ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1779 เขาสำคัญกว่าสิ่งใด
บทที่ 1779 เขาสำคัญกว่าสิ่งใด
ดวงตาของซูหมิ่นเต็มไปด้วยความชั่วร้ายที่ไม่อาจปิดบังได้ แม้ใบหน้านั้นจะมีรอยยิ้ม แต่กลับทำให้คนกลัวจนตัวสั่น
เมื่อครู่นางต้องเห็นคนที่คุยกับเขาแน่นอน
ซูจือเยว่รู้ ถ้าตอนนี้เขาปฏิเสธ ทางนั้น…
“ตกลง ข้าจะไปเป็นเพื่อนเจ้า!” ซูจือเยว่พยักหน้า
ครั้นเห็นซูหมิ่นคลี่ยิ้ม หากแต่รอยยิ้มนั้นกลับดูชั่วร้ายขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้คนอกสั่นขวัญหาย
กู้เสี่ยวหวานและถานอวี้ซูออกจากจวนฟาง ตรงออกมาด้านนอก เมื่อขึ้นมาบนรถม้าก็ได้ยินอาโม่พูดว่า “คุณหนู เมื่อครู่คุณหนูฟางบอกนางจะรอท่านอยู่ที่ร้านหล่านเยว่”
ถานอวี้ซูหัวเราะ “มาเร็วไปเร็วจริง ๆ เลยคนคนนี้”
“งั้นเจ้าจะให้นางอยู่ที่จวนฟางหรือย่างไร เจ้าไม่เห็นหรือไร? สายตาของฟางเจิ้งสิงและหวงหรูซื่อแทบฉีกนางเป็นชิ้น ๆ” กู้เสี่ยวหวานหัวเราะ
ถานอวี้ซูเป็นเด็กบ้าระห่ำ มีความซื่อตรงมาตลอด และเป็นคนที่ถูกดูหมิ่นมากที่สุด แต่ถ้านำวิธีนี้มาใช้กับกู้เสี่ยวหวานก็คิดว่ามันดีเช่นกัน
“ความช่วยเหลือขององค์หญิงในครั้งนี้ ถ้าไม่ได้นาง ฮ่องเต้คงไม่ตกลงแน่” กู้เสี่ยวหวานถอนหายใจ
ถานอวี้ซู “ท่านพี่ ช่วยนางหาค่าสินสอดหลายแสนตำลึง ให้นางช่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ควรหรือ อีกอย่างท่านยังมีคำขอที่ติดค้างกับเสด็จพี่ฮ่องเต้อยู่อีก”
ถานอวี้ซูรู้สึกเสียดาย แต่โชคดีที่กู้เสี่ยวหวานยังมีคำขออีกสามข้อ
คำขอนี้มีค่ามาก ต่อไปไม่สามารถใช้แบบสุรุ่ยสุร่ายได้แล้ว
“ท่านพี่ ท่านต้องเหลือคำขอไว้ให้ตัวเองบ้างเข้าใจหรือไม่” ถานอวี้ซูพูดราวกับคิดบางอย่างได้
กู้เสี่ยวหวานหันไปมองอีกฝ่าย เมื่อเห็นท่าทางจริงจังของนางแล้ว ก็ถามอย่างไม่เข้าใจ “มีอะไรหรือ”
“ลำดับสถานะราชวงศ์สำคัญที่สุด ตอนนี้ท่านเป็นจวิ้นจู่ระดับสอง เป็นเหมือนดอกไม้ของราชวงศ์ การแต่งงานของท่าน เสด็จพี่ฮ่องเต้อาจจะยื่นมือเข้ามาก้าวก่ายได้”
ถานอวี้ซูกำลังพูดก็เห็นกู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้ว จึงรีบอธิบาย “ไม่ได้บอกว่าเสด็จพี่ฮ่องเต้จะก้าวก่ายเรื่องการแต่งงานของท่าน เขาเคารพความคิดของท่านแน่นอน แต่ถ้าสถานะแตกต่างกันมากเกินไป ข้าเกรงว่าเสด็จพี่ฮ่องเต้จะมีความกังวลมาก ในที่สุดการแต่งงานของท่านก็เกี่ยวข้องกับหน้าตาของราชวงศ์ ถ้าท่านเหลือคำขอสามข้อ ถึงเวลานั้นสามารถหยิบคำขอนี้ไปพูดคุยเงื่อนไขกับฮ่องเต้ได้ เสด็จพี่ฮ่องเต้เป็นคนมีเหตุผล เขาทำตามความปรารถนาของท่านอย่างแน่นอน!”
