ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1756 มอบของขวัญด้วยกัน
บทที่ 1756 มอบของขวัญด้วยกัน
“เจ้ากำลังจะบอกว่าฟางเจิ้งสิงเอาสินเดิมของแม่เจ้าไปเป็นสินสอดให้หวงหรูซื่องั้นเรอะ!”
ได้รับการยืนยันจากการพูดของฟางเพ่ยหยาแล้ว ถานอวี้ซูก็ผุดลุกพรวดพราด “เหตุใดใต้หล้านี้ถึงได้มีคนที่หน้าด้านเช่นนี้อยู่ ช่างน่าไร้ยางอายจริง ๆ”
ถานอวี้ซูสาปแช่งอย่างโกรธเคือง และมองกู้เสี่ยวหวานที่ส่งสายตามา จึงตระหนักได้ว่าเมื่อครู่ตนเองหุนหันพลันแล่นเกินไป อย่างไรเสียคนผู้นั้นก็เป็นบิดาของสหายตนเอง ครั้นรู้ตัวว่าพลั้งปากพูดไปจึงขอโทษฟางเพ่ยหยาใบหน้าหน้าแดงก่ำ “เพ่ยหยา ข้าขอโทษด้วย เมื่อครู่ข้าหุนหันพลันแล่นเกินไป”
“ไม่เป็นไร” ฟางเพ่ยหยาไม่โทษถานอวี้ซูที่จะตำหนิบิดาของตน
สำหรับนางแล้ว ฟางเจิ้งสิงตอนนี้ยังเทียบไม่ได้กลับคนแปลกหน้า
อีกทั้งถ้อยคำเหล่านั้นของถานอวี้ซู ในใจนางก็ใช้ด่าเขามาแล้วนับไม่ถ้วน
“คนผู้นั้นก็เป็นคนเช่นนั้นอยู่แล้ว หลายปีมานี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำเรื่องน่าอับอาย” ฟางเพ่ยหยาชิงชังผู้เป็นบิดา แววตาคู่นั้นเต็มไปความไม่พอใจที่ตำหนิฟางเจิ้งสิง
กู้เสี่ยวหวานไม่ได้ร้อนรนเช่นเดียวกับถานอวี้ซู พลางก้มมองรายกายในมือ “เพ่ยหยา เจ้ามีแผนแล้วหรือไม่”
“ข้าจะไปมีแผนการใดได้” ฟางเพ่ยหยาหมดหนทาง ฝืนยิ้มออกมา “ข้าอยากได้สินเดิมของท่านแม่กลับคืนมา ของทั้งหมดนี้ล้วนเป็นของแม่ข้า ต่อให้ข้าจะเอาไปโยนให้สุนัขก็ยังดีเสียกว่า ข้าไม่อาจปล่อยให้หวงหรูซื่อกับฟางเจิ้งสิงมาเอาเปรียบท่านแม่ได้”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สายตาฟางเพ่ยหยาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
“ในปีนั้นตระกูลหลูช่วยกันหาสินเดิมเหล่านี้มาอย่างยากลำบากเพื่อเตรียมไว้ให้ท่านแม่ ของทุกอย่างล้วนเป็นตระกูลหลูที่จัดเตรียมไว้ แต่ฟางเจิ้งสิงผู้นั้นไม่ได้เตรียมอะไรเลย”
“เช่นนั้นยิ่งต้องไปเอากลับมา” เมื่อถานอวี้ซูเห็นความเคียดแค้นนั้นจึงพูด “สินสอดพวกนี้ของแม่เจ้า จะปล่อยให้ผู้อื่นครอบครองได้อย่างไร”
“รายการสินสอดนี้เจ้าได้มาเยี่ยงไร” กู้เสี่ยวหวานมองกระดาษในมืออีกครั้ง “ถ้าพูดตามความเป็นจริง รายการสินสอดนี้จะถูกเปิดเผยออกมาง่ายดายได้อย่างไร”
