ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1796 ข้ายังกินไม่อิ่ม
บทที่ 1796 ข้ายังกินไม่อิ่ม
อาโม่ อาจั่วและโค่วตันมองไปที่ติงลุ่นอีกครั้ง สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม เจ้าคิดว่าซาวเข่าไม่อร่อยอย่างนั้นหรือ ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูด้วยตัวเอง!
แค่ลองดู!
ติงลุ่นยืนขึ้นและเดินเข้าไปในป่าพร้อมคันธนูและลูกธนูบนหลัง เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะจากไปเฉินเหมิ่งจึงรีบถามว่า “เจ้าจะทำอะไร?”
“ข้ายังไม่อิ่ม ข้าจะไปล่าอีกตัว!” ติงลุ่นราวกับบินหายเข้าไปในป่าทึบ
ผู้หญิงคนหนึ่งสามารถทำอาหารอร่อยแบบนี้ได้ ตราบใดที่เขามีเครื่องปรุงมากมาย เขาก็สามารถทำได้เช่นกัน ติงลุ่นคิดอย่างมีความสุข
หลังจากที่กู้เสี่ยวหวานย่างเนื้อในมือเสร็จแล้ว นางก็แจกจ่ายให้ทุกคน ทุกคนเอาเนื้อกระต่ายไป กลิ่นหอมเย้ายวนเพียงได้กลิ่นก็ชวนให้น้ำลายสอ
“อ่า ในที่สุดข้าก็ได้กินมันอีกครั้ง! มันหอมมาก!” อาโม่หลับตาลงอย่างเกินจริง และสูดกลิ่นหอมนั้นเข้าไปอีกครั้ง
อาจั่วและโค่วตันก็ไม่ต่างกัน อาหารร้อนมาก แต่พวกเขาไม่สนใจ พวกเขาเอามันเข้าปากกัดมันเป็นชิ้นเล็ก ๆ เอาแต่พึมพำว่าอร่อยมาก
เฉินเหมิ่งเพิ่งกินเนื้อกระต่ายของตนเองหมดไป แต่เมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานและคนรับใช้ข้างกายนางกินมันอีก เขาก็เบนสายตาไปทางอื่น
ไม่ใช่ว่าเขากินไม่พอ เพียงแต่เมื่อได้กินหอมของมันก็รู้สึกทนไม่ไหว น้ำย่อยในกระเพาะเริ่มทำงานอีกครั้ง
เมื่อเห็นเฉินเหมิ่งนั่งเงียบ ๆ กู้เสี่ยวหวานจึงมองไปที่ขากระต่ายอวบอ้วนในมือของนาง ฉีกชิ้นเนื้อและเก็บไว้กินเองส่วนหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งที่เหลือก็ลุกขึ้นเดินไปหาเฉินเหมิ่งและพูดว่า “ท่านลุงเฉิน นี่สำหรับท่าน!”
เฉินเหมิ่งหันไปเมื่อได้ยินเสียงนั้น และเห็นกู้เสี่ยวหวานยืนข้างหลังตน ถือขากระต่ายไว้ในมือ
เมื่อเห็นว่านางยื่นกระดูกให้ตนเอง เฉินเหมิ่งรู้สึกงงเล็กน้อย “แม่นาง ท่าน…ให้ข้าหรือ? ไม่จำเป็น ข้ากินไปแล้ว นี่เป็นส่วนของท่าน ท่านกินเองเถอะ!”
“ท่านกินเถอะ บนรถม้าข้ายังมีอาหารแห้งอยู่ ข้าจะไปกินอาหารแห้งทีหลัง!” เมื่อเห็นว่าเฉินเหมิ่งยังคงปฏิเสธ กู้เสี่ยวหวานก็ยิ้มและพูดว่า “แล้วทำไมท่านไม่ลองชิมฝีมือของข้าดูล่ะ! เมื่อครู่ท่านลุงเฉินไม่ได้บอกว่าอาหารของข้าหอมหรอกหรือ?”
เมื่อเฉินเหมิ่งได้ยินเช่นนี้ เขามองไปที่เนื้อกระต่ายย่างสีเหลืองทอง แล้วกลืนน้ำลายอีกครั้ง ครั้งนี้เขาไม่ปฏิเสธ และเอ่ยขอบคุณ “เช่นนั้นก็ต้องขอบคุณแม่นางแล้ว”
กู้เสี่ยวหวานยิ้ม “ขอบคุณอะไรกัน ก็แค่เนื้อชิ้นหนึ่งเท่านั้น!”