ทันใดนั้น รถม้าก็กระแทกเข้ากับหิน ทำให้อาจั่วที่อยู่ในรถม้าร้องเสียงต่ำ ด้วยความรีบไม่ทันระวังเผลอทำชาหกใส่มือ
หลังมือที่ขาวผ่องขึ้นสีแดงก่ำ กู้เสี่ยวหวานรีบยื่นมือไปดึงมือนางแช่ลงในน้ำเย็นข้าง ๆ “เอามือลงไปสักพัก มิฉะนั้นผิวหนังจะพุพอง”
อุบัติเหตุเล็กน้อยเช่นนี้สำหรับอาจั่วแล้วช่างเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก แต่คุณหนูกลับเป็นห่วงตัวเอง ทำให้อาจั่วซาบซึ้งใจนัก
นางก้มหน้านิ่งเงียบแต่ในใจกลับด่าอาโม่ อาโม่ผู้นี้บังคับรถม้าอย่างไรทำมือนางแสบไปหมดแล้ว
อาโม่อยู่ข้างนอกได้ยินเสียงวุ่นวายข้างใน รีบถามด้วยความเป็นห่วง “คุณหนู เมื่อครู่ล้อรถกระแทกกับหิน ท่านเป็นอะไรหรือไม่?”
“ข้าไม่เป็นไร แต่อาจั่วไม่ทันระวังจึงถูกน้ำร้อนลวก เจ้าก็ขับระวังหน่อย” กู้เสี่ยวหวานพูดเตือน
“ขอรับ คุณหนู…”
“คุณหนู ข้าจะออกไปดูข้างนอกสักหน่อย” อาจั่วดึงมือกลับมาแล้วเอ่ยขึ้น
กู้เสี่ยวหวานพยักหน้าและปล่อยให้อาจั่วออกไปข้างนอก
“อาโม่เกิดอะไรขึ้น เจ้าไม่เคยบังคับรถม้าโดยไม่ระวังเช่นนี้มาก่อน” ถานอวี้ซูถามอย่างแปลกใจ
อาโม่พูดไม่ออก มองอาจั่วที่อยากจะร้องไห้แต่ร้องไม่ออก
ฮู้กั๋วจวิ้นจู่ ท่านพูดอะไรกับคุณหนู?
ฮ่องเต้จะก้าวก่ายเรื่องการแต่งงานของคุณหนูกับนายท่านหรือ?
ขึ้นอยู่กับฮ่องเต้ว่ากล้าหรือไม่!
อาจั่วรู้ว่าในใจอาโม่กำลังคิดอะไรบางอย่าง สายตาเขาแข็งกร้าว จากนั้นก็ฝืนยิ้ม ยกแส้ขึ้นเพื่อตั้งใจขับรถม้า
ถานอวี้ซูตอบว่า “ตอนนี้ท่านเป็นจวิ้นจู่ ถ้าเขาไม่มีตำแหน่งเกรงว่าถึงตอนนั้นฮ่องเต้อาจจะมีข้ออ้าง”
กู้เสี่ยวหวานเลิกคิ้วขึ้น กอดอกท่าทางไม่สนใจ “งั้นข้าก็จะไม่เป็นอันผิงจวิ้นจู่แล้ว”
“พรวด…” ถานอวี้ซูพ่นชาที่เพิ่งดื่มไปด้วยความตกใจ มองท่าทางไม่สนใจของกู้เสี่ยวหวานอย่างไม่เชื่อ “ท่านพี่ ท่าน ท่านพูดจริงหรือ”
กู้เสี่ยวหวานหยิบผ้าเช็ดหน้าสะอาดยื่นให้นางแล้วเลิกคิ้ว “ทำไมหรือ”
ถานอวี้ซูอ้าปากกว้าง นางมองกู้เสี่ยวหวานอย่างประหลาดใจ สายตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก “ท่านพี่ ท่านเต็มใจที่จะละทิ้งสถานะและตำแหน่งของท่านเพื่อเขาจริง ๆ หรือ สถานะอันผิงจวิ้นจู่กว่าจะได้มานั้นไม่ง่ายเลย”
“ท่านพี่ เขาสำคัญกับท่านมากกว่าสถานะของจวิ้นจู่หรือ” ถานอวี้ซูรู้สึกประหลาดใจมาก
อันผิงจวิ้นจู่ระดับสองทั้งราชวงศ์ชิงมีแค่สามคน สถานะสูงส่ง แต่ท่านพี่….
กู้เสี่ยวหวานนิ่งเงียบ ในรถม้าก็เงียบสนิท แม้แต่ความเร็วของรถม้าก็ช้าลงมากกว่าเมื่อกี้
ทุกคนรอฟังคำตอบของกู้เสี่ยวหวานอย่างใจจดใจจ่อ
“เขาสำคัญกว่าสถานะใด ๆ”
อาโม่สะบัดแส้ควบม้า อาจั่วที่เข้ามาด้วยความงุนงงเกือบจะถูกรถม้าที่วิ่งเหวี่ยงออกไป ตั้งใจฟังความเคลื่อนไหวข้างในแต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ นั่นเป็นเหตุผลที่นางต่อยอาโม่ อาโม่แยกเขี้ยวยิงฟันกลับไม่กล้าแม้แต่จะขยับร่างกาย
ทั้งสองหันหน้าปะทะสายลม แต่กลับไม่รู้สึกหนาวเย็น
ยิ้มจนปากจะฉีกถึงใบหู วันนี้เขียนรายงานให้คุณชาย พวกเขาก็สามารถใช้พู่กันเขียนรายงานได้มากมายทีเดียว ไม่เหมือนก่อนหน้าที่คุณชายมักจะตำหนิพวกเขาว่าทำอะไรไม่จริงจัง