ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1847 การมาเยือนของเสิ่นเหวินเจวี้ยน
บทที่ 1847 การมาเยือนของเสิ่นเหวินเจวี้ยน
ท่านแม่กู๋วิ่งหนีไปไกลจนกู้ฟางสี่ไล่ตามไม่ทัน ท่านแม่กู๋จึงหยุดและสาปแช่งกู้เสี่ยวหวาน “กู้เสี่ยวหวาน กรรมจะตามทันเจ้าอย่างแน่นอน!”
จากนั้นนางก็วิ่งหนีกระเจิดกระเจิงราวกับเจอผี
กู้เสี่ยวหวานอยู่ที่ประตูสวนชิงพลางมองด้านหลังของท่านแม่กู๋จากไปด้วยท่าทางที่เย็นชา
แค่ชื่อเสียงของอันผิงจวิ้นจู่…
เมื่อทุกคนเห็นว่าท่านแม่กู๋จากไปแล้วและเรื่องน่าตื่นเต้นก็จบลง ดังนั้นพวกเขาจึงแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง
กู้ฟางสี่เดินกลับมาพร้อมกับท่อนไม้ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความโกรธ “สารเลว ไม่มีจิตสำนึก คราวหน้าถ้าข้าเจอ ข้าจะตบนางให้หน้าหันเลย”
เมื่อเห็นว่ากู้ฟางสี่โกรธเคืองเช่นนี้ กู้เสี่ยวหวานก็ยิ้มออกมา “ท่านอา กับคนเลวเช่นนี้มันไม่คุ้มค่าหรอก!”
“เสี่ยวหวาน เจ้าบอกที…เฮ้อ…” กู้ฟางสี่ขมวดคิ้วเมื่อหลานสาวพูดแบบนั้น “นี่เป็นเรื่องไร้สาระอย่างเห็นได้ชัด แต่เจ้ากลับนิ่งเฉยและไม่สนใจ ดูสิ คนเลวแบบนั้นเลยมาข่มเห่งเจ้าได้ นี่มัน…นี่มันอะไรกัน!”
กู้ฟางสี่รู้สึกขุ่นเคืองใจ ดังนั้นคำพูดนางจึงค่อนข้างรุนแรง กู้เสี่ยวหวานไม่ได้รู้สึกรำคาญเมื่อได้ยินสิ่งนี้ นางก้าวไปข้างหน้าและจับแขนของกู้ฟางสี่พลางยิ้มหวาน “ท่านอาที่แสนดีของข้า หากพวกเขาอยากพูดก็ให้พูดไป ข้าจะต้องกลัวไปไย! ท่านเองก็พูดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระนี่นา”
“แต่… สถานการณ์ปัจจุบันของร้านหล่านเยว่…” กู้ฟางสี่ถอนหายใจ
“ไม่เป็นไร มันจะดีขึ้นในไม่ช้า!” กู้เสี่ยวหวานปลอบใจผู้เป็นอา “ข้าได้ยินจากอวี้ซูว่าฮองเฮากำลังเตรียมงานราชสมภพ และมันก็บังเอิญพอดีที่เสี่ยวอี้สามารถหยุดพักได้ เราจะได้ตั้งหน้าตั้งตาเตรียมของขวัญให้ฮองเฮา!”
เมื่อกู้ฟางสี่ได้ยินว่ากำลังจะเตรียมของขวัญสำหรับฮองเฮา ใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยความสุข และยิ้มกว้าง “จริงหรือ? เราต้องเตรียมของขวัญ…ให้ฮองเฮาหรือ?”
หลังจากพูดคำว่า ‘ฮองเฮา’ กู้ฟางสี่ก็รู้สึกร่างกายอ่อนแรง นางไม่คิดว่านี่เป็นคำที่นางจะได้เอ่ยออกมา แต่ไม่คาดคิดว่าตอนนี้หลานสาวของตัวเองต้องทำงานปักให้ฮองเฮาองค์ปัจจุบัน!
