ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1884 หาคนคนนั้นไม่เจอ
บทที่ 1884 หาคนคนนั้นไม่เจอ
เมื่อไฉ่เยว่คิดถึงเรื่องนี้ ก็ไม่กล้าคิดถึงซูจือเยว่อีกเลย ขาแข้งของนางอ่อนแรงด้วยความหวาดผวา พยุงตัวกับกำแพงด้านข้าง ยืนขึ้นอย่างระมัดระวังแล้วเดินโซเซออกไป
เสิ่นเจี้ยนเซินพาควางซื่อออกมา และเมื่อทั้งสองมาถึงสวนชิงก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว!
เสิ่นเจี้ยนเซินเพิ่งกลับมาจากเมืองหลิน และหลังจากค้นหาเป็นเวลานาน เขาก็ไม่พบคนขายฝ้ายหยกขาวที่เหวินเจวี้ยนกล่าวถึง เสิ่นเจี้ยนเซินจึงรู้สึกตื่นตระหนก!
ตอนนี้ไม่มีใครเป็นพยานให้เสิ่นเหวินเจวี้ยน แล้วฝ้ายหยกขาวที่เขาซื้อมาล่ะ?
ทันทีที่เขากลับมาถึงเมืองหลวง หลังจากคุยกับควางซื่อแล้ว ทั้งสองคนก็รีบตรงไปยังสวนชิง โดยไม่แม้แต่จะสนใจมื้ออาหารเย็น
เมื่อพวกเขามาถึงสวนชิง ก็พบว่ากู้หนิงอันยังไม่รับประทานอาหารเย็น เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเสิ่นเจี้ยนเซินและภรรยาของเขายังไม่ได้ทานข้าว จึงชวนพวกเขาไปรับประทานอาหารด้วยกัน
ปกติบนโต๊ะอาหารของนางมีเพียงตนเอง สามี และลูกชายเท่านั้น ไม่เคยมีคนมากมายขนาดนี้มาก่อน! แต่ตอนนี้มีกู้หนิงอัน ที่นิ่งสงบและงดงาม อีกคนหนึ่งคือกู้เสี่ยวอี้ที่งดงามราวกับหยกแกะสลัก ทั้งยังมีกู้ฟางสี่ผู้ใจดี ควางซื่อจึงรู้สึกมีความสุขมาก
ช่างมีชีวิตชีวา!
เมื่อควางซื่อได้เห็นกู้เสี่ยวอี้มีความสุขเช่นนี้ ดังนั้นจึงชดเชยความหิวที่ไม่เคยนึกถึงในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา และรับประทานข้าวไปถึงสามชามติด เสิ่นเจี้ยนเซินก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อย “ฮูหยิน เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
ภรรยาของเขา นางไม่เคยกินอาหารมากขนาดนี้ การที่นางรับประทานอาหารได้ถึงหนึ่งชามก็ถือว่าน่าเหลือเชื่อแล้ว!
“ข้าสบายดี ข้าเพียงแค่หิวเท่านั้น อาหารที่ฟางสี่ทำอร่อยจริง ๆ!” ควางซื่อส่ายหน้า
กู้ฟางสี่ไม่คาดคิดว่าควางซื่อจะเรียกตนเองด้วยความสนิทสนมเช่นนี้ มันทำให้นางตกตะลึงเล็กน้อย เมื่อดึงสติกลับมาได้จึงพูดด้วยรอยยิ้ม “ฮูหยินเสิ่นชอบก็กินเยอะ ๆ นะเจ้าคะ ข้าก็เรียนรู้ฝีมือการทำอาหารมาจากเสี่ยวหวานอีกที! เสี่ยวหวานทำอาหารอร่อยมาก! ตราบใดที่นางอยู่บ้าน ข้าจะช่วยนางทำอาหารเสมอ!”
