ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1776 รับราชโองการ
บทที่ 1776 รับราชโองการ
นางเฝ้ารอเวลานั้นมาปีแล้วปีเล่า จนกระทั่งนางอายุได้สิบเก้าปีแต่ไม่เคยมีประกาศรับเลือกนางสนมเลยสักครั้ง ผู้คนในเมืองต่างหัวเราะที่นางกลายเป็นสาวเทื้อ
ผู้ชายที่อายุเหมาะสมล้วนแต่งงานไปแล้ว ส่วนนางกลายเป็นหญิงเพียงคนเดียวที่ยังไม่แต่งงาน
มันไม่ง่ายเลยที่ฟางเจิ้งสิงจะมาสู่ขอตนเอง แรกเริ่มเดิมทีนางก็ไม่เห็นด้วย อีกฝ่ายเป็นชายชราที่อายุมากจนสามารถเป็นพ่อของตนได้ นางจะชอบลงได้อย่างไร!
แต่…
คำพูดของท่านพ่อและท่านแม่ทำให้นางเข้าใจว่านี่คือจุดหมายที่ดีที่สุดที่นางสามารถเลือกได้ ประกอบกับเหตุผลมากมาย หวงหรูซื่อจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตกลงแต่งงาน
โชคดีที่ฟางเจิ้งสิงยังให้เกียรตินาง เขามอบของขวัญสินสอดแปดสิบแปดชิ้น และสิ่งของภายในส่วนใหญ่ก็ดูล้ำค่าซึ่งทำให้นางรู้สึกพอใจ
ฟางเจิ้งสิงยังคงเห็นคุณค่าของตัวเอง!
แน่นอนว่านางยังมั่นใจว่าจะควบคุมฟางเจิ้งสิงไว้ในฝ่ามือได้ นางงดงาม มีความรู้ มีฐานะ และนางไม่เชื่อว่านางจะไม่สามารถควบคุมตระกูลฟางได้
อย่างไรก็ตาม ในวันแรกที่นางมาถึง ในวันรื่นเริงเช่นนี้แต่ก็ถูกลูกสาวสายตรงของเขาทำให้เสียหน้า สินสอดแปดสิบแปดชิ้นเหลือเพียงสามสิบชิ้น เกรงว่าต่อจากนี้ไปนางจะกลายเป็นตัวตลกของชาวเมืองหลวงอีกครั้ง!
หวงหรูซื่อโกรธและทึ้งฟูกนอนใต้ร่างอย่างโกรธเคืองพลางขมวดคิ้วแน่น และแม้แต่เครื่องสำอางบนใบหน้าก็ไม่สามารถต้านทานความมืดมนที่เล็ดลอดออกมาจากผิวของนางได้
“มันไม่มีเหตุผลเลยสักนิด ของขวัญหมั้นแปดสิบแปดอย่างถูกเตรียมไว้อย่างรวดเร็ว กลายเป็นว่าพวกมันทั้งหมดเป็นการหลอกลวงข้า หลังจากแต่งงานกับข้า เขาจะคืนของขวัญหมั้นให้คนอื่น!” หวงหรูซื่อคำรามด้วยความโกรธ
“ฮูหยิน ไม่ต้องห่วง ข้าเกรงว่านายท่านจะไม่รู้เรื่องสินสอดนั้น ความรักที่นายท่านมีต่อท่านนั้นมากมาย ตระกูลฟางนี้เป็นของท่าน ท่านจะยังสนใจเรื่องสินสอดอีกทำไม? กุญแจสำคัญคือวันนี้ฮ่องเต้จะประกาศราชโองการแต่งตั้งท่าน นี่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ท่านจะเป็นเก้ามิ่งฟูเหรินระดับสองนี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด!!” เมื่อเห็นท่าทางเสียสติของหวงหรูซื่อ ซ่งฉินจึงรีบปลอบโยน
“เจ้าบอกให้ข้าใจเย็นอย่างนั้นหรือ? สินสอดแปดสิบแปดอย่างก็เอาคืนไป หมายความว่าเขาใช้สินสอดแค่สามสิบอย่างเพื่อแต่งงานกับข้า เขาบอกว่าเขารักข้า รักที่ไหนกัน? เขาโกหกข้า! หลอกให้ข้าแต่งงานกับเขา!” หวงหรูซื่อรู้สึกไม่สบายใจ ปาข้าวของลงพื้นอย่างเสียสติ
ซ่งฉินกลัวว่าคนอื่นจะได้ยินเสียงของหวงหรูซื่อ ดังนั้นนางจึงพูดเสียงเบาอย่างเป็นกังวล “คุณหนู อย่าเพิ่งคิดเรื่องนี้ ไม่ต้องกังวล ระวังอย่าโกรธจนทำให้ร่างกายแย่ลง ถ้าท่านไม่คิดถึงตัวเองก็ควรคิดถึง…”
ซ่งฉินมองลงไปที่ท้องของหวงหรูซื่อและพูดอย่างเป็นกังวล “คุณหนู ข้าได้ยินมาว่าที่จวนแห่งนี้มีอี๋เหนียงที่มีอำนาจมาก แม้แต่ฮูหยินคนก่อนก็ถูกนางขับไล่ บางทีเรื่องนี้อาจเป็นนางที่ลงมือทำ! ถ้าท่านต่อต้านนายท่านเพราะเรื่องนี้ ทันทีที่เข้าประตูไป ท่านอาจตกหลุมพรางของนางก็ได้!”