“ข้ากำลังเตรียมรูปแบบ เมื่อเตรียมเสร็จแล้ว เสี่ยวอี้จะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้! นี่เป็นของขวัญวันเกิดสำหรับฮองเฮา พวกเราจะต้องตั้งใจอย่างมาก และห้ามทำพลาดเป็นอันเด็ดขาด!” กู้เสี่ยวหวานกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
เมื่อกู้เสี่ยวอี้ได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของนางแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น “ข้ารู้ท่านพี่ ท่านไม่ต้องกังวล!”
หลายคนกำลังพูดคุยอย่างยิ้มแย้มและลืมไปว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น พอกำลังจะกลับก็มีเสียงมาจากด้านหลังว่า “แม่นางกู้…”
ทุกคนมองย้อนกลับไปและเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่หน้าจวน เขามองไปที่กู้เสี่ยวอี้อย่างตื่นเต้น
กู้เสี่ยวหวานมองไปที่กู้เสี่ยวอี้ และเห็นกู้เสี่ยวอี้รีบโค้งคำนับและพูดว่า “นายน้อยเสิ่น!”
นายน้อยเสิ่น?
เมื่อครู่เสี่ยวอวี้เอ่ยขึ้น นางเห็นว่าชายคนนั้นมีท่าทางตื่นเต้น และแก้มของเขาก็ขึ้นสีแดงเล็กน้อย “ข้าบังเอิญผ่านมาที่นี่ ดังนั้น…จึงมา”
กู้เสี่ยวหวานรู้สึกสับสนเล็กน้อย เสี่ยวอี้รู้จักกับนายน้อยเสิ่นเมื่อใดกัน?
เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานรู้สึกสับสนเล็กน้อย กู้เสี่ยวอี้ก็รีบอธิบาย “ท่านพี่ ตุ๊กตาสองตัวในครั้งที่แล้วฝ้ายหยกก็เป็นนายน้อยเสิ่นที่ไปเมืองหลินเพื่อซื้อมันมา เรื่องนี้จึงได้รับการแก้ไข
กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า แต่ก็ยังแปลกใจอยู่เล็กน้อย “แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเราขาดของ”
“เขาคือเจ้าของร้านขายผ้าจิ่นซิ่ว เสิ่นเหวินเจวี้ยน!” กู้เสี่ยวอี้แนะนำ
จากนั้นกู้เสี่ยวหวานก็ผงกศีรษะ เป็นเช่นนี้นี่เอง
กู้เสี่ยวอี้รีบแนะนำ “ท่านนี้คือพี่สาวของข้า!”
เมื่อเสิ่นเหวินเจวี้ยนได้ยินสิ่งนี้ ก็รีบโค้งคำนับอีกครั้ง “ข้าเสิ่นเหวินเจวี้ยน คารวะอันผิงจวิ้นจู่!”
กู้เสี่ยวหวานปฏิบัติตามมารยาทและโค้งคำนับเช่นกัน “นายน้อยเสิ่น!”
แม้ว่าเสิ่นเหวินเจวี้ยนจะเป็นพ่อค้า แต่เนื่องจากกิจการขนาดใหญ่ของเขา ทำให้เขาได้เจอบุคคลสำคัญมากมาย
ตั้งแต่สมัยโบราณตำแหน่งได้เป็นสัญลักษณ์ของทุกสิ่ง เสิ่นเหวินเจวี้ยนได้เจอขุนนางระดับสูงหลายคนซึ่งหยิ่งยโส หยาบคาย และอวดดี นอกจากนี้เขายังเคยเห็นสตรีผู้สูงศักดิ์หลายคนที่ให้ความรู้สึกเหนือกว่าและหลายคนดูถูกพ่อค้า!
