ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1808 แม่สื่อ
บทที่ 1808 แม่สื่อ
ระหว่างทั้งสองกำลังดื่มชาก็เห็นโค่วตันเดินเข้ามาด้วยความรีบร้อน หลังจากกระซิบกระซาบกับอาจั่วแล้ว สีหน้าของอาจั่วก็เปลี่ยนไปมา “เป็นเช่นนั้นจริง ๆ หรือ”
“ที่หน้าประตู ไม่ผิดแน่!”
สาวใช้สองคนต่างมีท่าทางตื่นตระหนก ในสายตาของกู้เสี่ยวหวานก็ยิ่งดูน่าขบขันจึงพูดน้ำเสียงเจือหัวเราะ “พวกเจ้าสองคนเป็นอะไรไป ทำหน้าอย่างกับท้องฟ้าจะถล่มดินจะทลายเช่นนี้ เกิดเรื่องอะไรถึงทำให้พวกเจ้าทั้งสองตกใจเช่นนี้!”
คุณหนู…
ฟ้าจะถล่มดินจะทลายแล้ว!
อาจั่วตกใจจนหน้าซีดเผือด สองเท้ารีบวิ่งเข้าไปที่ห้องชงชา “คุณหนู ที่ด้านนอกมีคนมาเจ้าค่ะ!”
“ใครมา? เรื่องใหญ่ขนาดนั้นเชียว เจ้าถึงได้ตกใจเช่นนี้!” แต่ไหนแต่ไรมาถานอวี้ซูก็ไม่เคยเห็นท่าทีที่ตกใจเช่นนี้ของอาจั่วมาก่อน จึงกล่าวพลางหัวเราะ
“ด้านนอกมีใครมารึ ถึงทำเจ้าตกใจเช่นนี้!” กู้เสี่ยวหวานถาม
“คุณ…คุณหนู…ข้าง…นอกมีแม่สื่อคนหนึ่งมาเจ้าค่ะ!” อาจั่วพูดตะกุกตะกัก ทำให้ผู้คนในห้องชงชาตกตะลึง
เมื่อมาถึงห้องโถงใหญ่ กู้เสี่ยวหวานที่เพิ่งนั่งลงก็เห็นโค่วตันนำแม่สื่อคนหนึ่งอายุประมาณห้าสิบกว่าสวมชุดลายดอกไม้ ใบหน้าถูกผลัดแป้งหนาเตอะ ริมฝีปากสีแดงสดราวกับต้องการกินคน
มีดอกไม้ทัดอยู่บนใบหู มีไฝสีดำเม็ดหนึ่งประดับอยู่ที่มุมปาก เมื่อมองดูคนผู้นี้แล้ว
ก่อนที่กู้เสี่ยวหวานจะได้เอ่ยอะไร ก็เห็นแม่สื่อเข้ามาโค้งคำนับอย่างไม่สนใจใคร พร้อมพูดว่า “อันผิงจวิ้นจู่ เป็นเรื่องมงคล เป็นเรื่องมงคล!”
เป็นอย่างที่คิด เรื่องที่นางเอ่ยปากพูดเป็นเรื่องที่ร้อยวันพันปีก็ไม่เคยเป็นเรื่องงานมงคล
“อืม ข้าขอถามฮูหยินผู้นี้หน่อย งานมงคลของข้างั้นหรือ?” กู้เสี่ยวหวานแสร้งถามอย่างไม่รู้
แม่สื่อคนนั้นพลันมีความสุขขึ้นมา “อันผิวจวิ้นจู่ ข้าคือแม่สื่อที่มีชื่อเสียงมากในเมืองหลวง ชำนาญเรื่องการจับคู่เส้นดวงชะตาชีวิตคู่ เมื่อเป็นแม่สื่อมาสู่ขอ โชคชะตาในครั้งนี้ อาจกลายเป็นงานมงคลก็ได้นะ?”
กู้เสี่ยวหวานยิ้มพร้อมพูดว่า “งั้นหรือ?”
“จวิ้นจู่ ข้าได้ยินว่าในจวนนี้ท่านใหญ่สุด แม้ว่า…เรื่องบางเรื่องข้าจะพูดกับท่านตรง ๆ ไม่ได้ แต่ในจวนนี้ทุกคนเชื่อฟังคำพูดของท่านมากที่สุด ข้าจึงจำต้องพูดกับท่านก่อน ตระกูลของเสนาบดีกลาโหมให้ข้ามาสู่ขอท่านให้กับคุณชายสามของตระกูล แต่งกับ ท่านเห็นด้วยหรือไม่?”
เมื่อแม่สื่อพูดจบ ก็พูดสาธยายความหล่อเหล่าของคุณชายสามผู้นั้น กล่าวว่าเขาหล่อเหลาราวกับเป็นเทพเหวินฉวี่กลับชาติมาเกิด
หลังจากที่แม่สื่อคนนั้นสาธยายจบแล้ว ก็ถามต่อว่า “จวิ้นจู่ ท่านดู ถ้าหากท่านเห็นด้วยกับการแต่งงานนี้ ตระกูลเสนาบดียินดีให้ค่าสินสอดแปดสิบแปดหาบ ท่านว่าเป็นอย่างไร?”
ภายในบ้านไม่มีคนดูแลนับว่าไม่ใช่เรื่องที่ดี ครั้นกู้เสี่ยวหวานได้ยินนางพูดเรื่องการแต่งงานเช่นนี้ ถึงแม้นางจะมีชีวิตมาสามสิบปีแล้ว หากแต่ใบหน้าของนางก็ยังขึ้นสีแดง
ใช้ชีวิตมานานขนาดนี้ แต่ทั้งชีวิตนี้เพิ่งจะอายุสิบเจ็ด นับว่าเป็นครั้งที่สามหรือครั้งที่สี่แล้วที่มีแม่สื่อมาจับคู่ให้
ครั้นเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานไม่พูดอะไร นางจึงคิดว่ายังมีความหวัง และตัดสินใจพูดอีกครั้งว่า “ชายผู้นี้เป็นคนที่อบอุ่นมีจิตใจดี ใส่ใจผู้อื่นถ้าหากจวิ้นจู่แต่งข้าไป ต้องเป็นสามีภรรยาที่รักใคร่ ให้เกียรติกัน รักกันไปจนแก่เฒ่า มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง ชีวิตของจวิ้นจู่จะเหมือนได้รับพร!”