“ท่านอา ฝีมือของท่านดีพอ ๆ กับท่านพี่เลย!” กู้เสี่ยวอี้เบือนหน้าหนีและแอบเช็ดน้ำตาเงียบ ๆ เมื่อนางหันกลับมาดวงตานั้นก็ขึ้นสีแดงก่ำ มันทำให้หัวใจของควางซื่อเจ็บปวด
“ข้าไม่รู้ว่าพี่สาวของเจ้าจะได้ออกมาเมื่อไหร่!” เมื่อกู้ฟางสี่พูดถึงกู้เสี่ยวหวาน นางก็ไม่อาจเก็บความรู้สึกเจ็บปวดได้อีกต่อไป และรีบเช็ดน้ำตา
ความรู้สึกอึดอัดก่อนขึ้นบนโต๊ะอาหาร ทำให้ความอยากอาหารหมดลง ดังนั้นพวกเขาจึงไปที่ห้องโถงเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้
เสิ่นเจี้ยนเซินเล่าเรื่องที่ตัวเองไปเมืองหลิน แต่ไม่พบคนขายฝ้ายหยกขาวให้ทุกคนฟัง กู้หนิงอันก็ต้องขมวดคิ้วมุ่น
คนที่ขายฝ้ายหยกขาวในเมืองหลินหายตัวไป หมายความว่าอย่างไร?
ไม่มีใครเคยเห็นเสิ่นเหวินเจวี้ยนไปที่เมืองหลินจึงไม่มีใครรู้ว่าเขาซื้อฝ้ายหยกขาวมาจากเมืองหลิน และแน่นอนว่าไม่มีใครรู้ว่ากู้เสี่ยวหวานซื้อฝ้ายหยกขาวชนิดใด!
เสิ่นเหวินเจวี้ยนจะไม่พบเจอปัญหาใหญ่ใด ๆ อย่างน้อยที่สุดเขาจะถูกเฆี่ยนและถูกขังไว้ในห้องด้วยข้อหาพูดความเท็จ ชีวิตของเขาจะไม่ตกอยู่ในอันตราย!
แต่กู้เสี่ยวหวานนั้นแตกต่าง ที่มาที่ไปของฝ้ายหยกขาวไม่ชัดเจน และไม่มีใครเป็นพยานให้นางได้!
ถ้าฝ้ายหยกขาวเป็นของปลอม แน่นอนว่ามีหลักฐานแน่นหนา กู้เสี่ยวหวานฆ่าคนเพื่อเงิน ดังนั้นนางจึงหนีไม่พ้นโทษประหาร!
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ใบหน้าของกู้หนิงอันก็ซีดลงทันที ถ้วยชาในมือของเขาตกลงไปที่พื้นอย่างไม่สามารถควบคุมได้!
กู้เสี่ยวอี้มองไปที่มัน แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของพี่ชาย นางก็รู้สึกหวาดกลัวเช่นกัน!
“ท่านพี่ ท่านเป็นอะไรไป?” กู้เสี่ยวอี้กำลังช่วยกู้ฟางสี่อยู่ในครัว นางจึงไม่ได้ยินสิ่งที่คู่สามีภรรยาเสิ่นพูด!
เมื่อเห็นกู้เสี่ยวอี้ กู้หนิงอันรีบตบมือน้องสาวแล้วพูดด้วยความโล่งใจว่า “ข้าสบายดี ไม่ต้องกังวล!”
กู้เสี่ยวอี้จะรู้สึกสบายใจได้อย่างไร นางจับมือของกู้หนิงอันแน่นไม่ยอมปล่อย
เมื่อควางซื่อเห็นว่าสองพี่น้องรักใคร่กันดีเพียงใด ก็พลันคิดถึงลูกชายของนางที่โดดเดี่ยวมาตลอด ไม่มีพี่น้องอยู่เคียงข้างคอยปรึกษาและพูดคุยกัน ดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจ!
คงจะดีมากถ้านางสามารถทำให้กู้เสี่ยวอี้มาเป็นน้องสาวและลูกสะใภ้ในเวลาเดียวกันได้!
แต่ตอนนี้เราต้องช่วยเหวินเจวี้ยนและอันผิงจวิ้นจู่เสียก่อน!