อย่างไรก็ตาม อันผิงจวิ้นจู่ตรงหน้ามีสถานะสูงส่งและไม่มีใครเทียบได้ แต่กลับคำนับให้ตนเอง เสิ่นเหวินเจวี้ยนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย อันผิงจวิ้นจู่เป็นพี่สาวคนโต นางมีความสง่างาม แม้แต่กู้เสี่ยวอี้ที่อยู่ด้านข้างและผู้ชายอีกคนที่หน้าตาคล้ายกันมากก็มีท่าทางสง่างามเหมือนกันอีกด้วย!
กู้เสี่ยวอี้แนะนำต่อไป “นี่คือพี่ชายของข้า กู้หนิงอัน! นี่คือเจ้าของร้านขายผ้าจิ่นซิ่ว เสิ่นเหวินเจวี้ยนหรือนายน้อยเสิ่น!”
กู้ฟางสี่รู้สึกยินดีที่มีคนมายังสวนชิง และนางก็กระตือรือร้นมาก “อย่ามัวแต่คุยกันอยู่เลย เข้าไปดื่มชาและค่อย ๆ คุยกันเถอะ!”
หลังจากนั้นทุกคนก็เข้าไปในสวนชิง
หลังจากเข้าไปในห้องโถงใหญ่และนั่งลง กู้ฟางสี่ก็นำชาหอมผ่านการชงมาอย่างพิถีพิถันพร้อมกับขนมจำนวนหนึ่งมาวางตรงหน้าทุกคน
กู้เสี่ยวหวานเอ่ยปากขอบคุณ “ขอบคุณนายน้อยเสิ่นสำหรับความช่วยเหลือของท่าน!”
เสิ่นเหวินเจวี้ยนรีบโบกมือแล้วพูดว่า “อันผิงจวิ้นจู่ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้น ข้าบังเอิญรู้เรื่องนี้ และเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น!”
แน่นอนว่ากู้เสี่ยวหวานไม่รู้ว่าเสิ่นเหวินเจวี้ยนเสียสละเวลาปีใหม่เพื่อไปซื้อมันในราคาสูงที่เมืองหลิน อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือกู้เสี่ยวอี้พอใจ ดังนั้นเขาจึงมีความสุขเช่นกัน!
“ฝ้ายที่นายน้อยเสิ่นส่งมาครั้งก่อนมีคุณภาพดีเยี่ยม ข้ายังไม่ได้ขอบคุณนายเสิ่นต่อหน้า วันนี้ขอให้ชาแทนเหล้า ขอบคุณนายน้อยเสิ่นสำหรับความช่วยเหลือ!”
เสิ่นเหวินเจวี้ยนนั่งที่ด้านบนสุดของโต๊ะกลม และไม่ว่าใครก็สามารถบอกได้ว่าครอบครัวกู้รู้สึกอย่างไรต่อเสิ่นเหวินเจวี้ยน
และกู้หนิงอันก็พูดในลักษณะเดียวกัน “นายน้อยเสิ่น หนิงอันขอแสดงความขอบคุณ ถ้าไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือของร้านขายผ้าจิ่นซิ่ว ข้าเกรงว่าถ้าร้านหล่านเยว่คงไม่สามารถส่งมอบเรื่องตุ๊กตาทั้งสองตัวได้ ร้านของเราต้องเสียหายแน่นอน”
เมื่อเห็นว่าทั้งคู่รู้สึกขอบคุณตัวเอง เสิ่นเหวินเจวี้ยนรู้สึกยินดีเล็กน้อยและรีบตอบกลับ “ข้าเป็นเจ้าของร้านผ้า ดังนั้นข้าจึงรู้จักพ่อค้าบ้าง และฝ้ายก็เป็นสินค้าที่มีขายอยู่ตลอดของร้านขายผ้า ดังนั้นข้าจึงไม่ต้องใช้ความพยายามมากนักเพื่อให้ได้มันมา ท่านทั้งสองคนสุภาพเกินไปแล้ว!”