ฟางเพ่ยหยามองดูถานอวี้ซูกับกู้เสี่ยวหวานที่ถามตนเองอย่างสงสัย ฟางเพ่ยหยาจึงบอกเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ หลิวเนี่ยนโหรวสั่งให้สาวใช้นำมันมาให้
“งั้นเจ้าหมายความว่า หลิวเนี่ยนโหรวจงใจส่งคนมามอบของสิ่งนี้ให้เจ้า นางวางแผนใดกัน” ถานอวี้ซูถามขึ้น “หรือว่านางกำลังโอ้อวดว่านางสามารถตัดสินใจเรื่องพวกนี้ได้”
“ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน” ฟางเพ่ยหยาจนปัญญา “ท่านตาบอกว่าจะไปเจรจากับท่านปู่และยอมเสียค่าตอบแทนสูงเพื่อกู้หน้ากลับมา แต่…”
เมื่อนึกถึงตาเฒ่าสองคนนี้พวกเขาไม่อายที่จะไปทวงสินเดิมของลูกสาวกลับมา นี่…
นางมองดูใบรายงานในมือ ส่ายหัวพลางพูดว่า “ดูเหมือนหลิวเนี่ยนโหรวอยากให้เจ้าไปก่อกวนแล้วล่ะ”
“ก่อกวน”
“ก่อกวนอะไร” ทั้งสองคนมองกู้เสี่ยวหวานอย่างสงสัย ไม่ได้เข้าใจความหมายของอีกฝ่ายสักนิด
กู้เสี่ยวหวานชี้รายการสินสอดสองใบในมือ “ไม่ต้องรีบ เรื่องนี้ไว้คุยกันอีกที อาจั่วเจ้าช่วยอะไรข้าหน่อย”
อาจั่วนำใบรายการทั้งสองและออกไปพร้อมโคว่ตัน เพียงเวลาหนึ่งเค่อก็ทำตามคำสั่งของกู้เสี่ยวหวานสำเร็จ ตรวจสอบทุกอย่างเรียบร้อย
“ในใบรายการเก่ามีสินเดิมทั้งหมดหกสิบแปดอย่าง ในใบรายการใหม่มีสินสอดทั้งหมดแปดสิบแปดอย่าง และในใบรายการสินสอดใหม่นั้นมีห้าสิบอย่างที่เหมือนรายการสินสอดเก่า”
ก็หมายความว่าจริง ๆ แล้วสินสอดที่ตระกูลฟางมอบให้หวงหรูซื่อมีเพียงสามสิบแปดอย่างเท่านั้น
อีกห้าสิบอย่างเป็นสินเดิมของหลูเหวินซิน เดิมทีตั้งใจจะนำกลับมาตอนที่หย่ากัน แต่หลายปีมานี้ถูกฟางเจิ้งสิงใช้หมดไปกับวงราชการแล้ว
แต่ตอนนี้ก็หาเจออีกครั้งแล้ว
ดูเหมือนฟางเจิ้งสิงก็ไม่เต็มใจที่จะให้สินเดิมพวกนี้ เหมือนจะยังมีประโยชน์ในการใช้สอยอย่างอื่น
“ทั้งห้าสิบอย่างล้วนเป็นของแม่เจ้า ตระกูลฟางมาถึงจุดนี้แล้วหรือ ช่างหน้าด้านไร้ยางอายเสียจริง” เมื่อถานอวี้ซูได้ยินจำนวนสินสอดก็กัดฟันด้วยความโมโห เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกว่าแต่งภรรยาต้องใช้สินเดิมของอดีตภรรยา
หากเรื่องนี้ถูกแพร่ออกไป เกรงว่าหลายคนคงหัวเราะเยาะจนฟันร่วง