“ข้าจะส่งคนไปตามหาคนคนนั้น! ในเวลานั้นอาจเป็นเพราะช่วงส่งท้ายปีคนคนนั้นจึงบังเอิญอยู่ในเมืองหลิน ดังนั้นจึงบังเอิญเจอเขา!” เสิ่นเจี้ยนเซินพูดอย่างจริงจังราวกับว่าเขาจะไม่ยอมแพ้จนกว่าเขาจะบรรลุเป้าหมาย
“ขอบคุณนายท่านเสิ่น!” กู้หนิงอันรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง!
ในห้องโถงเกิดความเงียบขึ้น ไม่มีใครพูดอะไร พวกเขาทั้งหมดกำลังคิดว่าจะช่วยเหลือกู้เสี่ยวหวานและเสิ่นเหวินเจวี้ยนอย่างไร!
ทันใดนั้น โค่วไห่ก็วิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าเศร้าหมอง “นายน้อย คุณหนู ข้าได้ยินจากกองกำลังรักษาความสงบ ตอนนี้คดีของคุณหนูได้รับการรับพิจารณาแล้ว โดยจะนัดไต่สวนในวันพรุ่งนี้!”
“เร็วจัง…” เมื่อควางซื่อได้ยินสิ่งนี้ นางจึงผุดลุกจากที่นั่ง แล้วมองไปทางเสิ่นเจี้ยนเซิน ซึ่งใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเช่นกัน “นายท่าน…”
กองกำลังรักษาความสงบมีหน้าที่รวบรวมหลักฐาน แต่ถ้าพวกเขาต้องการตัดสินใครสักคน พวกเขาต้องไปศาลาว่าการ !
เมื่อเปิดการไต่สวนเพื่อสอบถามความผิด และจะพิสูจน์ได้ว่าพวกเขารวบรวมหลักฐานได้ครบแล้ว!
หลังจากที่กู้เสี่ยวอี้รู้เรื่องนี้ ร่างของนางซวนเซหากไม่ใช่เพราะสายตาที่เฉียบคม และมือที่รวดเร็วของกู้หนิงอันพยุงนางไว้ กู้เสี่ยวอี้คงจะล้มลงไปแล้ว
เมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวของกู้เสี่ยวอี้ ควางซื่อพลันเศร้าใจ แต่ตอนนี้นางจะทำอะไรได้อีก
“ข้าจะไปหาใต้เท้าหมิ่นเสวียซือและถามอย่างละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น!” เสิ่นเจี้ยนเซินรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ง่าย และตอนนี้เขาต้องหาใครสักคนเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับคดีนี้ ดูว่ากองกำลังรักษาความสงบพบหลักฐานใด วิธีนี้เท่านั้นที่จะพบช่องโหว่และช่วยอันผิงจวิ้นจู่ได้!
เมื่อเห็นว่าเสิ่นเจี้ยนเซินกำลังยื่นมือเข้ามาช่วย กู้หนิงอันและกู้เสี่ยวอี้ก็คุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว!
กู้หนิงอันเกลียดตัวเอง เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นบัณฑิต แต่เขาก็ยังไร้อำนาจ
ครั้งหนึ่งเขาเคยกล่าวไว้ว่าเมื่อโตขึ้นจะปกป้องพี่สาวของตนเอง แต่ตอนนี้เขาโตแล้ว แต่ก็ยังปกป้องพี่สาวของเขาได้ไม่ดีพอ!
คู่สามีภรรยาเสิ่นรีบเดินไปข้างหน้าเพื่อประคองสองพี่น้อง แต่กู้หนิงอันกลับคุกเข่าไม่ขยับ!
“นายท่านเสิ่น ขอบคุณ!” กู้หนิงอันคำนับเสิ่นเจี้ยนเซินสามครั้ง
เสิ่นเจี้ยนเซินเห็นว่ากู้หนิงอันสุภาพมากก็พูดว่า “หนิงอัน ข้าเพิ่งบอกว่าจะไปหาใต้เท้าหมิ่น แต่… เขาจะต้องการพบข้าหรือไม่และจะยอมช่วยหรือไม่ ข้าไม่รู้เลยเลยจริง ๆ!ข้าเป็นแค่พ่อค้า มันยากที่จะบอกว่าเขาจะเต็มใจช่วยข้าสักนิดหรือไม่!”