ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1817 วันดี ๆ กำลังจะมาถึง
บทที่ 1817 วันดี ๆ กำลังจะมาถึง
คำพูดเย็นชาของซูหมิ่นยังคงก้องอยู่ในหู ยามก้าวออกมาจากจวนหมิงอ๋อง หญิงสาวรู้สึกว่าร่างกายเบาหวิวราวกับกำลังจะลอยได้
หากทำให้ชีวิตกู้เสี่ยวหวานพบเจออุปสรรค นางจะได้ทุกสิ่งที่ต้องการ ทั้งเงิน อำนาจ ชื่อเสียง และสถานะ!
ทุกอย่าง!
ในอดีตนางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขอร้องกู้เสี่ยวหวาน แต่ครั้งนี้นั้นต่าง
หากหมิงตูจวิ้นจู่ต้องการให้นางตาย ด้วยการสนับสนุนที่ดีเช่นนี้ การทำให้ชีวิตของกู้เสี่ยวหวานพบเจออุปสรรคก็เป็นเรื่องง่ายไม่ใช่หรือ?
เมื่อเห็นกู้ซินเถาจากไปอย่างมีความสุข ในที่สุดซูหมิ่นก็วางใจได้!
นางเอนหลังลงบนเบาะนุ่มอีกครั้ง ไฉ่เยว่ที่อยู่ด้านข้างเห็นสิ่งนี้จึงรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อนวดขาให้ผู้เป็นนายและพูด “จวิ้นจู่ ไม่คาดว่ากู้ซินเถาคนนี้จะมีความสามารถมากนัก! นางสามารถหาจุดอ่อนของกู้เสี่ยวหวานได้!”
“ถ้าข้ารู้ว่ากู้เสี่ยวหวานมีจุดอ่อนแบบนี้ ข้าน่าจะเอามันออกมาตั้งแต่แรก!” ซูหมิ่นตะคอก
ใครจะเก็บไว้และปล่อยให้ท่านพี่จือเยว่ตกหลุมรักผู้หญิงไร้ยางอายคนนั้น!
“จวิ้นจู่เจ้าคะ ตอนนี้ชื่อเสียงของกู้เสี่ยวหวานเหม็นโฉ่ ข้าเกรงว่าจะไม่มีใครในเมืองหลวงนี้กล้าสู่ขอนางอีก!” ไฉ่เยว่กล่าวอย่างประจบสอพลอ
ท่านจวิ้นจู่เกลียดหญิงคนนั้นที่สุด ตราบเท่าที่ชื่อเสียงของหญิงคนนั้นเสียหาย จวิ้นจู่ก็จะมีความสุข
ซูหมิ่นถอนหายใจอย่างเย็นชา “นางก็แค่สาวชาวนา นางเป็นแค่ไก่ฟ้า นางคิดจริง ๆ หรือว่าจะกลายเป็นหงส์ได้!”
รอยยิ้มของซูหมิ่นนั้นเย็นชาจนแม้แต่ไฉ่เยว่ที่อยู่ด้านข้างก็ยังรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยเมื่อเห็นมัน
การสู่ขอไม่ใช่เรื่องของนาง ซูหมิ่นคิดอย่างโกรธเคือง แม้ว่าผู้ชายทุกคนในเมืองหลวงจะไปสู่ขอนางแล้ว ตราบใดที่ท่านพี่จือเยว่ไม่ไป เรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับนาง
อย่างไรก็ตาม การที่ซูจือเยว่ปฏิเสธที่จะพูดถึงก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ต้องการ
ตราบเท่าที่ซูจือเยว่รู้ว่ากู้เสี่ยวหวานเป็นคนเจ้าชู้
ความรู้สึกดี ๆ ที่ท่านพี่มีให้กู้เสี่ยวหวานจะต้องหมดลง เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ซูหมิ่นก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นและพูดว่า “พรุ่งนี้ไปเชิญคุณหนูซูมาที่บ้านเพื่อชมดอกไม้!”
ไฉ่เยว่ตอบรับด้วยรอยยิ้ม และรีบจากไปทันที นางไม่สนใจว่าเจ้านายตนจะจัดการกับหญิงสาวคนนั้นอย่างไร นางรู้เพียงว่าถ้าเจ้านายมีความสุข นางก็มีความสุขเช่นกัน
กู้ซินเถากลับไปยังสถานที่ที่นางอาศัยอยู่อย่างตื่นเต้น
เมื่อสิ่งชุนเห็นจึงรีบประคองนางลงจากรถม้า
สิ่งชุนเป็นสาวใช้ที่กู้ซินเถาซื้อมาหลังจากนางมาถึงจวนตระกูลกู้ ตอนนี้นางเป็นชาวเมืองหลวงแล้ว นางจะไม่มีสาวใช้อยู่เคียงข้างได้อย่างไร!
สิ่งชุนประคองกู้ซินเถาไปเข้าไปภายในจวน และเห็นว่าพ่อแม่และพี่ชายของนางกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เมื่อพวกเขาเห็นกู้ซินเถากำลังมาก็ลุกขึ้นจากที่นั่งทีละคนและเดินออกไปทักทายนาง
“ซินเถากลับมาแล้วหรือ? เพิ่งมาจากจวนจวิ้นจู่หรือ? กู้ฉวนลู่ลูบเคราของเขาด้วยท่าทางประจบสอพลอ
กู้จือเหวินที่อยู่ด้านข้างรีบพากู้ซินเถาไปที่ห้องโถงใหญ่และถามด้วยความกังวล “การเดินทางครั้งนี้ เจ้าเหนื่อยหรือไม่?”