เฉินเหมิ่งหยิบเนื้อกระต่ายขึ้นมากัดกิน
แต่เมื่อเนื้อถูกแปรรูปโดยกู้เสี่ยวหวานมันก็แตกต่างออกไป มันมีกลิ่นหอมและเนื้อเนียนนุ่ม รสชาติของเกลือ พริกไทยและน้ำมันซึมเข้าไปด้านในทำให้เนื้อกระต่ายซึ่งแต่เดิมแข็งเหมือนฟืน กลายเป็นอาหารรสชาติยอดเยี่ยม
“อร่อย… อร่อยมาก!” เฉินเหมิ่งเคี้ยวเนื้อกระต่ายแล้วกลืนลงไป พลางยกนิ้วโป้งขึ้นอย่างตื่นเต้น
เมื่อเห็นว่าเฉินเหมิ่งบอกว่ามันอร่อย กู้เสี่ยวหวานก็ยิ้มและกินสิ่งที่อยู่ในมือของนาง
เมื่อทุกคนกำลังจะกินเสร็จ ติงลุ่นก็ถือของสองอย่างมาด้วยความตื่นเต้น และตะโกนขณะวิ่งเข้ามา “เหล่าเฉิน เหล่าเฉิน ข้าจับกระต่ายได้อีกตัว ข้าจะย่างให้เจ้ากินเอง!”
กู้เสี่ยวหวานกินขากระต่ายไปครึ่งขาจนเกือบอิ่ม ตอนนี้นางยืนอยู่ใต้ต้นไม้และขยับตัวเล็กน้อย
นี่คือนิสัยของนางคือหลังจากทานอาหารเสร็จนางจะต้องยืนและเดินไปมาเสมอ
แต่แล้วก็เห็นติงลุ่นวิ่งมาด้วยความตื่นเต้นพร้อมกระต่ายในมือ
“เจ้ารอก่อน ข้าจะย่างให้เจ้ากิน รับประกันว่าหอมเหมือนของแม่นาง!” ติงลุ่นพูดอย่างเต็มไปด้วยมั่นใจ
ทันทีที่เฉินเหมิ่งมองก็เห็นว่าเขาได้ทำความสะอาดขนกระต่ายและอวัยวะภายในจนสะอาด ติงลุ่นวางกระต่ายไว้เหนือกองไฟแล้วพูดว่า “แม่นาง ข้าขอยืมเครื่องปรุงของท่านสักหน่อยได้ไหม!”
กู้เสี่ยวหวานยิ้ม “ใช้ได้เท่าที่ท่านต้องการ!”
เมื่อติงลุ่นได้ยินสิ่งนี้เขาก็หยิบส่วนผสมขึ้นมาอย่างตื่นเต้นและโรยลงบนเนื้อกระต่าย หลังจากนั้นไม่นานเขาก็โรยพริกไทยและผงพริกไปครึ่งขวด
ตามตัวอย่างของกู้เสี่ยวหวาน เขาโรยและแปรงไม่หยุดอย่างเต็มไปด้วยความมั่นใจ
บางครั้งเขามองไปที่อาโม่ซึ่งกำลังมองมาที่ตนเองพร้อมกับเชิดคางขึ้นด้วยท่าทางที่ภาคภูมิใจและยั่วยุ!
กู้เสี่ยวหวานกำลังเดินไปรอบ ๆ ในขณะที่โค่วตันและอาจั่วก็ติดตามนางอย่างใกล้ชิด
อาโม่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ เฝ้าดูติงลุ่นย่างเนื้อกระต่ายอย่างสบาย ๆ ด้วยใบหน้าที่เย้ยหยัน คิดจริงหรือว่าถ้าใช้เครื่องปรุงที่คุณหนูใช้แล้วจะอร่อยเหมือนที่คุณหนูทำ มั่นใจเกินไปแล้ว!
เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการย่าง หลังจากกินของที่แม่นางผู้นั้นย่างให้ก็รู้สึกยังไม่พอใจ ดังนั้นเขาจึงเลียนแบบท่างท่างของแม่นาง และเลียนแบบสิ่งที่นางทำ
เหอะเหอะ การใส่พริกป่นมากเกินไปจึงทำให้เผ็ดมาก หรือพริกไทยมากเกินไปก็จะสำลักตาย!
มันแย่ยิ่งกว่าการทำซาวเข่าด้วยเกลือเพียงอย่างเดียว
ติงลุ่นโรยสิ่งที่กู้เสี่ยวหวานใช้และหยดน้ำมันลงในกองไฟขณะที่เนื้อกระต่ายถูกย่างจนเป็นสีเหลืองทอง
กลิ่นหอมของซาวเข่าโชยมาแตะจมูก กลิ่นเหมือนกับที่อันผิงจวิ้นจู่ทำเมื่อครู่นี้
ติงลุ่นมองไปที่เฉินเหมิ่งที่อยู่ข้างหลังเขาอย่างตื่นเต้น และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เหล่าเฉิน ต่อไปจะมีของอร่อยให้กินแล้ว!”
แน่นอนว่าเฉินเหมิ่งได้กลิ่นหอมเหมือนกับกลิ่นที่กู้เสี่ยวหวานทำในตอนนั้น
เป็นไปได้ไหมว่าติงลุ่นเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว?
หรือด้วยเครื่องปรุงรสเหล่านี้ ใคร ๆ ก็สามารถทำได้อร่อยเหมือนที่อันผิงจวิ้นจู่ทำ?
ตอนนี้เฉินเหมิ่งกินขากระต่ายไปครึ่งหนึ่งแล้วและรสชาติก็น่าทึ่งมาก เดิมทีเขาต้องการเก็บไว้ให้ติงลุ่น แต่สุดท้ายเขาก็อดไม่ได้และกินมันเข้าไปจนหมด!
………………..