มีสมาชิกในตระกูลหวงมากมาย มีอี๋เหนียง และนางสนมอยู่ทุกหนทุกแห่ง และมีทั้งลูกสายตรงสายรอง พวกเขาต่างรอคอยที่จะเห็นฮูหยินหวงก้าวลงจากตำแหน่ง แต่เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ฮูหยินหวงยังนั่งอยู่ที่ตำแหน่งเดิมเพราะนางมีวิธีการ
หวงหรูซื่อและซ่งฉินได้เห็นอี๋เหนียง สาวใช้ข้างห้องหลายคนแข่งขันกันเพื่อทำให้นางโปรดปรานและท้ายที่สุดพวกเขาก็ถูกฮูหยินหวงจัดการไม่ใช่หรือ?
หวงหรูซื่อไม่ใช่คนโง่เขลา และซ่งฉินก็ไม่ใช่คนโง่เขลาเช่นกัน
เหตุการณ์วันนี้ เกรงว่านางจะมีเรื่องกับอี๋เหนียงที่โปรดปรานและสามารถขับไล่ภรรยาเอกไปได้
หวงหรูซื่อเป็นคนฉลาด เมื่อครู่นางรู้สึกโกรธจนเวียนหัว หลังจากได้ยินคำพูดของซ่งฉิน ท่าทีสงบลงทันทีและหยุดสร้างปัญหา นางจดจำข้อมูลที่สำคัญที่สุดที่ควรจะมีในตอนนี้ “มีใครมาจากราชสำนักหรือไม่”
งานเลี้ยงเฉลิมฉลองใกล้จะจบลงแล้ว ทำไมยังไม่มีคนจากราชสำนักมาอีก?
ขณะที่ซ่งฉินกำลังจะพูด นางก็ได้ยินเสียงกังวลจากข้างนอก “ฮูหยิน ฮูหยิน นายท่านขอให้ท่านไปที่ลานหน้าบ้าน คนจากทางราชสำนักมาเจ้าค่ะ!”
เมื่อซ่งฉินได้ยินเช่นนี้ จึงพูดอย่างตื่นเต้นว่า “คุณหนู ราชโองการมาแล้ว!”
ใบหน้าของหวงหรูซื่อเผยให้เห็นถึงความสุข และไม่สนใจเรื่องที่วันนี้ตนเองเสียหน้าวันนี้อีก และพูดอย่างตื่นเต้น “เร็วเข้า ช่วยข้าแต่งตัว เร็วเข้า!”
ในต้าชิงลำดับขั้นเข้มงวดมาก
ฮูหยินระดับสาม ฮูหยินระดับสอง และฮูหยินระดับหนึ่งล้วนถูกแต่งตั้งโดยราชสำนัก ในเมืองหลวงมีขุนนางระดับสองหลายคน แต่มีฮูหยินระดับสองเพียงหนึ่งหรือสองคนเท่านั้น ย้อนกลับไปในตอนนั้น หลูเหวินซินเป็นฮูหยินฟางมามากกว่าสิบปี แม้ว่าฟางเจิ้งสิงจะขึ้นเป็นขุนนางระดับสอง แต่นางก็ยังไม่ได้รับการแต่งตั้ง
สำหรับนาง ทันทีที่แต่งงานก็ได้รับตำแหน่งเป็นเก้ามิ่งฟูเหรินระดับสอง แม้แต่หลูเหวินซินก็เทียบนางไม่ติด
ไม่สำคัญว่าฟางเจิ้งสิงจะแก่หรือไม่ แต่เขาเป็นขุนนางระดับสอง และจากนี้ไปนางก็จะเป็นเก้ามิ่งฟูเหรินระดับสอง มีเพียงไม่กี่คนในเมืองหลวงแห่งนี้ที่ได้รับเกียรติเช่นนี้ ดังนั้นนางจึงต้องแสดงความเคารพต่อคนจากราชสำนัก ข้างนอกวังหลวงไม่มีเก้ามิ่งฟูเหรินระดับหนึ่ง นางจะเป็นผู้หญิงที่โดดเด่นที่สุด
หัวใจของหวงหรูซื่อผ่อนคลายลง ภายใต้การนำของคนรับใช้นางก็มาถึงลานหน้าบ้านอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
ทันทีที่มาถึงลานหน้าบ้าน นางก็เห็นผู้คนทั้งหมดที่ลานหน้าบ้านคุกเข่าอยู่ต่อหน้าใครบางคน และนั้นคือขันทีที่ฮ่องเต้โปรดปราน—ขันทีฉี!
ครั้งหนึ่งนางพยายามทุกวิถีทางเพื่อเข้าไปในวังหลวง นางจึงรู้จักขันทีฉีเป็นอย่างดี!