เมื่อเห็นรายการสินสอดยิบยอดในมือ ทั้งหมดเป็นสินเดิมของมารดาตนเอง ฟางเพ่ยหยาทนต่อไม่ไหวและลุกขึ้น “ท่านพี่ ข้าจะไปจวนตระกูลหวง และนำของทุกอย่างที่เป็นของท่านแม่ข้ากลับคืนมาตอนนี้เลย”
ฟางเพ่ยหยากำลังจะไป แต่กู้เสี่ยวหวานรีบหยุดนางไว้ “เจ้าไปตอนนี้แล้วเจ้าคิดว่าหวงหรูซื่อจะสูญเสียอะไรหรือไม่ อย่างไรเสียตระกูลหวงก็ไม่ยอมรับเด็ดขาด ถึงอย่างไรของพวกนี้ก็เอากลับไปตระกูลฟาง แล้วนางก็จะไม่มาพัวพันกับเจ้า ให้เจ้าไปหาตระกูลฟาง เจ้า…”
กู้เสี่ยวหวานหยุดพูดและมองฟางเพ่ยหยาที่มีใบหน้ามืดมน “ในเมื่อฟางเจิ้งสิงเคยหลอกพวกเจ้าครั้งหนึ่ง แน่นอนว่าครั้งที่สองเขาก็ทำได้ หากเรื่องนี้แพร่ออกไป คนอื่นจะพูดแค่ว่าเจ้ายุ่งไม่เข้าเรื่อง และยังกล้าขัดขวางงานมงคลของพ่อตัวเอง”
“เช่นนั้นข้าควรทำอย่างไร หรือว่าให้เฝ้าดูพวกเขารักกันตลอดไป ทั้งที่ขโมยสินเดิมของแม่ข้าไปงั้นเรอะ” ฟางเพ่ยหยากระวนกระวายจนแทบจะร้องไห้ออกมา
“ในตอนนั้นแม่ข้าร้อนรนที่จะรีบไปจากเขา นอกจากข้าก็ไม่มีอะไรอีกเลย หากเขาเอาเงินนั้นไปใช้เพื่ออนาคตก็คงดี แต่จะเป็นไปได้อย่างไร” ฟางเพ่ยหยาร้อนรนจนหน้าแดง เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ก็เหมือนมีก้างติดคอ
หากท่านแม่รู้เรื่องนี้ ไม่รู้เลยว่าท่านแม่จะโกรธมากขนาดไหน
ทั้งความกังวล จนปัญญา และความโกรธของฟางเพ่ยหยา กู้เสี่ยวหวานมองออกอย่างชัดเจน เพียงแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาโกรธแค้น ตรงกันข้ามยังถือว่าเป็นโอกาสที่ดี
ถานอวี้ซูเห็นเช่นนี้ก็รีบรุดขึ้นหน้าอย่างตื่นเต้น “ท่านพี่ ท่านคิดแผนอะไรออกใช่หรือไม่”
กู้เสี่ยวหวานเขย่ากระดาษในมือ “พวกเราก็ได้รับเทียบเชิญไปมอบของขวัญให้*[1]หวงหรูซื่อไม่ใช่หรือ ดีเลย เช่นนั้นพวกเราไปด้วยกันเถอะ”
“ไปด้วยกัน” ถานอวี้ซูมองฟางเพ่ยหยา จะไปด้วยกันได้อย่างไร
ลูกสาวของอดีตภรรยาจะไปมอบของขวัญให้ภรรยาใหม่ของบิดาตนเอง
พูดอย่างไรก็รู้สึกแปลก ๆ
หน้าฟางเพ่ยหยาก็ชะงัก “ท่านพี่ จะไปด้วยกันได้อย่างไร นางไม่ได้มอบเทียบเชิญให้ข้า”
และนางก็ไม่มีทางยอมแน่นอน
[1] ว่าที่เจ้าสาวจะให้ลูกกวาดมงคลกับเพื่อน ๆ ถ้าเพื่อนได้รับแล้วจะให้ของตอบแทน อาจจะเป็นเงินหรือของขวัญ