ซุนซื่อมองดูลูกสาวที่งดงามคนนี้ด้วยความยินดีและรู้สึกภูมิใจ!
นับตั้งแต่หมิงตูจวิ้นจู่โปรดปรานลูกสาวของนาง ในที่สุดสามีของนางก็สนใจซินเถาขึ้นมาและไม่ได้สนใจแค่เรื่องของจือเหวินอีกต่อไป
แม้ว่าจะกล่าวกันว่าซุนซื่อจะรักกู้จือเหวินมากที่สุด แต่นี่คือเส้นทางชีวิตของนาง ตอนนี้กู้ซินเถาไม่เหมือนเดิม หากชีวิตของซินเถาดีขึ้น ครอบครัวกู้ก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ
บางทีมันอาจจะเร็วกว่าและดีกว่าที่จือเหวินจะนำมา
แน่นอนว่ากู้ซินเถานั่งลงตรงที่นั่งด้านบน และหลังจากที่กู้ฉวนลู่นั่งลงข้าง ๆ ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรกับการกระทำของกู้ซินเถา
กู้จือเหวินยืนอยู่ด้านข้างพลางมองไปที่กู้ซินเถาอย่างประจบประแจง และซุนซื่อก็มีความภาคภูมิใจฉายชัดเต็มไปหน้า
หลังจากที่กู้ซินเถาจิบชาหนึ่งอึก กู้ซินเถามีใบหน้างดงามอ่อนหวาน ประกอบท่วงท่าอันสง่างาม ยิ่งขับให้ท่าทางดื่มชาของนางน่ามองยิ่งขึ้น
ครึ่งปีแล้วที่นางใช้เวลาอยู่ในเมืองหลวง กิริยามารยาทท่าทางของนางเปลี่ยนไปไม่น้อย หากผู้คนไม่รู้ คงจะบอกว่านางเกิดในครอบครัวร่ำรวย
เมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่สง่างามและใจกว้างของลูกสาว กู้ฉวนลู่จึงลอบถอนหายใจโดยที่ร่องรอยความใจแคบในอดีตเจือจางลงไปหมดแล้ว
หลังจากใช้เวลาอยู่กับจวิ้นจู่ได้ไม่นานนัก ท่าทางของนางก็เปลี่ยนไป หากใช้เวลาอีกสักหน่อย เมื่อจือเหวินสอบผ่านจวี่เหรินและมีที่ยืนในเมืองหลวง ตระกูลกู้ก็จะดีมากขึ้นเรื่อย ๆ ในเมืองหลวงอย่างแน่นอน!
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้กู้ฉวนลู่ก็พูดว่า ซินเถา จวิ้นจู่เรียกหาเจ้าในเวลานี้ มีเรื่องอะไรหรือ?”
กู้ซินเถาพูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านพ่อ เรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง!”
ดูมีความสุขและอิ่มเอมใจ
“เรื่องยินดีอะไรหรือ?” เมื่อคนตระกูลกู้ได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งและถามอย่างเร่งรีบ
“วันนี้จวิ้นจู่พูดถึงท่านพี่!” กู้ซินเถาเช็ดปากเบา ๆ ด้วยผ้าเช็ดหน้าพลางมองไปที่กู้จือเหวิน
“จวิ้นจู่พูดถึงข้าหรือ?” ดวงตาของกู้จือเหวินเบิกกว้างเมื่อได้ยิน และชี้นิ้วเข้าตัวเองด้วยความไม่เชื่อ “จวิ้นจู่…จวิ้นจู่พูดถึงข้าได้อย่างไร?”
“ทำไมจะพูดถึงท่านไม่ได้?” กู้ซินเถายิ้มอย่างภาคภูมิใจ แผ่นหลังตั้งตรงดูหยิ่งยโส
“จวิ้นจู่ถามว่าเมื่อไหร่รายชื่อถึงจะประกาศออกมา? และยังบอกด้วยว่า…” กู้ซินเถาจงใจเว้นระยะ จากนั้นมองใบหน้ากังวลของกู้ฉวนลู่และกู้จือเหวิน “ซินเถา อย่าทำแบบนี้ รีบพูดเร็วเข้า จวิ้นจู่พูดอะไรเกี่ยวกับพี่ชายของเจ้ากัน?”
“ใช่แล้ว น้องสาวที่แสนดีของข้า ทำไมจวิ้นจู่ถึงพูดถึงเรื่องประกาศรายชื่อกัน?” กู้จือเหวินมองไปที่กู้ซินเถา ความตื่นเต้นและความสุขฉายชัดบนใบหน้าของเขา
ตอนนี้กู้ฉวนลู่ ซุนซื่อและกู้จือเหวินต่างยืนล้อมรอบตัวกู้ซินเถาซึ่งนั่งตัวตรงมองดูท่าทางของบิดามารดาราวกับว่าชีวิตของพวกเขาขึ้นอยู่กับตัวเอง
“จวิ้นจู่…บอกว่าถ้าท่านพี่สอบผ่านครั้งนี้ นางจะแนะนำท่านให้รู้จักกับเสี่ยวซื่อจื่อ!” กู้ซินเถารู้สึกพอใจเมื่อเห็นว่าพวกเขากระวนกระวายเพียงใด จึงพูดอย่างเชื่องช้า
ขณะที่นางพูดก็หยิบถ้วยชาขึ้น จากนั้นเปิดฝาพลางเป่าเบา ๆ และยกชาขึ้นดื่มอย่างช้า ๆ ด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างาม นางจึงดูเหมือนสตรีผู้มั่งคั่งจากตระกูลที่ร่ำรวย