถึงเครื่องยศสตรีในสมัยโบราณ ส่วนมากมักจะได้รับพระราชทานเพราะสามีที่รับราชการทำความชอบต่อแผ่นดิน ในบางรายก็ได้รับตั้งแต่ยังไม่ออกเรือนเป็นกรณีพิเศษ และสองสิ่งนี้ก็ได้พัฒนาจนมาเป็นอุปกรณ์ในการแสดงงิ้วที่ทำให้เราเพลิดเพลินและดื่มด่ำไปกับความสวยงามอันแฝงความหมายดี ๆ หลังจากที่ผ่านกาลเวลามานับหลายร้อยปี
………………..